ปชป. ย้ำไม่แทรกแซงคดี ปริญญ์ ยันปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

       จากกรณีที่ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถูกกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาว ล่าสุด มีคำยืนยันจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้วว่า จะไม่ปกป้อง หรือแทรกแซงในคดีนี้ ขอให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม

 

       นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นต่อกรณีดังกล่าว โดยขอให้กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ได้รับความเสียหาย พร้อมย้ำจุดยืนยันของพรรค ไม่สนับสนุนและต่อต้านการคุกคามทางเพศ พรรคจะไม่เข้าไปปกป้องใคร และไม่เข้าไปแทรกแซงการดำเนินคดี อีกทั้ง จะไม่แต่งตั้งใครมาทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ สก. แทนนายปริญญ์ เพราะมีรองผู้อำนวยการ 9 คน คอยดูแลอยู่แล้ว

 

        ขณะที่ พรรครวมไทยยูไนเต็ด ออกแถลงการณ์ ระบุว่า ได้รับแจ้งจาก นางหทัยรัตน์ ธนากิจอำนวย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายคดีดังกล่าวด้วย ขอถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร สก.เขตสวนหลวง ในนามของพรรค เพราะต้องการแสดงความจริงใจ ว่าการออกมาแจ้งความในคดีที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้ทำไปเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่ต้องการพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และพรรคขอสนับสนุนการตัดสินใจในครั้งนี้ ทั้งยังชื่นชมในความกล้าหาญ จึงหวังว่ากระบวนการยุติธรรม จะเป็นไปด้วยความเที่ยงธรรมและโปร่งใส

 

        ขณะที่ นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณี นางสาวหทัยรัตน์ ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตสวนหลวง พรรครวมไทยยูไนเต็ด ประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร สก. เพื่อลบข้อครหาการแจ้งจับ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากว่า ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 53 ระบุไว้ว่า เมื่อลงสมัครแล้วไม่สามารถถอนตัวจากการเป็นผู้สมัครได้ โดยเมื่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพฯ ประกาศให้คุณแอนนา เป็นผู้สมัครแล้ว ความเป็นผู้สมัครของคุณแอนนา จะมีอยู่ไปจนกว่าจะประกาศผลการเลือกตั้งจะเสร็จสิ้น ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปหย่อนบัตรให้ถือเป็นคะแนน

 

        เมื่อถามว่า การประกาศถอนตัวถือว่ามีความผิดหรือไม่ นายสำราญ กล่าวว่า ช่วงนี้ยังถือว่าไม่เป็นความผิด แต่หากการประกาศถอนตัว ซึ่งมีความหมิ่นเหม่ผิด มาตรา 65(5) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร หากการประกาศถอนตัวของผู้สมัครนั้น มีเจตนาใช้แนวทางนี้จูงใจให้เข้าใจผิด อย่างไรก็ตามขณะนี้แจ้งเตือนไปยังคุณแอนนา และผู้คุยกับตัวแทนพรรคต้นสังกัดเบื้องต้นด้วยวาจาแล้ว ว่าสมัครแล้วถอนตัวไม่ได้ และคงต้องมีหนังสือแจ้งเตือนเป็นทางการด้วย

 

        ขณะที่ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนสอบสวนทุกฝ่ายอย่างละเอียดถี่ถ้วน ให้ความยุติธรรมกับเหยื่อที่ถูกกระทำไม่ว่าจะด้วยทางตรงหรือทางอ้อม และที่สำคัญพรรคการเมืองจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรคและผู้ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรคอย่างละเอียดด้วย

 

       เช่นเดียวกับ คุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ขอสังคมไทยอย่าปล่อยให้การลวนลาม กลายเป็นความเคยชิน หรือ วัฒนธรรม การคุกคามผู้หญิง โดยเฉพาะการคุกคามจากผู้ที่มีอำนาจสูงกว่ามีอยู่เสมอ ทั้งในที่ทำงาน ภาคราชการ ภาคเอกชน หรือแม้แต่ในสถานศึกษา จึงขอให้ทุกคนลุกขึ้นสู้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า นี่คือพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง และไม่ใช่สิ่งที่เป็นปกติ