logo ถกไม่เถียง

ฉาวโฉ่! ผู้คุมแสบ ไถเงินลูกแลกดูแลแม่ จี้ซื้อส้มตำถุงละ 1,000 แบ็กดี เรียกเงินถี่ๆ ไม่กลัวใคร

ถกไม่เถียง : สาวร้อง ทนายรณณรงค์ ถูกผู้คุมไถเงินค่าดูแลแม่ที่อยู่ในเรือนจำ อ้างแม่จะไม่ลำบาก พบหนักสุด ผู้คุมโทรขอเงินผู้เสียหาย ค่าเค้กวันเกิดให ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,ช่อง7HD,TERODigital,แตงโม,อัจฉริยะ,แฉ,หลักฐาน,แตงโมตกเรือ,ตำรวจ,ทนายเดชา,พลิกคดี,ขบวนการ,หลักฐานเท็จ,สร้างหลักฐาน,แซน,ปอ,โรเบิร์ต,จ๊อบ,กระติก,อัจฉริยะเรืองรัตนพงศ์,ชมมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม,โคนันเมืองไทย,หัวเรือ,ท้ายเรือ,ปัสสาวะ,วงจรปิด,โกหก,ภาพถ่าย,ทนายรณณรงค์

1,770 ครั้ง
|
21 เม.ย. 2565

         สาวร้อง ทนายรณณรงค์ ถูกผู้คุมไถเงินค่าดูแลแม่ที่อยู่ในเรือนจำ อ้างแม่จะไม่ลำบาก พบหนักสุด ผู้คุมโทรขอเงินผู้เสียหาย ค่าเค้กวันเกิดให้ลูกตัวเอง

         วันที่ 21 เม.ย.65  นางสาวพรพิมล สวนสำราญ หรือ บุ้งกี๋  ผู้เสียหาย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการถกไม่เถียง ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงกรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ โทรมาขอเงิน ค่าดูแลแม่ของตนเอง ที่อยู่ในเรือนจำทัณฑสถานหญิงธนบุรี ว่า ตนเองมีโอกาสได้เจอกับแม่ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน ธ.ค.64 คุณพ่อได้รับจดหมายครั้งสุดท้ายเดือน ม.ค.65 แล้วก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย หลังจากแม่เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ได้ประมาณ 1 เดือน มีเบอร์แปลกโทรติดต่อมาหาคุณพ่อ คาดว่าคงขอเบอร์มาจากคุณแม่ แล้วบอกว่า ถ้าอยากให้แม่สบาย ให้โอนเงินให้ และได้โทรมาขอตรงๆ โทรมาขอเรื่อยๆ พร้อมบอกว่าจะดูแลแม่อย่างดี หางานเบาๆให้ทำ ซึ่งพ่อของตนเองนั้น มีอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์ รายได้วันละ 300 บาท ก็พยายามหาเงินแล้วเอาเงินให้เขาไป
 
ถกไม่เถียง : ฉาวโฉ่! ผู้คุมแสบ ไถเงินลูกแลกดูแลแ
 
        ซึ่งครั้งแรก ที่มีการให้เงิน คือ ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.64 มีการขอเงิน 1,000 บาท โดยพ่อของตนเอง ได้ขี่รถจักรยานยนต์ เอาเงินสดไปให้ที่ บ้านพักเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำพิเศษธนบุรี หลังจากนั้น มีการขอครั้งที่ 2 อีก 1,000 บาท ครั้งที่ 3 อีก 1,000 บาท ครั้งที่ 4 อีก 200 บาท เป็นค่าผัดกะเพรา ครั้งที่ 5 อีก 500 บาท ค่าเสื้อกันหนาวทิพย์ โดยอ้างว่าจะเอาไปให้แม่ แต่แม่กลับไม่ได้รับ ได้เพียงเสื้อแจกจากรัฐบาล ซึ่งครั้งนี้ ได้เอาเงินสดไปให้ช่วง ม.ค.65 ที่ บ้านพักเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำพิเศษธนบุรี เช่นเดียวกัน ครั้งที่ 6 อีก 1,000 บาท เป็นค่าส้มตำ ปลาเผา เขาคอตรงๆ ว่าอยากกิน ครั้งที่ 7 มีจดหมายจากแม่ ที่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ รายนี้ แจ้งกับญาติว่า แม่เขียนจดหมายมาถึงพ่อให้พ่อเอาเงินให้ เขา 1,000 บาท ครั้งที่ 8 โทรมาขอค่าเค้กงานวันเกิดลูกของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เองอีก 1,000 บาท ครั้งที่ 9 อีก 400 บาท โดยอ้างว่า แม่รูดของในเรือนจำไม่ทัน
 
          นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คนนี้ ยังบอกกับพ่อของตนเองอีกว่า ไม่สามารถเข้าเยี่ยมแม่ได้ เนื่องจากโรคระบาดโควิด-19 และไม่สามารถส่งจดหมายได้ด้วย  ทำให้ทางครอบครัวไม่สามารถรับรู้อะไรเกี่ยวกับแม่ที่อยู่ในเรือนจำได้เลย จนกระทั่ง ตนเองไปที่หน้าเรือนจำ และเจ้าหน้าที่แจ้งว่าสามารถเขียนจดหมายได้ตลอด จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ทำไม เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คนนี้ถึงโกหกทางครอบครัว ซึ่งตรงนี้ทำให้รู้สึกว่าถูกจำกัดสิทธิ ถูกละเมิดสิทธิ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รายนี้ ยังเคยขอยืมเงินพ่อตนเอง 10,000 บาท โดยอ้างว่าน้องชายขับรถชน แต่ครั้งนั้นพ่อไม่ให้ยืม เพราะเริ่มรู้สึกว่ามันแปลกๆ จนมีป้าที่ออกมาจากเรือนจำมาเล่าให้ฟังว่า ผู้คุมคนนี้หลอกลวง อย่าไปทำตาม อีกทั้งผู้คุมคนนี้โดนสอบพฤติกรรมหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังรอดมาได้ ตนเองคิดว่า ปล่อยไว้ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ มีหลายครอบครัวที่โดนคนนี้หลอก ตนเองจึงได้ตัดสินใจมาปรึกษาทนายรณรงค์ และที่ออกมาร้องเรียนเพราะตอนนี้เป็นห่วงความปลอดภัยของคุณแม่มาก เพราะยังไม่สามารถติดต่อได้เลยจนถึงตอนนี้
 
        ด้าน ป้าศรี (นามสมมติ) ป้าที่ออกมาจากเรือนจำ เล่าให้ฟังว่า ตนเองไม่เคยโดนผู้คุมหญิงคนนี้หลอก แต่มีเพื่อนในเรือนจำโดนไปหลายคน พอตนเองได้มีโอกาสออกจากเรือนจำ และพบกับคุณบุ้งกี๋ เขาก็ถามว่าช่วงปีใหม่ได้ของที่ซื้อฝากเข้าไปไหม ตนก็บอกว่าไม่ได้เลย แม่คุณบุ้งกี๋ ก็มีฝากมาบอกแฟนเขาว่าคิดถึงทุกคน และเรื่องประกันไปถึงไหนแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าผู้คุมมีแบ็กใหญ่นั้น ตนไม่รู้ว่าเขามีไหม แต่เขามีแฟนที่ทำงานอยู่ในเรือนจำเหมือนกัน
 
ถกไม่เถียง : ฉาวโฉ่! ผู้คุมแสบ ไถเงินลูกแลกดูแลแ
 
         ขณะที่ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เผยว่า ตนได้รับการติดต่อจากคุณบุ้งกี๋ ซึ่งคุณบุ้งกี๋ มานั่งรอตนเองถึง 6 ชั่วโมง เนื่องจากตอนนั้นติดภารกิจจำนวนมาก หลังจากตนฟังเรื่องราวก็พยายามหาเบอร์ ผบ.เรือนจำ แต่ติดต่อไม่ได้ อย่างนี้หากใครมีเรื่องด่วนอะไรก็ทำอะไรไม่ได้เลย สำหรับเรื่องการเรียกรับเงินมีความผิดทางกฎหมายอยู่แล้ว ถ้าเป็นเจ้าพนักงานโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต และยังมีผู้เสียหายรายอื่นที่โดนลักษณะเดียวกันอีกเยอะ ที่ห่วงตอนนี้คือความปลอดภัยของคนในเรือนจำหลังจากนี้ โดยเฉพาะพยานที่ยังอยู่ในเรือนจำ จะมีการคุ้มครองความปลอดภัยของพวกเขาอย่างไร และที่วันนี้ตนได้มีการเอาส้มตำไปที่กระทรวงยุติธรรม เพราะเห็นว่าผู้คุมอยากกินส้มตำถุงละ 1,000 บาท จึงนำไปฝากให้กับคนที่ประพฤติมิชอบ อย่าให้ไปทำแบบนี้กับคนอื่น
 
ถกไม่เถียง : ฉาวโฉ่! ผู้คุมแสบ ไถเงินลูกแลกดูแลแ
 
           ซึ่งเรื่องนี้ นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและอาญาของผู้คุมหญิงคนดังกล่าว และได้มีสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว โดยผู้คุมรายดังกล่าวเคยถูกร้องเรียนเรื่องพฤติกรรมลักษณะเดียวกันนี้ ในปี 62 เรื่องนี้มีการสอบอยู่ 2 ปี เนื่องจากขณะนั้นมีการโต้แย้ง เรื่องการรับเงิน เป็นการยืมเงิน มีการสู้ด้วยพยานหลักฐาน แต่ครั้งนี้หลักฐานชัดเจน เพราะเจ้าตัวยอมรับ ซึ่งเมื่อดูจากพฤติกรรมเก่า จึงได้มีการให้ออกจากราชการไว้ก่อน ทั้งนี้ทางเรือนจำได้ให้ญาติเข้ามาลงทะเบียนทำระบบออนไลน์เพื่อเข้าติดต่อกับผู้ต้องขังได้ผ่านทางวิดีโอคอล โดยญาติจะสามารถเยี่ยมผู้ต้องขังได้สัปดาห์ละ 1 ครั้งตามกฎหมาย
 
             ทางด้าน ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า เรื่องนี้ ทางกระทรวงยุติธรรมไม่ปล่อยปละละเลยแน่นอน คนที่มีพฤติกรรมแบบนี้จะไม่มีการละเว้น ไม่เอาไว้อย่างแน่นอน ต้องดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเด็ดขาด ทางผู้ใหญ่ของทางกระทรวงเองก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ อะไรที่เป็นเนื้อร้ายต้องตัดทิ้งอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องความปลอดภัยของคุณแม่ของน้องนั้น เบื้องต้นได้มีการเรียนถามทางคุณแม่แล้วว่าอยากย้ายเรือนจำหรือไม่ แต่คุณแม่ยังไม่อยากย้าย ตนจึงได้มีการสั่งการให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ ดังนั้นทางญาติไม่ต้องกังวล
 
         ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/SAAg0sQr8dY