อัจฉริยะ ใจป้ำ ควักเงินสด 1 แสน ประกันตัวคู่กรณีชายคลั่งปาหิน สุดท้าย "ต้องยกเลิก" หลังดูวงจรปิด พบคู่กรณีนำ เหล็กชะแลง กระหน่ำตีใส่ผู้เสียชีวิตไปหลายครั้ง
วันที่ 7 เม.ย.65 จากกรณีที่มีเหตุการณ์ที่ นายจรัญ อายุ 56 ปี ชาวจังหวัดลพบุรี เกิดอาการคุ้มคลั่งแล้วใช้ก้อนอิฐตัวหนอนและก้อนปูนซีเมนต์ จากบนฟุตบาทไล่ขวางใส่พนักงานและร้านค้าข้างทาง รวมถึงทุบกระจกรถที่จอดบริเวณนั้นจนได้รับความเสียหาย สุดท้ายมีการอ้างว่าอีกฝ่ายใช้ก้อนหินปาสวนกลับไปที่ชายวัย 56 ปี จนถูกศรีษะและเสียชีวิตทันทีที่เกิดเหตุ เหตุเกิดเมื่อช่วง 11 โมงของวันที่ 6 เมษายน 2565 ริมถนนกิ่งแก้ว ช่วงปากซอยกิ่งแก้วซอย 9 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนั้นในที่เกิดยังมีผู้บาดเจ็บ 2 คน
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. วันเดียวกัน ที่สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว ผู้สื่อข่าวรายงาน นายพงศ์ศักดิ์ สุกสี ตัวแทนของทางชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่สภ.บางแก้ว พร้อมกับเงินสดจำนวน 1แสน บาท เพื่อขอยื่นเรื่องประกันตัว นาย ธวัชชัย พนักงานของบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นคู่กรณีของทางคุณลุงจรัญ ที่เสียชีวิต และนายธวัชชัย ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ โดยทางด้านพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายธวัชชัยมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้โดยเจตนา แก่นายธวัชชัย หลังจากที่พนักงานสอบสวนตรวจสอบหลักฐานโดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้การประกันตัวของทางชมรมต้องยกเลิกหลังทราบหลักฐานชิ้นสำคัญ
นายพงศ์ศักดิ์ ตัวแทนของทางชมรม เปิดเผยว่า ที่ตนเองเดินทางมายื่นเรื่องจะประกันตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ สืบเนื่องจากได้รับการประสานจากทาง นาย อัจฉริยะ เรื่องรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ติดตามข่าวดังกล่าวและเข้าใจตามคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาในตอนแรกที่อ้างว่าเกิดจากการป้องกันโดยจึงมอบหมายให้มายื่นเรื่องประกัน แต่พอมาดูหลักฐานแล้วพบว่าไม่ใช่การป้องกันตัว โดยใช้หินปาสวนกลับไปตามคำกล่าวอ้างที่ให้การกับทางพนักงานสอบสวนในตอนแรก แต่กลับพบว่าเข้าข่ายฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เนื่องจากมีการนำเอาเหล็กชะแลงยาวเกือบหนึ่งเมตรใช้เป็นอาวุธในการกระหน่ำตีใส่ผู้เสียชีวิตไปหลายครั้ง ทางชมชมรมจึงขอยกเลิกการประกันตัวและปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ด้านนาย ธวัชชัย ได้ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดหลังจากรับทราบข้อกล่าวหาและตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา นายธวัชชัย ยอมรับว่าตามคำกล่าวอ้างตอนแรกที่ระบุว่าใช้ก้อนหินปาสวนกลับไปโดนคุณลุงนั้นไม่เป็นความจริง ความจริงคือตนเองใช้ชะแลงเหล็กที่ถืออยู่ในมือ ฟาดที่ศรีษะและต้นคอของคุณลุงไป 3 ครั้ง และเตะซ้ำไปหนึ่งครั้ง เนื่องจากในขณะนั้นเกิดอารมณ์ความโมโหที่ถูกปาหินใส่ก่อนจนต้องวิ่งหนีตายและบาดเจ็บเล็กน้อยส่วนเพื่อนถึงขั้นกระดูแตก จังหวะที่เดินย้อนกลับไปหาคุณลุงเพื่อต้องการให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวจึงลงมือก่อเหตุไปโดยไม่ได้ตั้งใจให้ถึงแก่ชีวิต
ด้าน พ.ต.ท. ฐานธิษณ์ แดนราศี สารวัตรสอบสวนสภ.บางแก้ว เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ภายหลังจากการตรวจสอบหลักฐานอีกครั้ง โดยเฉพาะภาพวงจรปิด จะเห็นได้ว่าผู้ต้องหาลงมือใช้เหล็กชะแลงตีที่ผู้ตายหลายครั้งจริง ซึ่งจะอ้างว่าเป็นการป้องกันตัวนั้นไม่ได้ เนื่องจากการใช้ท่อนเหล็กที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากตีไปที่จุดสำคัญหลายครั้งย่อมเรงเห็นผลถึงชีวิต จึงต้องแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนผู้เสียชีวิต
ขณะนี้สามารถติดต่อทางญาติได้แล้ว ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตไม่มีครอบครัว อยู่ตัวคนเดียว ที่ผ่านมาจะมีนิสัยติดสุราอย่างหนักจนเกิดอาการคุ้มคลั่งบ้างเป็นบางครั้ง แต่ก็ไม่ได้เคยเข้ารับการรักษาจนมีเอกสารหรือหลักฐานที่ยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวชรแต่อย่างใด โดยทางญาติยังระบุอีกว่าผู้ตายเมื่อวันที่ 5 เมษายน 65 ยังอยู่ที่ บ้านพักที่ลพบุรีและไม่ทราบว่ามาที่กิ่งแก้วตอนไหนมาทราบอีกครั้งหลังเกิดเหตุแล้ว
+ อ่านเพิ่มเติม