เปิดใจยายวัย 71 ปี ถูกทหารยศ จ.ส.อ. ด่าทอ - ทำร้ายร่างกาย เหตขายลอตเตอรี่ 80 บาท #ถกข่าวร้อน

        เรื่องราวน่าสลดใจของคุณยายวัย 71 ปี ที่ขายลอตเตอรี่ในราคา 80 บาท ซึ่งเป็นไปตามข้อกฎหมายที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ แต่การขายลอตเตอรี่แบบถูกต้องตามกฎหมาย กลับไม่พอใจทหารท่านหนึ่ง ที่มีแผงขายลอตเตอรี่อยู่ใกล้ๆกัน แถมขายเกินราคาอีกด้วย โดยทหารและภรรยา ได้เข้าไปด่าทอ พร้อมกับทำร้ายคุณยายและหลานของคุณยาย ล่าสุด เราได้ส่งทีมข่าวไปตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคุณยายเพิ่มเติมในเรื่องนี้ 

 

        จากกรณีที่คุณยายวัย 71 ปี นางยุรี อร่ามแสง ซึ่งมีอาชีพขายลอตเตอรี่ พร้อมลูกและหลานชาย ได้นำหลักฐานมาร้องกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ถูกนายทหารยศ จ.ส.อ.เข้ามาข่มขู่ขับไล่ให้ไปขายที่อื่น และยังทำร้ายร่างกาย หลังได้ไปนั่งขายลอตเตอรี่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ หลังกองบัญชาการกองทัพบก ถนนประชาธิปไตย แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม.

 

      โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มี.ค. เวลา 11.00 น. ขณะที่คุณยายนั่งขายลอตเตอรี่อยู่ตรงทางเท้า ได้มีทหาร ยศ จ.ส.อ.มาขับไล่ไม่ให้ขายตรงนี้ เพราะคุณยายขายในราคา 80 บาท แต่ทหารคนดังกล่าว ซึ่งมีแผงขายลอตเตอรี่ในย่านนั้น ได้ขายในราคา 100 บาท ทำให้ทุกครั้งที่มานั่งขายลอตเตอรี่ จะถูก จ.ส.อ.คนนี้ด่าใช้คำหยาบคายและขับไล่ตลอด โดยด่าว่า “กูไม่ให้ขาย มึงพูดไม่รู้เรื่องไง กูขาย 100 มึงขาย 80 ได้ไง มึงอยากขายไปขายที่อื่น แต่ตนได้เถียงไปเช่นกัน และยืนยันว่าจะขายจุดนี้”

 

          หลังจากนั้นคุณยายได้ไปเล่าให้ลูกและหลานฟัง ซึ่งในวันรุ่งขึ้นหลานชายได้ติดตามไปขายลอตเตอรี่ด้วย และทำให้เกิดเรื่องราวทะเลาะวิวาทกันขึ้น คุณยายได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้ายจากการที่ถูกภรรยา จ.ส.อ.บีบที่ต้นแขนอย่างแรง ซึ่งครอบครัวคุณยายเกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเขาเป็นทหาร จึงนำเรื่องและหลักฐานมาร้องสื่อมวลชน

 

         ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า บริเวณดังกล่าวจะมีคนมาขายล็อตเตอรี่ และอาหารบนทางเท้าเป็นประจำ แต่ไม่พบแผงล็อตเตอรี่ของนายทหารรายนี้ ซึ่งทีมข่าวพบว่า มีทหารบางส่วนลงพื้นที่สังเกตุการณ์ด้วย

 

         ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามรายละเอียด แต่ได้รับการปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล  ซึ่งระหว่างที่ทีมข่าวสำรวจพื้นที่อยู่นั้น ได้พบกับคุณยายยุรี มานั่งขายลอตเตอรี่พอดี จึงได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม  

 

           คุณยายเล่าว่า  ก่อนหน้าที่ตนเองจะขายลอตเตอรี่ ตนเองทำอาชีพขายไก่ทอดที่บริเวณนี้วมานานกว่า 20 ปี และรู้จักกับทหารยศ จ.ส.อ.คนนี้เป็นอย่างดี  เวลามีเรื่องอะไรก็ช่วยเหลือกัน  ต่อมาเศรษฐกิจเริ่มไม่ดี ลูกชายไปได้โควต้าลอตเตอรี่มาขาย ตนจึงแบ่งมาแอบขายให้กับลูกค้าบ้าง ช่วงหลังโควิดระบาดหนักขึ้น ทำให้ไก่แพง ประกอบกับตนเองได้โควต้าลอตเตอรี่มา 1 เล่ม จึงมาตั้งแผงเล็กๆขายจริงจัง ซึ่งแผงของตนเองตั้งอยู่ห่างกับแผงของทหารรายนี้ ประมาณ10 เมตร 

 

         หลังจากนั้น ทหารยศ จ.ส.อ.ก็เริ่มมีพฤติกรรมแปลก โดยเริ่มเข้ามาต่อว่าและกล่าวหาว่า ตนขายราคาตัดหน้า เพราะขายในราคา 80 บาท ตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนแผงของทหารรายนี้ กลับขายในราคา 100 บาท  จนกระทั่งวันเกิดเหตุตนก็มาขายลอตเตอรี่ตามปกติ กับหลานชาย  ซึ่งเมื่อนายทหารขับรถออกมาจากซอยพร้อมภรรยา หลานได้เข้าไปพูดคุยจนมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน ตนเองก็โดนบีบแขนจนเป็นรอยเขียวช้ำ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกัน  ฝั่งคู่กรณีมีการไปแจ้งความเอาผิด ส่วนหลานชายตนก็เข้าไปแจ้งความเช่ยเดียวกัน  ทั้งนี้ตนไม่เข้าใจว่า คนเคยเห็นหน้าคาดตากัน ทำไมถึงทำกันขนาดนี้ ตนเองได้รับโควต้ามาก็ต้องขายในราคาที่ภาครัฐกำหนด หากขายเกิดราคากลัวว่าจะถูกจับเช่นเดียวกัน

 

         นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้สอบถามกับเจ๊เปิ้ล (นามสมมติ) แม่ค้าใกล้ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ยายยุรี หลังจากยายยุรีได้ตั้งแผงขายลอตเตอรี่ในราคา 80 บาท หลังจากนั้นทหารคนนี้ ก็จะมาต่อว่า เหน็บแนม ว่ายายขายตัดราคา ซึ่งลอตเตอรี่มีราคาถูกลง ลูกค้าก็ต้องเข้าหาอยู่แล้ว ทำให้ลูกค้าฝั่งของนายทหารลดลงเห็นได้ชัด บางครั้งลูกค้าดูลอตเตอรี่อยู่ที่แผงของนายทหาร แต่พอเห็นยายยุรีขายถูกก็เข้าไปซื้อกับยาย อาจสร้างความไปพอใจให้กับนายทหารรายนี้ 

 

           ด้านนายเอ หลานชายคุณยาย ก็เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า วันเกิดเหตุก็นั่งขายลอตเตอรี่อยู่ตามปกติ โดยตนเห็น จ.ส.อ.ขี่จักรยานยนต์มาพร้อมภรรยา จึงเข้าไปสอบถามว่า ทำไมต้องต่อว่ากันด้วย แต่ทาง จ.ส.อ.ได้ลงมาจากรถ พร้อมกับถอดเครื่องแบบทหารออก และง้างมือต่อย ตนเลยต้องป้องกันตัวจนชุลมุนกัน แต่ภรรยา จ.ส.อ.ได้เดินมาใช้หมวกกันน็อกฟาดมาที่ข้อมือตน จนกระดูกนิ้วชี้มือซ้ายหัก ต้องเข้าเฝือก

 

            โดยหลังเกิดเหตุคุณลุง (ลูกของนางยุรี) ได้พาไปโรงพยาบาล แต่ทางคู่กรณีกลับไปแจ้งความกับตำรวจ และบอกว่า ตนและลุงไปรุมทำร้ายเขา ทั้งที่ลุงไม่ได้มาเกี่ยวข้องอะไรเลย 

 

            ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด คุณยายยุรี ได้รับความช่วยเหลือจากคุณ “กัน จอมพลัง” โดยพาเข้าไปแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง แล้ว 

 

           ด้านตำรวจ สน.นางเลิ้ง เปิดเผยว่า จะเร่งดำเนินการให้ทาง สน.ชนะสงคราม ที่ได้รับแจ้งความในครั้งแรกโอนย้ายคดีมาที่ สน.นางเลิ้ง ซึ่งทางตำรวจจะทำการดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป