อัจฉริยะ เชื่อ! คดีแตงโม เป็นฆาตกรรมอำพราง ชี้! ตำรวจติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก โยงหลักฐานให้เป็นประมาท เผย! จ่อฟ้อง ผบ.ตร. หากยังไม่แก้ไขปัญหา
9 เม.ย.65 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เผยในรายการถกไม่เถียงว่า ตนมาทำเรื่องนี้เพื่อทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี เรียกร้องความยุติธรรม และต่อสู้กับอิทธิพลมืดต่าง ๆ และเชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของฆาตกรรมอำพราง โดย อัจฉริยะ ได้ให้ข้อมูลในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า ได้ติดต่อกับบริษัทผู้ผลิตเรือโดยตรง เพราะเขาได้รับความเสียหาย เนื่องจากตำรวจมีการสรุปว่า แตงโมตกเรื่องขาทั้งสองข้างโดนใบพัดเรือ ซึ่งจากคลิปที่ผู้ผลิตส่งให้ดู จะได้เห็นว่า หากมีคนตกลงไปท้ายเรือจะไม่มีทางถูกดูดเข้าไป เพราะกระแสน้ำจะดันออกข้างเรือ รวมถึงใบพัดมีระบบป้องกัน ส่วนกรณีของ GPS ตนได้ให้ผู้เชี่ยวชาญดูแล้ว เห็นว่าไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะสามารถแก้ไขได้
อีกทั้งทางตำรวจก็ไม่ได้เปิดเผยข้อมูล GPS ทั้งหมด ก็เป็นไปได้ที่จะเลือกใช้เฉพาะช่วงที่เป็นคุณ ซึ่งกรณีนี้จะเกี่ยวโยงไปถึงการที่ในวันแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ตำรวจไม่ได้นำภาพของกระติกที่ถ่ายไว้บนเรือบริเวณสะพานพระราม 8 ในเวลา 21.11 น. ของวันเกิดเหตุ มาเปิดเผยด้วย ซึ่งภาพนี้ อัจฉริยะ ชี้ว่าเป็นหลักฐานสำคัญ เพราะจากภาพที่ระบุเวลาดังกล่าว ก็ไม่สอดคล้องกับข้อมูล GPS เรือที่นำมาแถลง
นอกจากนี้นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า หลักฐานที่มีในมือตอนนี้ ประกอบกับคำให้การของคนบนเรือ และจากที่ตำรวจแถลงนั้นไม่ตรงกัน รวมถึงภาพบางภาพก็ไม่สามารถสรุปได้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นใครบนเรือ ตนจึงไม่เชื่อว่าแตงโมจะไปนั่งปัสสาวะตรงจุดนั้นแน่นอน อัจฉริยะ ยังบอกอีกว่า มีภาพกล้องวงจรปิดขณะที่เรือลอดใต้สะพานซังฮี้ และที่สำคัญช่วงนี้เป็นช่วงที่แตงโมหายไป "โดยมีคนเอาไป แตงโมไม่ได้ตกเรือ"
ในส่วนของประเด็นการชันสูตรศพ นายอัจฉริยะ ติดใจประเด็นที่ทางแพทย์ผู้ชันสูตรศพนำร่างแตงโมออกมาทดสอบกับใบพัดเรือ ได้มีการขออนุญาตคุณแม่ภนิดา ศิระยุทธโยธิน หรือไม่ เพราะจากการสอบถามทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายของแม่แตงโม ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นทนายความดูแลคดีนี้อยู่ ก็ได้ออกมาเผยว่าไม่เคยรู้ว่ามีการมาขออนุญาตแต่อย่างใด ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้ทีมแพทย์ทำไม่ถูกต้อง
ตลอดจนวิธีการจำลองเหตุการณ์ก็ไม่ได้มาตรฐาน เพราะการนำใบพัดมาหมุนก็อาจทำให้ร่างเกิดรอยแผลเพิ่มเติม ซึ่งก็เกี่ยวเนื่องไปอีกกรณีคือ การรายงานจำนวนบาดแผลที่ไม่ตรงกันในแต่ละครั้ง จากจำนวน 11 เป็น 22 และในวันแถลงข่าวกลายเป็น 26 แผล ซึ่งตำรวจจะสรุปเพิ่มเองได้อย่างไรเพราะตำรวจไม่ใช่หมอ อัจฉริยะ ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ถ้า ผบ.ตร. ไม่ทำอะไรกับกระบวนการสอบสวนนี้ก็จะทำการฟ้องร้อง" อีกด้วย
สำหรับกรณีที่จะไปพบนายกรัฐมนตรี อัจฉริยะ บอกว่ามีอดีตนายแพทย์ท่านหนึ่งอยากจะไปพบเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม และตนก็มีความเห็นว่าการสืบสวนสอบสวนคดีนี้เป็นการติดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก เพราะเป็นการทำจากการตั้งธงว่าเป็นความประมาทแล้วก็ไปหาหลักฐานต่าง ๆ มาสนับสนุนสมมติฐาน ไม่ได้ตั้งต้นจากการวิเคราะห์ไปตามพยานหลักฐาน
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ให้ความเห็นว่า การนำใบพัดเรือมาทดลองกับแผลนั้น ตนมองว่า สิ่งใดที่ทำแล้วให้ความกระจ่างของคดีก็สามารถทำได้ แต่ก็ไม่ควรทำให้เกิดบาดแผลเพิ่มเติม แต่ส่วนตัวก็ยังเห็นไม่ชัดเจนว่าทำให้เกิดบาดแผลเพิ่มหรือไม่
ส่วนกรณีที่จำนวนแผลเพิ่มขึ้นในการนับแต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับคนที่นับจำนวนบาดแผล ว่ามีนัยในการนับอย่างไร เช่น ในขั้นแรกอาจมองแผลเล็ก ๆ เป็นกลุ่มแผลเดียวกัน เป็นต้น และถ้าถามว่าทำไมในวันแถลงถึงเพิ่มมาเป็น 26 แผล ก็ต้องถามทางตำรวจว่ามีการพูดคุยกับคุณหมอทุกทีมแล้วหรือยัง
ถกไม่เถียง
ทิน โชคกมลกิจ
แตงโม
หมอหมู
อัจฉริยะ
หลักฐาน
นิติเวช
บาดแผล
คดีแตงโม
ใบพัดเรือ
แตงโมตกเรือ