logo ถกไม่เถียง

“หนังหน้าครู” เลาะหน้าคนตายขึ้นหิ้งบูชา ตำนานไร้ผู้บันทึก หรือ ไม่เคยมีอยู่จริง?

ถกไม่เถียง : เรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธามีหลากหลาย และหนึ่งในความเชื่อที่สืบทอดกันมา คือการบูชา หนังหน้าครู ซึ่งเป็นผิวหน้าจริงๆ ของคร ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,ช่อง7HD,TERODigital,บูชา,หนังหน้าครูโขน,นาฏศิลป์,ความเชื่อ,กราบไหว้,ขึ้นหิ้ง,หน้าศพมนุษย์,จิลล์,อายุร้อยปี,ปิ๋มซีโฟร์,ครูอดีตชาติ,ครูโขน,วิทยาศาสตร์,เลาะหน้าคนตาย,มรดก,หมอหมู

16,070 ครั้ง
|
06 มิ.ย. 2565
        เรื่องราวเกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธามีหลากหลาย และหนึ่งในความเชื่อที่สืบทอดกันมา คือการบูชา หนังหน้าครู ซึ่งเป็นผิวหน้าจริงๆ ของครูที่เสียชีวิตไปแล้ว เชื่อว่าการบูชาหนังหน้าครู เพื่อเป็นการขอพร ขอความสำเร็จ 
 
ถกไม่เถียง : หนังหน้าครู เลาะหน้าคนตายขึ้นหิ้งบู
 
            วันที่ 6 มิ.ย. 2565 ปิ๋ม ซีโฟร์ ดารานักแสดง ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ใจความว่า คุณจิลล์ได้ติดต่อเข้ามาให้มาสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้าน ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าคืออะไร พอไปถึงที่บ้านคุณจิลล์ก็รู้สึกตื้นตันแปลกๆ แล้วอยู่ๆก็ร้องไห้ออกมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ และตนรู้สึกเหมือนมีคนรอตนอยู่ จึงได้ถามว่าคุณจิลล์ว่า ใครรอตนอยู่ คุณจิลล์ก็บอกว่า เขารอตนมานานแล้ว ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าภายในห้องคืออะไร
 
            พอเปิดประตูเข้าไป ก็เจอหนังหน้าครู ตอนนั้นก็ร้องไห้ออกมาไม่หยุด โดยไม่รู้ว่าร้องไห้เพราะอะไร แต่ในความรู้สึกของตน คือดีใจ เหมือนผูกพันธ์ใกล้ชิด กับของสิ่งนี้ และตนยังรู้สึกสัมผัสว่ามีคนพูดกับตนว่า "มึงมาได้แล้วหรอ กูรอมึงอยู่" พอยิ่งคลานเข้าไปใกล้ๆ ก็รู้สึกผูกพันธ์กับหนึ่งในหน้านั้น เพราะเขาเป็นแม่เฒ่าที่สอนตนมา และตอนนั้นก็รู้สึกผิดที่ละเลยครู หลังจากนั้นก็เพ้อกับตัวเองว่า พ่อเฒ่าแม่เฒ่าที่อยู่ตรงนี้ เขาอยากให้ทุกคนรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้ อยากให้ลูกศิษย์กลับมากราบเขาที่ตรงนี้ ซึ่งตอนนั้นตนก็อยากพิสูจน์ว่าตนสื่อสารจากพ่อเฒ่าแม่เฒ่าถูกหรือเปล่า เพ้อไปเองหรือเปล่า จึงได้กราบขอขมาเขาอีกครั้ง จนรู้สึกว่าพ่อเฒ่าแม่เฒ่า ได้บอกตนถึงสิ่งที่คุณจิลล์มีเก็บไว้ โดยที่ตนไม่รู้ แต่มันมีอยู่จริง ซึ่งคุณจิลล์ก็หยิบมาให้ดูว่ามันมีจริงๆ
 
ถกไม่เถียง : หนังหน้าครู เลาะหน้าคนตายขึ้นหิ้งบู
 
            ส่วนสิ่งที่เขาอยากให้ตนทำ คือ เขาอยากให้ทุกคนรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้ ตนก็ไม่รู้จะทำยังไง จึงขอพ่อเฒ่าแม่เฒ่าว่าถ้าตนได้ดั่งใจหวังก็จะทำให้ ซึ่งที่ตนขอไปก็สำเร็จทุกอย่าง โดยวันนี้ที่มาออกรายการก็เพื่อ อยากได้ความกระจ่างว่าทำไมตนถึงผูกพันธ์ และอยากได้ความรู้เพิ่มเติม  
    
ถกไม่เถียง : หนังหน้าครู เลาะหน้าคนตายขึ้นหิ้งบู
 
            ขณะที่ จักรพงศ์ การสมพรต หรือ จิลล์ นักสะสมกุมารทองและเครื่องรางของขลัง เล่าว่า ได้หนังหน้าครูมาทั้งหมด 21 หน้า โดยได้มาจากคุณลุงคนหนึ่งเมื่อปี 2553 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเขาถามตนว่าเป็นดาราหรือเปล่า และได้บอกว่าให้ตนเป็นคนเอาไปดูแลแทน เพราะไม่รู้ว่าตนจะอยู่ดูแลได้อีกเท่าไหร่ โดยคุณลุงท่านนี้เล่าว่า เมื่อก่อนมันจะอยู่ในคณะละครต่างๆเมื่อสมัยก่อน ต่อมาคณะละครก็ค่อยๆยุบไปจนมารวมกัน โดยมาจาก แถวคลองมโนราห์ จ.อยุทธยา พอสืบเรื่องราวเสร็จ ก็นำกลับมาบ้าน แต่ก็ไม่เคยนำออกมาจากกล่องเลย เพราะไม่รู้จะบูชายังไง
 
            กระทั่งปี 2561 นำครูออกมา เพราะฝันว่า มีครูละครมารำแก้บน โดยก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้นำออกมา เพราะไม่มีโอกาส และเหมือนเป็นจังหวะเวลาที่ได้เจอคุณปิ๋มด้วย ทำให้ทุกอย่างกระจ่างขึ้นมา
 
ถกไม่เถียง : หนังหน้าครู เลาะหน้าคนตายขึ้นหิ้งบู
 
            ทั้งนี้ เคยนำเอาไปให้กรมศิลฯ แต่ทางกรมศิลฯ บอกว่าของพวกนี้ไม่มีอยู่ในประวัติสารบบ จะมีแต่พวกหัวครู หัวโขน ต่างๆ ตนสืบเสาะว่า จนได้เรื่องราวว่าทุกปีเขาจะมีการบวงสรวงไหว้ บางที่ก็จะมีการลงทรงครูด้วย เพื่อให้ลูกหลานแสดงรำได้ดี โดยประวัติของเขานั้นมีมาตั้งแต่ สมัยอยุทธยาตอนต้น ถึงอยุทธยาตอนกลาง แล้วก็หายไป ถึงบอกได้ว่าประวัติศาสตร์บางอย่างก็ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ แต่ก็ยังทำให้ตนอยากรู้ว่าหนังอันนี้ คือหนังอะไร     
 
             ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญนิติเวชศาสตร์ มศว ให้ความรู้เพิ่มเติมว่สา ด้วยสภาพที่เก่า หลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลง จะบอกด้วยสายตาอย่างเดียวนั้นยากว่า เป็นหนังของอะไร แต่ก็มีวิธีพิสูจน์อยู่ โดยสามารถใช้กล้องขยายดู ให้ดูที่รูขุมขน เพราะถ้าเป็นของทำเลียนแบบจะไม่มี ถ้าเกิดเป็นของสิ่งมีชีวิตก็ต้องมาแยกกว่าเป็นของมนุษย์ หรือของสัตว์ ให้ตจรวจลายของผิวหนัง ซึ่งมันจะมีความต่างกัน ส่วนอีกอย่างหนึ่งที่สามารถทำได้ คือการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างการตรวจดีเอ็นเอ เพราะอาจจะตรวจได้ และสามารถระบุได้ด้วยว่าอายุเท่าไหร่ 
 
             ทั้งนี้ ใบหน้าของมนุษย์ สามารถเลาะมาทำแบบนี้ได้ ซึ่งผิวหนังของคนจะมี ชั้นผิวหนัง ชั้นไขมัน และชั้นกล้ามเนื้อ โดยวิธีทำให้เลาะที่ชั้นไขมันให้ติดกับชั้นผิวหนัง ขณะเดียวกัน ที่มีสภาพแบบนี้ เพราะจะเหมือนกับการทำมัมมี่ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ต้องมีอากาศร้อนแห้ง ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน และจะไม่เกิดกระบวนการเน่า หรืออืด สีก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล คล้ายกระดาษ       
 
ถกไม่เถียง : หนังหน้าครู เลาะหน้าคนตายขึ้นหิ้งบู
 
             ขณะเดียวกัน ดร.สุรัตน์ จงดา อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ เล่าว่า อาจจะเป็นความเชื่อของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ตนก็จะไม่ล่วงเกิน แต่ถ้าพูดถึง หนังหน้าครู หนังครู คนในนาฏศิลป์จะเข้าใจว่าเป็น "หนังใหญ่" มากกว่า โดยหนังใหญ่ทำจากหนังวัว หนังควาย ทำขึ้นเพื่อการแสดง อีกประการคือ "หนังตะโพน" ซึ่งทำจากหนังวัว โดยเราถือว่า ตะโพน เป็นครูทางด้านดนตรี เวลาไหว้ครูดนตรี ก็จะเอาดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้ที่ตะโพน หรืออีกความาเชื่อ ถ้าใครออกเล่นดนตรี ละคร โขน แล้วประหม่า ก็ให้ไปขอน้ำล้างหน้าตะโพนมาดื่มมากินเพื่อความเป็นมงคล ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้หนังวัวทำ ไม่เกี่ยวกับหนังมนุษย์ เพราะหนังมนุษย์มันบาง
 
             อย่างไรก็ตาม หน้าครู ในทางนาฏศิลป์ หมายถึง หน้าโขน ซึ่งทำด้วยกระดาษ และที่เรียกว่าหน้าครู เพราะจะมีหน้าครูที่ใช้เคารพบูชา อาทิ หน้าฤาษี หน้าพระอิศวร พระพหรม พระนารายณ์ ฯลฯ เราจะถือว่าเป็นครู แต่ครูอาจารย์สมัยโบราณ อาจจะมีการลงยันต์ คาถาเพื่อความเป็นมงคล เป็นเคล็ดลับของครูแต่ละท่าน 
 
             ส่วนหน้ามนุษย์ มาทำหน้าครู นั้นไม่มี เพราะเราถือความกตัญญู ตามหลักศาสนา ซึ่งเวลาละลึกถึงครูบาอาจารย์ ก็คือการทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้ครู โดยทางนาฏศิลป์ถือว่าครูเป็นผู้ให้วิชาความรู้ เหมือนเป็นพ่อแม่คนที่สอง เมื่อครูบาอาจารย์สิ้นชีวิตก็จะไม่มีทางไปถลกหนังของครูมาทำอะไรทั้งสิ้น   
 
             ที่ทางด้าน กรมศิลฯ เขาไม่รับ เพราะว่าแม้จะเป็นวัตถุโบราณอายุ 100 ปี แต่ก็ไม่มีประวัติความเป็นมาที่แน่นอน และได้แนะนำว่า ให้นำไปจำเริญ หรือเผาทิ้ง และทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้เขาซะ
 
        ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com
 
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/MvRSWTVA9ss