แฉ! บังแจ็ค พฤติกรรมแสบสนั่นโซเชียล จับตาว่าที่ ทนายแม๊ชุดใหม่ : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

1,755 ครั้ง

26 พ.ค. 2565

แชร์ข่าวไปที่

จากกรณีที่ บังแจ็ค ออกมายอมรับว่ามือถือแตงโม อยู่ที่ตนเอง โดยที่คุณแม่ของแตงโม เป็นคนส่งมาให้ พร้อมทั้งอนุญาตให้โพสต์ภาพได้ ล่าสุด ทนายเดชา ประกาศถอนตัวเป็นทนายให้แม่แตงโม เหตุความเห็นทางคดีไม่ตรงกัน แต่ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย คณะทำงานด้านกฏหมาย ติดตามคดีแตงโมของ ส.ส. มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เล่าว่า ตนรู้ข่าวเรื่องทนายเดชาก็รู้สึกตกใจ จึงอยากจะพูดคุยกับทีมงานอีกครั้งหนึ่งเพื่อหาแนวทางใหม่ก่อน ส่วนแนวทางเดิมที่เคยดำเนินไปแล้วก็ยังคงยึดมั่นในจุดยืนต่อไปอยู่ ตอนจบกับคุณแม่ครั้งแรก ก็น้อยใจนิดหน่อย แต่ตนจะพยายามมองบวก และจะนำประสบการณ์ที่เจอมา นำมาแก้ไข ตนจะไม่โกรธคุณแม่ เพราะนับถือเหมือนแม่คนที่สอง

กรณีของบังแจ็คนั้น เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 65 บังแจ็คเคยโทรหาตน โดยบอกว่าได้คุยกับ โม อมีนา เพื่อนสนิทของแตงโม และได้อธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ทางโม อมีนา ก็เข้าใจ เลยโทรมาแจ้งตน ส่วนเรื่องโพสต์ต่าง ๆ เขาก็ยอมรับกับตนว่าเป็นคนทำ และเขาบอกว่าจุดประสงค์ของเขา ทำเพื่อต้องการช่วยคุณแตงโม ส่วนเรื่องเสียหายของบังแจ็ค ตนขอไม่แสดงความคิดเห็น เพราะข้อมูลตอนนี้ออกมาแค่ฝ่ายเดียว ในฐานะทนายจึงขอให้อยู่ในดุลยพินิจก่อน

ถกไม่เถียง : แฉ! บังแจ๊ค พฤติกรรมแสบสนั่นโซเชียล

ด้าน บัญชา สุชญา เจ้าของเพจ "ทนายอู๋สู้คดีเคียงข้างคุณ" เผยเรื่องการจัดตั้งทนายชุดใหม่ของคุณแม่ว่า จะมีการแถลงข่าวอย่างแน่นอน การที่ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ออกมาเปิดเผยว่าถอนตัวจากการเป็นทนายความของคุณแม่แล้ว ท้ายที่สุด การตัดสินใจต้องขึ้นอยู่กับคุณแม่ ซึ่งตอนนี้คุณแม่ยังไม่ได้ออกมาพูดอะไร เพียงแต่ทนายเดชาออกมาพูดเองก่อน หลังจากนั้นค่อยมาดูกันว่าพรรคไทยศรีวิไลย์จะดำเนินการอย่างไร

บัญชา กล่าวขอบคุณ ทนายเกิดผล ในความห่วงใย ตนยังไม่ได้พูดว่าจะนำบังแจ็คมาร่วมทีม ตนแค่กำลังพยายามจั่วหลักฐานจากบังแจ็คเท่านั้น เพราะตอนนี้มือถือส่วนตัวของคุณแตงโมอยู่ที่บังแจ็คซึ่งอาจมีข้อมูลที่น่าสนใจหลาย ๆ อย่าง นอกจากนั้นยังมีข้อมูลการติดต่อกับตัวละครสำคัญหลายตัว ซึ่งการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ มาปะติดปะต่อให้เกิดหลักฐานได้ จะนำไปสู่การตั้งสำนวนขึ้นมาใหม่อย่างที่เคยเอ่ยไปเท่านั้น

ขณะเดียวกัน เกิดผล แก้วเกิด ทนายความ มองประเด็นนี้ว่า บังแจ็ค เท่าที่ทราบ มีประวัติไม่ดีเท่าไหร่ ไม่มีความน่าเชื่อถือ ถามว่าวันนี้ หวังดีจริงหรือเพียงแค่หาผลประโยชน์ แนะพรรคไทยศรีวิไลย์และทีมกฎหมายต้องกลั่นกรอง แต่ส่วนตัวแล้วตนไม่เชื่อบังแจ็คเลย ต่อให้มีหลักฐานอยู่ในมือบังแจ็คยังไง จะเชื่อได้อย่างไรว่าบังแจ็คไม่ได้ต่อเติม ตัดแต่งมา สิ่งที่ได้มาจากต่างประเทศอาจเป็นหลักฐานเท็จก็ได้ เช่นเดียวกันกับคำพูดของ 5 คนบนเรือที่ตนไม่เชื่อตั้งแต่แรก

ส่วนประเด็นเรื่องโพสต์ส่วนตัว “มึงต้องเกลียดลูกขนาดไหน มึงถึงทำร้านลูกได้ขนาดนี้” ตนยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์เอง และยอมรับว่าเป็นคำพูดที่ไม่สุภาพ เพราะตนไม่นับถือ เนื่องจากคนรักลูกจริง ต้องปกป้องศักดิ์ศรีของลูก ลูกตายไปแล้วต้องรักลูกจนวันตาย ให้สมกับพูดที่ว่าอยากให้ลูกเกิดมาในชาติหน้าเป็นลูกแม่อีก

ด้าน เดวิด (David) ผู้ก่อตั้งและแอดมินเพจ CSI LA เผยข้อมูลของบังแจ็คว่า เป็นผู้ไม่มีหลักแหล่ง ไม่มีตัวตน หรืออาจจะเป็นมิจฉาชีพ เพราะจากการตรวจสอบ พบจุดสังเกตผิดปกติหลายจุด ทั้งที่อยู่ที่บังแจ็คอ้างว่าอยู่ที่ รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่เห็นนั้นเหมือนกับ รัฐอิลินอยส์ ประเด็นต่อมาคือใบขับขี่ที่มีการปลอมทั้งที่อยู่ และปีเกิด รวมถึงอายุของใบขับขี่ที่ระบุไว้แบบผิด ๆ ด้วย ประเด็นต่อมาคือเรื่องสัญชาติที่ตั้งข้อสงสัยว่าไม่น่าใช่อเมริกัน สังเกตุจากหนังสือเดินทางที่มีความแปลก ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นหนังสือเดินทางของปากีสถาน และชื่อของเขาก็ไม่ปรากฏในสารบบที่อเมริกาด้วยเช่นกัน บังแจ็คอาจเดินทางเข้าประเทศอเมริกาอย่างผิดกฎหมาย อีกเหตุคือเขาอาจจะใช้ชื่อปลอม โดยคนที่มีชื่อนามสกุลแบบนี้คือนักกีฬาคริกเกตต์ของปากีสถาน และนักการเมืองในปากีสถาน อีกทั้งฐานะของเขาที่นั่นก็ไม่ได้ร่ำรวย อาชีพที่ทำจริง ๆ คือ ขับรถอูเบอร์ (Uber)

เดวิด ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า บังแจ็ค มีประวัติเคยมอมสาวข่มขืนที่เมืองไทยขณะเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ที่โคราช โดยผู้เสียหายอยู่ชั้น ม.6 ตอนนั้นผู้เสียหายอับอายเลยไม่กล้าเอาเรื่อง นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย ไม่ใช่ทำแค่กับเด็ก กับผู้หญิงมีฐานะก็ทำ และยังมีพฤติกรรมถ่ายคลิปแบล็กเมล์ด้วย ซึ่งเงินที่บังแจ็คได้มาก็มาจากการแบล็กเมล์ผู้หญิง ตอนนี้ตนก็พยายามให้ผู้เสียหายออกมาเปิดตัว ซึ่งจะทำให้ผู้เสียหายอีกหลายรายออกมาเช่นกัน กรณีนี้ เป็นคดีพรากผู้เยาว์ มีสิทธิ์จะนำตัวเขากลับมาเมืองไทยได้

ด้าน ราชา ไฮเดอร์ หรือ บังแจ็ค ได้โทรศัพท์เข้ามาชี้แจงกับทางรายการว่า ตนมีบริษัทฯ อยู่ 3 ที่ คือที่นิวยอร์ก อิลลินอยส์ และแคลิฟอร์เนีย เป็นบริษัทขายกัญชา ซึ่งตอนนี้ตนอยู่ที่ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ และกำลังจะดึงข้อมูลทั้งหมดจากแอปฯ ในเครื่องของแตงโม ที่อัดเสียงตอนโทรเข้าโทรออกเอาไว้ และให้บริษัทฯ นอก เอาซอฟแวร์มาให้ตนกู้ข้อมูล เพื่อไม่ให้หลุดออกไปข้างนอก ยืนยันว่า หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดกลับเข้าโทรศัพท์แล้ว ก็จะส่งโทรศัพท์คืนคุณแม่อย่างแน่นอน ยืนยันว่าภาพส่วนตัวต่าง ๆ ของแตงโม จะมีไม่มีการปล่อยออกมาอย่างแน่นอน ประเด็นตอนโทรหากระติกนั้น ตนก็ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก Happy Melon Official เรียบร้อยแล้ว ตนทำคนเดียว ไม่ได้มีทีมงานคนไทยช่วย และประเด็นที่ ตำรวจไซเบอร์เผยว่าบังแจ็คห้ามเข้าประเทศถึงปี 69 นั้น ตนคิดว่าเขาน่าจะใส่ข้อหาเพิ่มเข้าไปทีหลัง

บังแจ็ค ออกมาโต้ CSI LA ว่า เรื่องล่วงละเมิดทางเพศ ตนปฏิเสธ เพราะเรื่องแบบนี้สร้างหลักฐานกันขึ้นมาได้ และหากไม่มีหลักฐาน ตนจะให้ทีมทนายดำเนินคดีกลับ ซึ่งตนไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพราะมันน่าเกลียด ส่วนกรณีเรื่องที่กล่าวว่าตนขับอูเบอร์ (Uber) ขอยืนยันว่าไม่ได้ขับ

ทั้งนี้ เรื่องทีมทนายที่จะตั้งขึ้นมาใหม่นั้น ตนก็โอเคอยู่แล้วเพราะ ส.ส. เต้ เป็นคนดู แถม ส.ส. เต้ ก็เรียกร้องความเป็นธรรมให้แตงโมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพียงแต่ทนายเก่าคุณแม่ไม่รับหลักฐาน และบอกว่าเขาสร้างหลักฐานเท็จ ส่วนหลักฐานชิ้นสำคัญที่ตนมี จะส่งมอบให้คุณแม่ไปจัดการต่อ โดยจะส่งกลับให้ในอีกไม่กี่วัน ล่าสุดได้คุยกับคุณแม่คือช่วงเช้าของวันนี้ เรื่องการปลดทนายเดชา ตนเห็นตรงกับประชาชนทั่วไป ที่ไม่เห็นด้วยกับทนายเดชา เพราะเขาทำคดีให้กับทางตำรวจ กับ 5 คนบนเรือมากกว่า

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com