หมอยงได้ให้ความคิดเห็นว่า ควรเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็กเล็กที่อายุไม่เกิน 5 ปี เพื่อยับยั้งการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ความรุนแรงของโควิด-19 ในเด็กจะน้อยกว่าผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ แต่ความรุนแรงของโรคมักพบในเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี
หลังจากการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ตั้งแต่เดือน ม.ค. 65 ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า มีเด็กเสียชีวิต 51 คน พบว่า 39 คนเป็นเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ในจำนวนนี้มีเด็กเล็กที่แข็งแรงดีถึง 10 คนที่เสียชีวิต ส่วนเด็กโตส่วนใหญ่ที่เสียชีวิตจะมีโรคประจำตัว เมื่อดูอัตราการป่วยตาย จะพบว่าในเด็กโตที่อายุเกิน 5 ขวบ อัตราการป่วยตายจะอยู่ที่ 1 ในหมื่นราย ส่วนเด็กเล็กมีอัตราการป่วยตายที่ 3 ในหมื่นราย และเด็กที่มีโรคประจำตัวจะอยู่ที่ 5 ในหมื่นราย
แม้ว่าตัวเลขของการป่วยและเสียชีวิตในเด็กจะมีน้อย แต่ถ้าเป็นเด็กที่แข็งแรงปกติแล้วมาเสียชีวิตโดยทั่วไปจึงไม่เป็นที่ยอมรับ และทำใจไม่ได้ จากสถิติการเสียชีวิตของเด็กจากโควิด-19 ทำให้จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเด็กเล็ก ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันให้กับเด็กกลุ่มนี้ ในหลายประเทศมีการฉีดวัคซีนให้เด็กที่อายุ 3 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะในประเทศจีน ที่เป็นที่ยอมรับจะเป็นวัคซีนเชื้อตาย ที่มีความปลอดภัย และมีการเผยแพร่ในวารสาร Lancet การตัดสินใจจะเอาวัคซีนมาใช้ในเด็ก 3-5 ขวบ ในประเทศไทยยังขึ้นอยู่กับหลายหน่วยงาน
หมอยงทิ้งท้ายว่า แม้ว่าเด็กที่ติดเชื้อโควิดจะอาการไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุ แต่มีความสำคัญมากกว่า เพราะถ้าเกิดในเด็กปกติ ก็จะไม่สามารถทำใจได้ อย่างแน่นอน ดังนั้น ทุกคนจะต้องช่วยกัน ปกป้องชีวิตอันน่ารักของเด็กโดยเฉพาะเด็กเล็กที่อายุน้อยกว่า 5 ปี