หนุ่มเจ้าของบ้านช็อค! หยุดเที่ยวสงกรานต์ กลับมาบ้านโดนงัดกวาดทรัพย์ไปกว่า 10 ล้านบาท
logo ข่าวอัพเดท

หนุ่มเจ้าของบ้านช็อค! หยุดเที่ยวสงกรานต์ กลับมาบ้านโดนงัดกวาดทรัพย์ไปกว่า 10 ล้านบาท

ข่าวอัพเดท : หนุ่มเจ้าของบ้านสุดช้ำ ไปเที่ยวสงกรานต์ กลับมาบ้านถึงกับช็อค บ้านโดนงัดยกไปหมดครัว แม้แต่ตู้เซฟก็ไม่รอด สูญเสียทรัพย์สินไปกว่า 10.3 สงกรานต์,โจรงัดบ้าน,ขโมยเข้าบ้าน,งัดตู้เซฟ,เงินสด,นาฬิกาหรู,ขโมยเครื่องเพชร,ขโมยทอง

547 ครั้ง
|
20 เม.ย. 2565
หนุ่มเจ้าของบ้านสุดช้ำ ไปเที่ยวสงกรานต์ กลับมาบ้านถึงกับช็อค บ้านโดนงัดยกไปหมดครัว แม้แต่ตู้เซฟก็ไม่รอด สูญเสียทรัพย์สินไปกว่า 10.3 ล้านบาท 
 
             เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 65 นายจุฑาศิษฐ์ เจ้าของบ้านหลังหนึ่งย่านห้วยขวาง พาผู้สื่อข่าวดูร่องรอยความเสียหาภายในห้องนอนชั้น 2 หลังคนร้ายแอบเข้ามาช่วงที่ตนพาครอบครัวไปพักผ่อนที่จังหวัดชลบุรี งัดตู้เซฟ และรื้อค้นทรัพย์สิน เงินสด สกุลเงินบาทและต่างประเทศ ทองคำรูปพรรณ ทองคำแท่ง มูลค่า 10,300,000 บาท ก่อนหลบหนีไป
 
             นางวรรณณิดา  ภรรยาเจ้าของบ้านเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 14 เมษายน ครอบครัวได้เดินทางไปพักผ่อนที่ จ.ชลบุรี กระทั่งวันที่ 16 เม.ย.ช่วง 17.00 น. เดินทางกลับมาถึงบ้าน พบความผิดปกติหน้าต่างห้องน้ำเปิดออก เมื่อเดินตรวจสอบรอบบ้านพบหน้าต่างและประตูที่ติดตั้งเหล็กดัดของห้องครัวถูกงัดทำให้กลอนประตูพังเสียหาย
 
             ทีแรกคิดว่าทรัพย์สินน่าจะปลอดภัยเพราะตัวเซฟเองมีการติดตั้งซ่อนไปในตู้ ซึ่งตัวตู้เองน้ำหนักกว่า 50 กิโล และมีการฝังหมุดยึดกับตัวพื้นห้อง ไม่น่าจะมีใครรู้
 
             แต่พอขึ้นไปดูพบว่าตู้เซฟถูกดึงออกมาจากจุดที่ติดตั้ง โดยตัวตู้ถูกงัดที่ด้านหลัง ซึ่งตนเองก็ตกใจว่าทำไมตู้ถึงงัดง่ายมีเพียงแผ่นเหล็กบางๆแปะไว้ ซึ่งทรัพย์สินส่วนใหญ่จะเป็นเอกสารสำคัญ ทองคำรูปพรรณ 60 บาท
ทองแท่ง 90 บาท
ชุดเครื่องเพชร 4.5 ล้าน
นาฬากาโรเล็กซ์ 3 เรือน มูลค่า 1 ล้าน
นาฬากา TAG HEUER 1 เรือน 5 หมื่นบาท
และเงินสดสกุลเงินไทยกว่า 300,000 บาท สกุลต่างประเทศอีกจำนวนหนึ่ง
 
             จากการตรวจสอบยังพบลิ้นชักถูกงัดเอาเงินสดที่เอาออกมาไว้ใช้จ่ายอีกกว่า 100,000 บาท รวมถึงพระเครื่องในห้องแม่ที่วางบนตู้จำนวน 2 องค์ หายไปด้วย และที่เป็นจุดสังเกตถึงความผิดปกติยังพบว่ามีเก้าอี้วางตามมุมของกำแพง และที่กำแพงมีลักษณะรอยเปื้อนเหมือนมีการลบอะไรบางอย่างออก ซึ่งปกติเก้าอี้จะไม่มีมาวางตรงนี้ เบื้องต้นได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ห้วยขวาง ไปแล้ว
 
             สิ่งที่เกิดขึ้นยอมรับว่าตนเองผิดที่ไม่ติดกล้องวงจรปิดไว้ ประกอบกับไม่ได้เข้าร่วมโครงการฝากบ้านกับตำรวจ เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุ วอนเจ้าหน้าที่ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ไว้ที่สุด เพราะทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายเอาไปเป็นทรัพย์สินของครอบครัว ทั้งของตนเอง แม่ ป้า และคนอื่นๆ ที่นำมาฝากไว้ระหว่างดำเนินการย้ายเซฟที่มีไว้กับธนาคาร ซึ่งทรัพย์สินส่วนใหญ่มีคุณค่าทางจิตใจของทุกคนเพราะเป็นมรดกตกทอดจากผู้ใหญ่ในครอบครัว
 
             อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาไม่มีใครเข้ามาในบ้านหรือรู้ว่าตู้เซฟตั้งอยู่ตรงไหนแม้แต่ญาติของตน ยกเว้นช่างที่ติดตั้งเซฟ และช่างที่มาทำบิลต์อินที่ซ่อนตู้เซฟ ซึ่งตนก็ไม่ได้ปรักปรำใคร เป็นเพียงข้อสันนิฐานเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง