ใครอยากเป็นดาว TikTok ยกมือขึ้น! แนะนำ 3 แอปพลิเคชัน ไว้ตัดคลิป ใช้งานง่าย ลูกเล่นหลากหลาย เตรียมกลายเป็น TikToker สุดปัง!
1. Kinemaster (คิเนมาสเตอร์)
เป็นแอปฯ สัญชาติเกาหลี ขึ้นชื่อเรื่องความเสถียร ไม่ค่อยมีปัญหาหน่วงหรือกระตุกมากวนใจ และเพิ่งจะออกเวอร์ชันใหม่ 6.0 มาให้ดาวน์โหลดไปใช้กัน ซึ่งหน้าจอหลักของแอปฯ เวอร์ชัน 6.0 จะเป็นแนวตั้ง จากเดิมที่เข้ามาถึงจะเป็นแนวนอน เพื่อให้สามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเวลาเลื่อนดูเทมเพลต หรือ รูปแบบโปรเจคต่าง ๆ ที่ทางแอปฯ ทำมาให้เสร็จแล้ว เพียงแค่ไปเปลี่ยนคลิปหรือรูปในเทมเพลต ก็จะได้คลิปสวย ๆ ไปลง TikTok แล้ว
ในส่วนรูปแบบการทำงาน เมื่อเข้าไปที่หน้าตัดต่อของแอปฯ จะยังคงเป็นแบบแนวนอน เพื่อการตัดต่อที่ลื่นไหล สามารถวางนิ้วเลื่อนไทม์ไลน์ได้ง่าย ไม่ต้องไถหลายที สำหรับอัตราส่วนของวิดีโอ มีให้เลือก 7 แบบ ถือว่าค่อนข้างน้อยหากเทียบกับแอปฯ อื่น ๆ แต่เพียงแค่อัตราส่วนพื้นฐาน อย่าง 16:9 4:3 1:1 โดยเฉพาะ 9:16 ที่ใช้ลง TikTok ทางแอปฯ ก็มีมาให้ครบ เครื่องมือการตัดต่อขั้นพื้นฐาน ก็มีมาให้ครบ ทั้งตัดคลิป คัทชน ปรับระดับเสียง ตัดฉากเขียว รวมถึงฟอนต์ตัวหนังสือ ก็มีมาให้หลากหลาย โดยเฉพาะฟอนต์ภาษาไทย ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี
ในส่วนของเพลงและเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ถือเป็นจุดเด่น เพราะมีให้เลือกจำนวนมาก สามารถนำมาใช้ตัดต่อลงวิดีโอบนโซเชียลมีเดียได้เลย ไม่ติดลิขสิทธิ์ แต่หากใครลงคลิปไปแล้วมีปัญหา สามารถกดรูปเครื่องหมายคำถามที่มุมบนขวาของหน้าจอหลักเพื่ออีเมลไปสอบถามได้ ซึ่งจะมีทีมงานคอยจัดการให้
Kinemaster สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดถึงระดับ 4K 60 เฟรมเรท แต่เมื่อตัดต่อวิดีโอเสร็จแล้ว จะมีลายน้ำอยู่ที่มุมบนขวาของคลิป ซึ่งถ้าจะเอาออกต้องสมัครสมาชิกพรีเมียม แบบรายเดือน 139 บาท หรือแบบรายปี 1,420 บาท ซึ่งก็จะทำให้เข้าถึงเอฟเฟกต์และสติกเกอร์ต่าง ๆ ได้มากขึ้นด้วย
2. CapCut
เป็นแอปฯ จากจีน ใช้งานแนวตั้ง ดังนั้น จึงเหมาะกับการตัดคลิปลง TikTok เป็นอย่างมาก โดยการใช้งานเมื่อเข้ามาถึงหน้าแรก สามารถกดเริ่มโปรเจคได้เลย แต่ก่อนเข้าไปเริ่มกัน อยากให้ดูแถบด้านล่างก่อน จะมีคำว่าแม่แบบอยู่ เมื่อกดเข้าไปดูจะพบว่า ส่วนมากจะเป็นแนวตั้ง ตรงคำว่าแนะนำ ซึ่งแอปฯ จะเลือกเพลงและแนวทางการตัดต่อที่เป็นกระแสใน TikTok มาแสดงให้เลือกใช้งานกันได้ตามสบาย ส่วนเพลงต่าง ๆ ถ้าใช้ตามแม่แบบ ส่วนมากจะเป็นเพลงที่มีใน TikTok อยู่แล้ว
เมื่อเข้าไปเริ่มโปรเจคตัดต่อ ก็จะพบว่า CapCut มีอัตราส่วนมาให้เลือกถึง 9 แบบ ถือว่าเยอะพอสมควร ส่วนเครื่องมือตัดต่อพื้นฐานมีครบ เพิ่มเติมคือ มีโหมดความงาม ปรับให้ผิวเนียนใส โหมดปรับความสูง ปรับให้ขายาว ๆ ตัวสูง ๆ โหมดตัดพื้นหลังแบบไม่ต้องพึ่งฉากเขียว หรือ Green Screen โหมดปรับความเร็วแบบอิสระ ที่เลือกได้ว่าอยากให้ช่วงไหนเร็วหรือช้าลง และโหมดสุดท้ายคือ โหมดลดการสั่นไหว
สำหรับตัวหนังสือ เอฟเฟกต์ และสติกเกอร์ มีมาให้เยอะพอสมควรและมีรูปแบบหลากหลาย ส่วนลายน้ำ แอปฯ นี้จะมีเป็นคลิปสั้น ๆ 3 วินาทีต่อท้ายคลิป ซึ่งสามารถลบออกได้ สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดถึงระดับ 4K 60 เฟรมเรท และแอปฯ นี้ สามารถใช้งานได้ทุกฟังก์ชันโดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเลย
3. InShot
เป็นแอปฯ จากสิงคโปร์ โดดเด่นเรื่องการใช้งานง่าย เป็นแอปฯ ตัดต่อแนวตั้ง เหมาะกับ TikTok มาก ๆ เมื่อเข้ามาถึงหน้าแรก จะเห็นตัวเลือกสร้างใหม่ 3 ปุ่ม ได้แก่ วิดีโอ รูปภาพ และการทำภาพปะติด หรือ Collage แต่ในทีนี้จะพูดถึงเฉพาะงานวิดีโอ ซึ่งมีเครื่องมือพื้นฐานมาให้ครบ ทั้งคัทชน ตัดคลิป ปรับระดับเสียง ใส่ข้อความ แยกคลิป เหมือนกับแอปฯ อื่น ๆ แต่ที่พิเศษคือ แอปฯ นี้มีอัตราส่วนให้เลือกถึง 14 แบบ เยอะมาก ๆ
สำหรับตัวหนังสือ มีฟอนต์พื้นฐานมาให้ แต่จะมีผลกับภาษาอังกฤษเท่านั้น หากอยากได้ฟอนต์ไทย สามารถดาวน์โหลดเข้ามาได้ แต่ต้องดูโฆษณา 1 ตัวต่อ 1 ฟอนต์ เช่นเดียวกับสติกเกอร์หรือเอฟเฟกต์บางตัว รวมถึงการนำลายน้ำที่ฝังอยู่ด้านล่างขวาของคลิปออก แต่ถ้าอยากใช้งานแบบลื่นไหลไม่มีโฆษณาคั่นสามารถสมัครใช้งาน InShot Pro แบบรายเดือน 129 บาท หรือแบบรายปี 409 บาท หรือแบบซื้อขาดราคา 1,250 บาท
ในส่วนหน้าตาของตัวแอปฯ ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ดูสบายตาและดูง่ายมาก ๆ สมกับคอนเซ็ปต์ที่ต้องการออกแบบมาให้ใช้งานง่าย แต่เรื่องเพลงต่าง ๆ ที่มีให้ใช้ในแอปฯ InShot ต้องคอยระมัดระวัง เพราะบางเพลงอาจจะติดลิขสิทธิ์ โดยใน TikTok ก็มีฟีเจอร์ตรวจจับเรื่องนี้เหมือนกัน ทั้งนี้ InShot สามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุดถึงระดับ 4K 60 เฟรมเรท เช่นเดียวกัน
ติดตาม รายการ “แบไต๋ 7HD ไอทีและยานยนต์” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.20-12.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/20kwtQMoXJs