คุณผู้ชมยังจำประเด็นที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์เกี่ยวกับกรณีที่หญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวที่เธอถูกน้าเขยข่มขืนตั้งแต่อายุ 14 ปี ซึ่งตัวเธอเองได้พยายามบอกเรื่องนี้กับทางน้าสาวแท้ๆและคุณแม่ของเธอ แต่กลับไม่มีใครเชื่อเธอ แถมยังต่อว่ากลับมาอีกด้วย จนสุดท้ายเธอต้องหนีออกจากบ้าน
หลังจากที่มีการเผยแพร่เรื่องราวของหญิงสาวคนนี้ ทางสื่อมวลชนหลายสำนัก ได้พยายามติดต่อเพื่อสอบถามว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ก็ยังไม่มีการออกมาเปิดเผยเรื่องราวต่อสาธารณชน
ล่าสุดทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ “คุณ บ.” อีกครั้ง เพื่อขอตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดยเธอยืนยันว่า เหตุกาณ์นี้เกิดขึ้นจริง และพร้อมที่จะเปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“คุณ บ.” เล่าว่า ปัจจุบันเธออายุ 28 ปีแล้ว เธอถูกน้าเขยกระทำอนาจารมานานกว่า 14 ปี โดนกระทำอนาจารไป 7-8 ครั้ง ซึ่งในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา เคยหนีออกจากบ้านเพื่อหนีให้พ้นจากน้าเขย โดยการกระทำอนาจารครั้งแรกตอนที่ตนเองมีอายุ 14 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่เธอเดินทางมาจากบ้านในต่างจังหวัด เพื่อเข้ามาเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในกรุงเทพ โดยต้องมาพักอาศัยที่บ้านของน้าสาวแท้ๆ แต่มีช่วงที่น้าสาวต้องกลับไปคลอดลูกที่ต่างจังหวัด ตนเองจึงต้องอยู่บ้านกับน้าเขยตามลำพัง ซึ่งในวันนั้นตนกำลังจะนอนหลับ น้าเขยก็ได้เข้ามาที่ห้องนอน ตนจึงแกล้งทำเป็นหลับ และกลัวว่าน้าเขยจะทำอะไร แต่ทางน้าเขยไม่ยอมหยุด เขามากระซิบที่ข้างหูแล้วบอกว่า “รู้นะว่ายังไม่หลับ” หลังจากนั้นเขาก็กระทำอนาจารโดยการมีเพศสัมพันธ์
หลังจากนั้นพอตนเองขึ้น ม.5 จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปอาศัยบ้านเพื่อน และกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด แต่ทางน้าเขยก็พยายามติดต่อมาทางคุณยายเพื่อให้ตนกลับมา ซึ่งทางคุณยายก็บอกว่า ให้กลับมาอยู่ที่บ้านน้าเขย และเริ่มเข้าเรียนใหม่ จนกระทั่งตนอายุ 18 ปี น้าเขยก็ได้กระทำอนาจารกับตนเองอีกครั้ง แต่รอบนี้น้าเขยไม่มีความเกรงกลัวเหมือนครั้งแรก โดยเริ่มจู่โจมมากขึ้น มีทั้งการลูบขา และจับหน้าอก ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกกระทำตอนที่น้าสาวของตนเองไม่อยู่บ้านด้วย
เวลาผ่านมาจนกระทั่งตนเองอายุ 25 ปี น้าเขยก็มากระทำอนาจารอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่า ขอทำเป็นครั้งสุดท้าย และจะไม่ยุ่งเกี่ยวอีกต่อไป ก่อนจะทำการอนาจาร ซึ่งตนเองได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนรู้สึกทนไม่ไหว จึงได้ตัดสินใจไปแจ้งความที่ สน.ลาดกระบัง แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ พร้อมบอกว่า ไม่ใช่พื้นที่ที่รับผิดชอบ จึงได้แจ้งความที่ สภ.บางแก้ว แต่ตำรวจกลับให้แค่ลงบันทึกประจำวัน
หลังจากนั้น น้าเขยก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมเดิม ใช้วิธีการล่อลวงต่างๆนานา ทั้งการให้ลูกของตัวเองที่ยังเป็นเด็กโทรศัพท์มาชวนให้กลับบ้าน ซึ่งตนก็ใจอ่อนกับหลานจึงกลับไป โดยน้าเขยเริ่มมีความมั่นใจ ได้กระทำอนาจารอีกครั้ง โดยวันที่เกิดเหตุตัวเองนอนอยู่กับลูกของน้าเขย แต่น้าเขยก็ยังเข้ามากระทำอนาจารซ้ำอีก
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดทำให้ตนได้ตัดสินใจจะทำการฆ่าตัวตายด้วยการกินยาให้เกินขนาด และเรื่องราวนี้ทำให้ตนกลายเป็นคนเป็นโรคซึมเศร้า และอยากจะฆ่าตัวตายอยู่ตลอดเวลา แม้ตนจะเคยบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณยายและน้าสาว แต่กลับถูกต่อว่าหาว่าตนโกหก
คุณ บ.ยังบอกอีกว่า การตัดสินใจออกมาเปิดโปงเรื่องราวนี้ เพราะตนคิดว่า เป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตที่ตนเองต้องยอมแลก เพราะต้องการเปิดโปงพฤติกรรมของผู้ชายคนนี้ และต้องการให้มีการลงโทษตามบทกฎหมายด้วย
นอกจากนี้ ยังมีเหยื่ออีกคนหนึ่งเป็นพนักงานในบริษัทที่น้าเขยเป็นเจ้าของอยู่ ก็ถูกกระทำอนาจารเช่นเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้พูดคุยว่าจะมาเปิดโปงพฤติกรรมของผู้ชายคนนี้ แต่สุดท้ายเหยื่อคนนี้กลับเปลี่ยนใจขอไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/S03BQuLY6D4
+ อ่านเพิ่มเติม