ลูกหนี้สาวเล่าประสบการณ์ ถูกเจ้าหนี้อุ้มขึ้นรถพาปเปิดห้องซ้อม กระทืบหน้า จับโกนหัวโกนคิ้วประจาน แถมยึดเงินติดตัวไปหมด พ้อยืมแค่หมื่นเดียว ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ?
วันที่ 17 พ.ค. 65 บี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ทางช่อง 7HD กด 35 ใจความว่า ตนทำงานเอ็นเตอร์เทนอยู่แถวทองหล่อ พอเสร็จงานมีรุ่นพี่ชื่อผึ้งติดต่อให้ไปทำงานต่อ โดยเขาบอกว่าถ้าตนไม่ไปเขาจะเสีย เพราะเขาติดต่อมาหลายวันแล้ว ตนจึงตัดสินใจไป จากนั้นเขาก็นั่งรถแท็กซี่มารับโดยในรถที่มามีผู้ชาย 1 คนที่ตนไม่รู้จัก และก็มีผู้หญิงอีก 1 คน ชื่อบิว พอรถขับไปได้สักพักพี่ผึ้งก็บอกว่าขอเข้าห้องน้ำที่ปั๊ม พอแท็กซี่ขับเข้าไปในปั๊มรถยังไม่ทันจอดดีก็มีคนที่ชื่อมิ้นเปิดประตูรถกระชากตนออกไปขึ้นรถเขา และก็บอกน้องตนที่มาด้วยกันว่า "มึงไม่เกี่ยว มึงกลับไป" และเอาน้องขึ้นแท็กซี่คันเดิมกลับไป ซึ่งในปั๊มมีคนชื่อมิ้น กับลิซ่า รออยู่ ตอนนั้นตนก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นพี่ลิซ่า ก็พอจะรู้แล้วว่าเขาน่าจะมาเรื่องเงินที่ตนยืมไป พอขึ้นรถมา ลิซ่ากับมิ้น ต่อยหน้าตนคนละหนึ่งที ตนบอกเขาว่า "พี่ หนูน้องพี่นะ ทำไมทำกับหนูขนาดนี้" เขาก็บอกว่า "เพราะมึงเป็นน้องไง ถึงได้ทำ"
หลังจากนั้นเขาก็คุยกันว่า จะเอาตนไปตีที่ไหนต่อ เขาจึงได้โทรหาเพื่อนเขาว่าอยู่บ้านไหม จะเอาตนไปตี แต่เหมือนเพื่อนคนนั้นจะไม่อยู่ เขาจึงพาเราไปโรงแรมที่คลอง 4 เพื่อพาเราไปตี พอเข้าไปในห้องโรงแรม พี่มิ้นก็เข้ามาเตะหน้าเราต่อ ประมาณ 2-3 ครั้ง พอเขาทำเสร็จเขาก็ผลัดกับพี่ลิซ่า โดยพี่ลิซ่าก็เข้ามาเตะต่อยเช่นเดียวกัน โดยคนอื่นก็คอยนั่งคุมเชิงอยู่ ที่หนักไปกว่านั้นพอทำร้ายเสร็จเขาก็เอากรรไกรมาตัดผม และนำบัตตาเลี่ยนมาโกนผม จากผมยาวๆ กลายเป็นสั้นเกรียนเลย พอตัดผมเสร็จเขาถามว่าเงินในกระเป๋ามีเท่าไหร่ ตนบอกมีอยู่ 300 และเขาก็ถามว่าในบัญชีมีอีกเท่าไหร่ ตนบอกไม่มี แต่พอเขาเปิดเจอมีอยู่ 2,300 บาท เขาเลยให้ตนไปกดมาให้เขาให้หมด พอกดเงินเสร็จเขาก็พาตนไปส่งที่ตลาดแห่งหนึ่ง พร้อมกับขู่ว่า "มึงลองไปแจ้งความดูสิ กูมีเงินจะทำอะไรก็ได้"
หลังจากเกิดเหตุ พี่ลิซ่าได้โทรมาข่มขู่ตนอีกครั้ง ว่าถ้ายังไม่จบ เดี๋ยวได้เจอกันอีก ล่าสุดเมื่อวานเจอพี่มิ้น หลังจากพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูบ้าน ท่าทีของเขาก็ยังคงนิ่งเฉย ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร
ส่วนตัวรู้จักกับคนกลุ่มนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคนชื่อมิ้น เพราะเขาเลี้ยงตน กินนอนอยู่ด้วยกันตั้งแต่อายุ 12 จนตอนนี้อายุ 20 ปี แต่ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน โดยเท่าที่รู้มา เขามีชื่อเสียงอยู่แถวรังสิต ไม่แน่ใจว่าเขาปล่อยเงินกู้หรือเปล่า
"เขาทำเกินไป สนิทกันมาก่อน แค่ทำร้ายร่างกายกันก็มากพอแล้ว" บี ผู้เสียหายกล่าว
สุดท้ายอยากบอกโซเชี่ยล ว่าเงินที่ตนยืมเงินเขามาตนคืนมาตลอดเพียงแต่ไม่ได้ลงหลักฐานการคืนเงินให้ดู และขาดส่งเพียง 5 วัน ไม่มีการเตือนอะไรกันมาก่อน จนมาโดนตามเหตุการณ์ดังกล่าว
ด้าน ไหม เพื่อนของผู้เสียหาย เล่าว่า ผู้ก่อเหตุบอกตนว่า "มึงไม่เกี่ยว มึงกลับไป" และก็ผลักตนขึ้นแท็กซี่กลับไป ตนได้ถามแท็กซี่ว่ามีเรื่องอะไร เกิดอะไรขึ้น แท็กซี่ตอบว่า ระหว่างที่จะมารับตน ทางผู้ก่อเหตุคุยกันว่าเป็นเรื่องหนี้สิน ตนจึงได้โทรหาพี่ชายของบี ว่าพี่บีโดนอุ้มไป และก็โทรหาบีก็ไม่มีคนรับ แชตไปก็มีแต่อ่านไม่ตอบ จนไปถึงช่วงคลอง 11 บีก็โทรกลับมาหาตน ซึ่งตอนนั้นเขาไม่มีผมแล้ว พร้อมร้องไห้สะอึกสะอื้น จึงให้บีนั่งรถมาหาตนที่คลอง 11 และจ่ายเงินให้บี เพราะเขาไม่เหลือเงินเลย
ขณะที่ พล.ต.ต.ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เผยว่า หลังจากรับทราบเหตุ ทางตำรวจจึงรีบสืบสวนติดตามกลุ่มคนร้าย โดยตอนนี้คนร้ายมีทั้งหมด 5 คน ทราบชื่อที่อยู่แล้ว 3 คน คนที่ 4 ทราบเพียงชื่อเล่น ส่วนอีกคนที่เป็นผู้ชายตอนนี้กำลังตรวจสอบ สำหรับข้อหาของผู้ก่อเหตุ คือ ร่วมกันปล้นทรัพย์ เนื่องจากมีการเอาเงินของผู้เสียหายไปเป็นเงินสด 300 กับเงินในบัญชี 2,300 บาท ข้อหาที่สองคือ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว อันที่สามคือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย สุดท้ายคือ บังคับขืนใจโดยเจ้าตัวไม่ยินยอม รวมๆประมาณ 4 ข้อหา หมายจับออกมาแล้ว 3 คน ที่ผู้เสียหายรู้จัก คือ มิ้น ผึ้ง และลิซ่า
ส่วนเรื่องของความปลอดภัย ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลเยี่ยมเยียน พูดคุย ความปลอดภัยอยู่ตลอด และจะกำชับให้พนักงานสอบสวนลงความเห็นคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว ขณะที่เคสนี้มีผู้คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จึงได้กำชับให้ดำเนินการให้เต็มที่ ชัดครบทุกประเด็น
ด้าน สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นในมุมกฎหมาย เรื่องนี้ถือว่าวางแผนไตร่ตรองไว้ก่อนเลย เพราะมีการวางแผนให้ผึ้งไปล่อลวงให้มาด้วยกันก่อน และร่วมกันปล้นทรัพย์ แถมมีอาวุธด้วย ทั้งกรรไกร และบัตตาเลี่ยน โดยโทษจำคุกตั้งแต่ 12 ปีถึง 20 ปี ปรับตั้งแต่ 240,000 ถึง 400,000 บาท และพาหนะที่ใช้ในการกระทำความผิด อยากให้ผู้การยึดไว้ด้วย ต้องดำเนินคดีในทุกข้อหา แล้วมาดูกันว่าเงินมันจะซื้อกระบวนการยุติธรรมได้ไหม ส่วนตัวคิดว่าซื้อไม่ได้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ได้แนะนำ ให้ผู้เสียหาย ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่า กลัวผู้ต้องหารายนี้จะออกมาข่มขู่ให้คัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว และหลังจากพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการแล้ว ให้ไปยื่นคำร้องต่อศาลอีกทีหนึ่งเพื่อเรียกค่าเสียหาย ทั้งค่าสินไหมทดแทน ค่ารักษาพยาบาล และค่าขาดประโยชน์จากการทำงาน
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com