อดีต ผอ.โรงเรียน น้ำตาตก เซ็นค้ำเงินกู้ให้ครูแม่ดารา สุดช้ำ ใช้หนี้จนหมดตัว

        อดีต ผอ.โรงเรียน เปิดใจ หลังดาราหนุ่ม ติดต่อโอนเงินชดใช้หนี้เงินกู้ 6 แสน แทนแม่ครบหมดแล้ว หลังต้องน้ำตาตก จำยอมใช้หนี้แทนเพราะเป็นคนเซ็นค้ำประกัน

 

            วันที่ 10 พ.ค. 2565 นายวินัย สังขวรรณะ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน ได้เดินทางมาเปิดใจกับรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด35 เล่าว่า ตกลงคืนเงินกันที่ 6 แสน แต่จริงๆ แล้วหนี้มันมี 2 ระยะ ระยะแรกตอนที่เขายังไม่หนีไปไหน เป็นหนี้ที่ต้องชำระธนาคารเป็นรายเดือน เขาโทรมาขอให้ผมชำระให้ก่อน ตนก็เลยคุยกับคณะกรรมการ เอาเงินของ กองทุนพัฒนาชีวิตครู ไปชำระแทนเขา เพื่อให้กองทุนฯอยู่ได้ หลังจากเขาหายตัวไป สมาชิกกองทุนฯบางคนก็มีลาออกไปบ้างหลังจากเขาใช้หนี้เสร็จ ก็ขอเงินจากกองทุนฯคืน ตอนนั้นเหลือตนคนเดียวที่ยังรับราชการอยู่ เลยตัดสินใจแก้ปัญหา กู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงใหม่มา 4 แสนบาท เอามาใช้ชำระหนี้แทนแม่ดาราท่านนี้ 2 แสนบาท ตอนนี้ได้ไปขอหลักฐานจากธนาคารออมสินมา เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นเรื่องจริง แต่ไม่ได้เอามาเป็นข้อเรียกร้องเพิ่มจากที่ดาราท่านนั้นคืนแทนแม่มา 6 แสนบาท

 

 

            ทั้งนี้ ดาราท่านนี้ได้ติดต่อมาว่าต้องการให้ชำระคืนเงินเท่าไหร่ ตนเลยขอแค่เงิน 6 แสนบาทแล้วจบกันไป แต่ทีนี้ทางดาราได้ขอให้แก้ข่าวให้หน่อย ว่าเขาไม่ได้หนีหนี้ แต่เราคิดกันคนละมุมว่าเขาต้องติดต่อมาคืนหนี้ ส่วนเขาก็คิดว่าเราต้องติดต่อไป แต่จริงๆ แล้วตนเคยติดต่อไปแล้วแต่ผู้จัดการคนแรกเขาบอกไม่ให้ติดต่อโดยตรง ตนเลยไม่ได้ติดต่อไป ไม่มีเบอร์ที่ติดต่อเขาได้เลย ทีนี้หลังจากออกรายการหนึ่งเมื่อปี 2561 เขาก็เงียบหายไป ผ่านไป 1 ปี ตนรอไม่ได้ จึงเดินทางเข้าไปติดต่อรายการ ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าได้บอกดาราแล้ว แต่เขาเงียบไม่ได้จัดการอะไร ก็ไม่รู้จะทำยังไง ตอนนั้นท้อแท้กับชีวิต เดินทางมากรุงเทพฯเงินก็ไม่มี เลยเอาปากกามาเขียนเสื้อตัวที่ใส่อยู่ เพื่อประท้วงชีวิตตัวเอง ใส่เดินเป็น 10 กม. หวังว่าจะมีใครมาถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ก็ไม่มี ใจความอักษรที่เขียนบนเสื้อคือ "ชีวิตบัดซบ แม่ดารา? หนีหนี้ กินหรู อยู่สบาย มีเก๋งขี่ ครูคนค้ำจะตาย ต้องยึดบ้านขายใช้หนี้"

 

            สำหรับเงินก้อน 6 แสนที่ได้คืนมา ที่มาของหนี้ก้อนนี้มาจาก ตนเป็นผู้เซ็นค้ำให้แม่ของดาราท่านหนึ่งร่วมกับ ครูอีก 7 คน กู้ทั้งหมด 1.4 ล้านบาท ตอนนั้นมีการยึดบ้านของแม่ดาราท่านนั้นขายทอดตลาดไปแล้ว จึงเหลือหนี้อยู่ทั้งหมด 5.2 แสนบาท กับดอกเบี้ย 7 แสนบาท ตนเลยต่อรองกับธนาคาร ขอชำระแค่ 5.2 แสนบาท เลยนำเงินสดไปชำระคืน พร้อมชำระค่าธรรมเนียมสำนักบังคับคดี 6 หมื่นกว่าบาทเพราะสำนักบังคับคดีจะมายึดบ้านตนขายทอดตลาด จึงขอเงินแค่ส่วนนี้ 6 แสนบาท เงินส่วนนี้ต้องนำไปให้ ผอ.สิรภพด้วย เพราะเขาให้เงินช่วย 1 แสนบาท และครูใหญ่มินให้มา 8 หมื่นบาท เพื่อให้ถอนจากการเป็นผู้ค้ำ ก็ต้องนำเงินก้อนนี้กลับไปเคลียร์กับท่านอื่นด้วย

 

 

            สุดท้ายอยากบอกว่า "ดาราเขาแก้ไขและแสดงสปิริตได้ดีมากที่ออกมาจ่ายแทนแม่ และขอเตือนไปยังครูคนอื่นๆ ว่าเมื่อกู้แล้วก็ต้องใช้หนี้ ไม่ควรหนีจนเป็นภาระคนอื่น และขอฝากถึงคนทั่วไปว่าขออย่าตำหนิครูว่าเป็นหนี้เยอะ เพราะครูทำงานเพื่อสังคมเยอะ ยิ่งครูบนดอยนี้คือต้องออกค่าใช้จ่ายเองส่วนใหญ่เลย อย่างรถที่ต้องใช้ขับขี่ เป็นต้น ก็ต้องซื้อเอง"

 

 

            ด้าน ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ความเห็นว่า การคืนหนี้เช่นหนี้ ทำข้อตกลงกันแบบนี้ ทางนิตินัยถือว่าจบ และทางผู้ค้ำโชคดีมากๆ ที่ได้เงินชดใช้คืน เพราะส่วนใหญ่ผู้กู้จะหนีและไม่ได้มีการมาจ่ายหนี้ ทางโจทก์เจ้าหนี้เขาก็สามารถมายึดทรัพย์บังคับคดีได้อยู่แล้ว จริงๆ แล้วเราสามารถไปฟ้องไล่เบี้ยเอากับโจทก์ได้ แต่กรณีนี้ทางลูกชายเขาชำระแทนแล้วก็ถือว่าจบ

 

 

            สำหรับกรณีที่ลูกใช้หนี้แทนแม่ ตามกฎหมายแล้วหากตัวลูกเขาไม่ประสงค์จะใช้หนี้แทน ผอ.จะไม่มีสิทธิ์ไปบีบบังคับไปเอากับลูกเขาได้ เพราะมันคนละคนกัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ผมถึงบอกว่ากรณีนี้โชคดี

 

          ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/kzXTpsnSlr0