ควันหลงเลือกตั้ง! ดรามาสนั่น ป้ายหาเสียง 'ชัชชาติ' เสี่ยงมีความผิด ปมแอบแฝงชักชวนจูงใจ #ถกข่าวร้อน

จากประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์เรื่องป้ายหาเสียง ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หลังได้คะแนนเลือกตั้งถล่มทลาย ใกล้จะหลายเป็นผู้ว่าฯกทม.สมัยที่ 17 ว่าป้ายหาเสียงนั้นเป็นการชักชวนให้ประชาชนมาลงคะแนนเสียงให้ตนทางอ้อม และเข้าข่ายมีความผิดหรือไม่ 

 

โดยก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเมื่อวันที่18 พ.ค.65 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องขอให้สำนักงาน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไต่สวนสอบสวนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กรณีทำป้ายหาเสียงเป็นผ้าไวนิลมีเจตนาแฝง เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถนำไปรีไซเคิล เพื่อทำเป็นกระเป๋าและผ้ากันเปื้อนได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเองด้วยวิธีการ จัดทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด

 

ทางทีมข่าวจึงได้ติดต่อตรวจสอบกับกกต. โดย กกต. ตรวจสอบแล้วยังไม่เห็นพฤติกรรมใดเข้าข่ายความผิด เพราะว่า นายชัชชาติ ไม่ได้ระบุ หรือว่ากล่างทางวาจาจะให้ป้ายหาเสียงกับชาวบ้านแต่อย่างใด เพียงแต่ นายชัชชาติ ได้แนะนำว่าป้ายหาเสียงนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ หรือนำไปรีไซเคิลได้ ซึ่งป้ายหาเสียงนั้น กกต.กทม. ได้อนุโลมให้เป็นทรัพย์สินของผุ้สมัครฯ และทางผู้สมัครฯ ต้องเก็บป้ายหาเสียงเหล่านั้นเอง แต่ก็เป็นที่น่าสังเกต หลังจากเกิดประเด็น นายชัชชาติ ก็ได้พูดว่าป้ายหาเสียงเหล่านี้ไม่ได้จะให้ประชาชนทั่วไป แต่จะให้ทีมงานใช้ และฝากถึงคนที่เก็บป้ายหาเสียงไป และนำไปขายต่อเริ่มต้นตั้งแต่ 300 บาท เรื่องนี้ต้องให้ฝ่ายกฎหมายให้ความเห็น 

 

ด้าน รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอซีย เผยว่า จากประเด็นที่กกต.บอกว่าไม่เข้าข่ายความผิด ต้องดูว่าได้ผ่านกระบวนการที่เป็นกระบวนการปกติของกกต. ไปจนถึงขั้นที่คณะกรรมการ หรือผู้ที่เป็นกรรมการ กกต. เป็นผู้พิจารณาหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ เราต้องฟังหูไว้หู แต่ข้อที่มีคนไปร้องเรียน คือ กฎหมายบอกไว้ว่าห้ามไม่ให้ผุ้สมัครฯ หรือผู้ใด กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมาลงคะแนนให้ตนเอง หรือผู้สมัครฯอื่น หรืองดเว้นไม่ให้ลงคะแนนแก่ตัวเอง หรือชักชวนไม่ให้เลือกคนอื่น ด้วยวิธีการดังนี้ สัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่คำนวนเป็นเงินได้ ตามที่คุณศรีสุวรรณร้องเรียน ทีนี้เราต้องมาดูว่าสิ่งที่คุณชัชชาติ พูดออกไป พูดในลักษณะไหน ต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริง ซึ่งถ้าบอกว่ามันสามารถเอาไปใช้ได้ อันนี้ไม่ได้หมายความว่าจะให้ แต่ถ้าเกิดบอกว่าหลังเลือกตั้ง เอาไปทำกระเป๋าได้เลย คือ สัญญาว่าจะให้ เข้าข่ายโดยตรง แถมคำนวนเป็นเงินได้ 

 

อีกข้อหนึ่ง คือ ทางผู้หาเสียงเสร็จทางผุ้สมัครฯ รู้หรือเปล่าส่วนใหญ่ชาวบ้านเป็นคนเก็บ เอาไปทำประโยชน์ต่างๆ ถ้ารู้มันก็อันตราย เพราะการที่ไปบอกว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ได้ แม้จะบอกว่าเป็นของทีมงาน เพราะท่านรู้อยู่แล้วว่าชาวบ้านจะเก็บไปใช้ ทีนี้หากคิดว่าไม่มีปัญหา และทีมกฎหมายเตรียมการไว้ดีแล้วเนี่ย ก็ไม่จำเป็นต้องไปแก้ พูดแก้มันจะทำให้พันตัวเอง เพราะฉะนั้นต้องระวังเรื่องการหาเสียง ควรพูดอะไรให้เป็นกลาง ทั้งนี้ หากจะโดน กกต. ลงโทษ ส่วนตัวคิดว่าอย่างมากก็ใบเหลือง แต่ถ้าใบเหลืองคราวนี้ กกต. ก็ต้องอธิบายให้ชัดเจน

 

ส่วนประเด็นที่ประชาชนเก็บป้ายหาเสียงไปนั้น ถ้า กกต. ยืนยันว่าป้ายหาเสียงเป็นทรัพย์สินของผู้สมัครฯ มันก็จะเข้าข่ายลักทรัพย์ แต่ทีนี้ใครจะไปดำเนินการกับประชาชนทั่วไป เพราะประชาชนส่วนใหญ่ก็เก็บเอาไปใช้ประโยชน์ เรียกค่าเสียหายคงได้ไม่เยอะ และไม่สามารถตามเก็บได้หมดทุกคน แถมประชาชนที่เก็บไปนั้นช่วย กทม. ทำความสะอาดอีกต่างหาก