เหยื่อสุดทน ‘เจ๊ข้าว’ เจ้าแม่เงินกู้สายโหด ลงโทษพิสดาร ฉี่รดหน้าลูกหนี้ บี้ก้มกราบเท้า !

เหยื่อ ร้องสื่อ ถูก "เจ๊ข้าว สระบุรี" เจ้าแม่เงินกู้ ลงโทษ "ปัสสาวะรดหน้า" เหตุพูดไม่เข้าหู ก่อนจะโพสต์ประจานลงเฟซบุ๊ก เหยียดหยามความเป็นมนุษย์ เร่งขอความเป็นธรรมเพราะกลัวอิทธิของพลพ่อผู้ก่อเหตุ

 

 

             วันที่ 3 พฤษภาคม 2565 อาร์ม ผู้เสียหายที่ถูกเจ๊ข้าวปัสสาวะใส่หน้า เปิดเผยผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า รู้จักเจ๊ข้าวผ่านคุณปั๊ป โดยให้เราเป็น จยย.รับจ้างทั่วไปส่งข้าวส่งน้ำ ทำงานกับเขามา 4 ปี ไม่เคยเจอพฤติกรรมแบบนี้ แต่ถ้าด่าทอเคยเห็นอยู่บ้าง เหตุการณ์นี้เกิดจากเขาคิดว่าตนไปว่าเขา โดยตนได้รับงานจากลูกค้าให้เอากระเป๋าแบรนด์เนม 3 ใบไปจำนำให้หน่อย แต่ที่โรงรับจำนำไม่ได้ราคาที่ต้องการลูกค้าเลยวานให้เราเอาไปขาย ตั้งราคาไว้ที่ 8 หมื่น ด้วยความที่เราทำงานกับเจ๊ข้าว เลยเสนอขายให้เขาไปก่อน แต่เจ๊ข้าวบอกว่ามันแพงไปจึงเงียบหายไป จึงเริ่มโพสต์เสนอขายให้คนอื่นไปเรื่อยๆ จากนั้นเจ้าของกระเป๋าเขาก็มาบอกว่าไม่ขายกระเป๋าแล้วให้เอากระเป๋ามาคืน แต่ตนเองอยากโพสต์สร้างเครดิตเหมือนว่าขายได้ เลยโพสต์ไปว่าขายกระเป๋าได้แล้ว 9 หมื่นบาท พอโพสต์แบบนี้ไป เจ๊ข้าว ก็มาคอมเม้นท์ตอบว่าให้คืนหนี้ด้วย ตนจึงจัดการคืนหนี้ให้ แต่เรื่องก็ยังไม่จบ เจ๊ข้าวก็ยังมาคอมเม้นท์ด่าทอกันไปมา ตนพยายามตอบกลับอย่างสุภาพ แต่เขาไม่หยุดจึงหลุดพูดคำหยาบไป เขาเลยหาว่าตนก้าวร้าวใส่เขา 

 

 

            หลังจากนั้น วันที่ 29 เม.ย. ระหว่างกลับบ้านมีรถเก๋งสีขาวคันหนึ่งมาจอดอยู่หน้าบ้านตน และเรารู้ว่าคนคนนี้คือนักเลงที่เจ๊ข้าวจ้างมา จึงขับรถหนี เขาเลยโทรศัพท์มาตามตัว ให้ไปขอโทษเจ๊ข้าวซะ และขู่ว่าจะยิงทิ้ง ตนอยากจบปัญหา เลยตัดสินใจเข้าไปขอโทษเขาที่บ้าน พอไปถึงเขาสั่งให้ตนนอนลงกับพื้น โดยมีลูกน้องผู้ชาย 4-5 คนล้อมไว้ ก่อนที่เจ๊ข้าวซึ่งสวมชุดนอนอยู่ขึ้นคร่อม ถลกชุดแล้วปัสสาวะรดใบหน้าตน เพื่อสั่งสอนพอโดนแบบนี้ก็ตกใจมาก ไม่คิดว่าคนที่เคยให้ความสุขเราจะทำแบบนี้เพราะระหว่าง 4 ปีที่ทำงานนกับเขา เขาให้ตนมาเยอะมากแต่เรื่องก็ยังไม่จบ เขายังมีการโพสต์ประจานเรื่องราวที่เกิดขึ้น เหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จึงอยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ให้รู้ว่าบ้านเมืองยังมีกฎหมายอยู่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะซื้อได้ทุกอย่าง

 

            ด้าน ปั๊ป ผู้เสียหายที่ถูกเจ๊ข้าวรุมกระทืบ เล่าว่า รู้จักกับเจ๊ข้าว มา 6 ปี เป็นเพื่อนกัน และก็เคยเป็นเลขาบ้านแชร์ให้เขา วันที่เกิดเหตุตนไปตลาดช่วงมืดแล้ว ประมาณ 20.00 น. ตอนจะกลับมีรถมาจอดขวางเอาไว้ และก็มีผู้ชายลงมา 10-15 คน ล้อมรถเอาไว้ และ เจ๊ข้าว ก็ลงตามลงมา เอาโทรศัพท์ฟาดที่หน้าตน และก็บอกให้เราลงไปกราบตีนเขา ตนก็ไม่ได้ลงเพราะว่ากลัวมีผู้ชายเยอะมาก หลังจากนั้นเขาก็บอกลูกน้องเขาให้เอาปืนมา ด้วยความเกรงใจเพื่อนที่มาด้วยกัน จึงลงจากรถไป และบอกเขาว่า ถ้ากราบขอให้จบนะ แต่พอกราบเสร็จเขากระทืบลงที่หลัง และเตะเข้าที่กกหู ก็เลยรีบขึ้นรถหนี ต้นเหตุเกิดจากตนเป็นหนี้เขา หลังจากนั้นก็มีการโพสต์ข่มขู่ทางเฟซบุ๊กว่าจะบุกบ้าน และก็บุกไปจริงๆ ไปโวยวายกับแม่ของตนบ้าง ส่งพวงหรีดไปที่บ้าน โดยที่พวงหรีดเขียนว่า "เอาพวงหรีดมาแสดงความเสียใจล่วงหน้า เดี๋ยวลูกปืนจะตามไปทีหลัง" โดนแบบนี้แต่ไม่เคยตอบโต้อะไร อยากให้เรื่องจบ ทยอยใช้หนี้เขาอยู่เรื่อยๆ

 

 

            หลังจากโดนข่มขู่ที่ตลาดก็ไม่กล้าไปแจ้งความ เพราะเขาบอกว่า "ไม่ต้องไปแจ้งความหรอกนะ ตำรวจสระบุรีเป็นของเขาหมดแล้ว" จึงไปแจ้งความตอน 23.00 น. เพื่อหลบคน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้า และล่าสุดเมื่อวาน(2 มิ.ย. 65)ก็ยังมีการโพสต์ข่มขู่อยู่ อยากให้เร่งดำเนินการ เพราะกลัวมาก และห่วงความปลอดภัยของตนเอง

 

 

            ทั้งนี้ ศิริชัย เอมสอาด ทนายความ กล่าวว่า เคสนี้ค่อนข้างอุกอาจ และท้าทายกฎหมาย ทั้งเรื่องพวงหรีด โพสต์เฟซบุ๊กด่าทอหมิ่นประมาท แถมยังมีการให้ชายฉกรรจ์ไปลุม เบื้องต้นก็ให้ไปแจ้งความ แต่จนถึงวันนี้ตำรวจยังไม่มีการเรียกไปสอบปากคำ และยังมีการโพสต์เฟซบุ๊กด่าต่อเนื่อง เลยดำเนินการรวบรวมหลักฐานไปฟ้องศาลเองเลย พอมาทราบเคสของอาร์ม เลยให้ทั้งคู่เดินทางเข้าไปที่กองปราบฯ เพราะกลัวเรื่องจะช้า และห่วงเรื่องความปลอดภัย

 

            ส่วนข้อหาหลักๆมีอยู่ 2 ส่วน คือ ทำร้ายร่างกาย อันนี้ยอมความไม่ได้ ข้อหาที่สอง คือหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และก็มีเรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย 

 

 

            ส่วน ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ความเห็นว่า พฤติกรรมแบบนี้ แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้มีอิทธิพล ซึ่งเราปราบปรามแน่ๆ และจะสืบสวนเพิ่มว่าการปล่อยเงินกู้ว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือเปล่า หรือเป็นสถาบันการเงินโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ เพราะสามารถโยงไปถึงการยึดทรัพย์ได้ 

 

 

            ทั้งสองเคสนี้เบื้องต้น ให้ทางยุติธรรมจังหวัดลงพื้นที่ไปพบผู้เสียหายแล้ว และให้ DSI ลงไปบูรณาการร่วมกับตำรวจด้วย ไม่ต้องกังวลเรื่องใครใหญ่กว่าใคร ไม่มีอะไรอยุ่เหนือกฎหมาย ผมจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และเฉียบขาด สุดท้ายฝากถึงผู้ก่อเหตุหากยังไม่เลิกระราน จะจับตัวให้ได้ใน 24 ชั่วโมงนี้เลย  

 

ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/7TJOUuUCk-k