นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เป็นห่วงภาระค่าครองชีพของประชาชนจะสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าในช่วงเดือนเมษายน ที่สภาพอากาศร้อนจัด ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นจากปกติมากโดยปริมาณการใช้ไฟมีโอกาสสูงสุดที่ 3 หมื่นเมกะวัตต์ขึ้นไป เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติที่อากาศไม่ร้อนมาก 1 หมื่นเมกะวัตต์ ซึ่งความต้องการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้นมาก มีผลให้ค่าใช้จ่ายแต่ละครัวเรือนและภาคเอกชนเพิ่มสูงขึ้นมากเช่นกัน
ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาตรึงค่าไฟฟ้าไว้ก่อน โดยอาจจะตรึงราคาไว้ในช่วง 2-3 เดือนให้เข้าสู่ฤดูฝนก่อน จากเดิมที่ต้องปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม อีก 23.38 สตางค์ต่อ เพราะถึงแม้รัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยาค่าไฟเพื่อลดผลกระทบประชาชน หากใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน จะลดค่าเอฟทีให้ 22 สตางค์ต่อหน่วย รวม 4 เดือน ในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม แต่สภาพอากาศที่ร้อนจัดขนาดนี้ ส่วนใหญ่ประชาชนต้องเปิดพัดลม เปิดแอร์มากขึ้น การใช้ไฟฟ้าต้องมากกว่า 300 หน่วยแน่นอน
นอกจากผลกระทบค่าไฟฟ้าแล้ว ยังมีภาระค่าน้ำมันที่รัฐบาลจะเลิกตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมนี้อีก ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการขนส่งเตรียมปรับขึ้นราคาค่าขนส่ง 15-20% ซึ่งจะกระทบราคาสินค้าขยับมากขึ้นไปอีก รัฐบาลต้องเตรียมรับมือเรื่องนี้โดยด่วน สถานการณ์ขณะนี้จึงน่ากังวลปัญหาค่าครองชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนด้านพลังงานทั้งค่าไฟและน้ำมัน
+ อ่านเพิ่มเติม