จากประเด็น "หนังหน้าครู" ที่ทำจากหนังมนุษย์ โดยเป็นเรื่องราวที่ถูกสืบทอดกันต่อมา แต่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ โดยเชื่อว่าถ้าใครบูชา จะเป็นมงคล สมพรดั่งใจหวัง ทั้งนี้ หนังหน้าครูดังกล่าง จะเป็นตำนานที่มีอยู่จริง หรือเรื่องราวที่คิดกันไปเองกันแน่!?
วันที่ 6 มิ.ย. 2565 ปิ๋ม ซีโฟร์ ดารานักแสดง เผยว่า คุณจิลล์ได้ติดต่อเข้ามาให้ไปสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้าน โดยที่ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไร พอไปถึงบ้านคุณจิลล์แล้ว ก็รู้สึกตื้นตันแปลกๆ รู้สึกเหมือนมีคนรอตนอยู่ ทำให้ร้องไห้ออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
พอตนได้เจอ หนังหน้าครู ก็รู้สึกว่าผูกพันธ์ และร้องไห้ออกมาไม่หยุด และยังรู้สึกว่าเขาคือ แม่เฒ่า ที่เคยสอนตนมาเมื่อครั้งอดีต ทำให้ตนรู้สึกผิดเพราะเหมือนละเลยท่าน จึงกราบไหว้ขอขมา ต่อมาก็ได้ทราบว่า พ่อเฒ่าแม่เฒ่า ท่านอยากให้คนรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ อยากให้ลูกศิษย์ลูกหากลับมากราบไหว้เขา ซึ่งตนก็ได้สัญญาว่าจะทำให้คนรู้จัก เพราะท่านทำให้ตนสมดั่งใจหวัง กับเรื่องที่ขอไป
ด้าน จักรพงศ์ การสมพรต หรือ จิลล์ นักสะสมกุมารทองและเครื่องรางของขลัง เล่าว่า ตนได้หนังหน้าครูมาทั้งหมด 21 หน้า โดยได้มาจากคุณลุงคนหนึ่งเมื่อปี 2553 โดยได้บอกว่าให้ตนเป็นคนเอาไปดูแลแทน เพราะเขาแก่แล้ว ไม่รู้ว่าจะอยู่ดูแลได้อีกเท่าไหร่ โดยคุณลุงเล่าเพิ่มว่า เมื่อก่อนหนังหน้าครูจะอยู่ในคณะละครต่างๆ ต่อมาคณะละครก็ค่อยๆยุบไปจนมารวมกัน จึงนำกลับมาไว้ที่บ้าน หลังจากเก็บไว้เกือบ 10 ปี ในปี 2561 ได้นำหนังหน้าครูครูออกมา เพราะฝันว่า มีครูละครมารำแก้บน
ทั้งนี้ เคยนำหนังหน้าครูไปให้กรมศิลฯ แต่ทางกรมศิลฯ บอกว่าของพวกนี้ไม่มีอยู่ในประวัติสารบบ ไม่ขอรับเอาไว้ พอได้ลองสืบประวัติดูก็พบว่า ประวัติของเขานั้นมีมาตั้งแต่ สมัยอยุทธยาตอนต้น ถึงอยุทธยาตอนกลาง แล้วก็หายไป ทำให้ไม่ได้ถูกบันทึกไว้
ขณะที่ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญนิติเวชศาสตร์ มศว. เผยว่า ด้วยสภาพที่เก่า หลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลง จะบอกด้วยสายตาอย่างเดียวนั้นยาก แต่สามารถพิสูจน์ โดยดูที่รูขุมขนของหนัง และลายของหนังเพื่อจำแนกว่าเป็นของคน หรือสัตว์ หรือนำไปตรวจดีเอ็นเอก็จะสามารถระบุอายุได้
ทั้งนี้ ใบหน้าของมนุษย์ สามารถเลาะมาทำแบบนี้ได้ จะมีลักษณะแบบเดียวกับการทำมัมมี่ โดยใช้สภาพแวดล้อมที่ร้อน และแห้ง ทำให้เกิดประบวนการขึ้น และไม่เน่าสลาย
ขณะเดียวกัน ดร.สุรัตน์ จงดา อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ ให้ความเห็นว่า อาจจะเป็นความเชื่อของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ตนก็จะไม่ล่วงเกิน โดยหนังหน้าครูในทางนาฏศิลป์นั้น เขาจะเรียกว่า "หนังใหญ่" หรือ "หนังตะโพน" ซึ่งทำจากหนังวัว หนังควาย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหนังของมนุษย์
อย่างไรก็ตาม การนำหน้ามนุษย์ มาทำหน้าครู นั้นไม่มี เพราะเรานับถือครูบาอาจารย์ ผู้ให้ความรู้ต่างๆ เหมือนพ่อแม่ จะไม่มีการนำหนังของเขา มาทำหน้าครู ส่วนประเด็นที่กรมศิลฯเขาไม่รับเป็นวัตถุโบราณ เพราะว่า ไม่มีประวัติความเป็นมาที่แน่นอน
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com
+ อ่านเพิ่มเติม