แม่พิการร้อง ลูกสาววัย 16 หาสมัครงานในเว็บเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระแม่ ถูกหลอกเปิดบัญชีผ่านร้านสะดวกซื้อ สุดท้ายโดนหมายเรียกข้อหาฉ้อโกง-นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
วันที่ 7 เม.ย.65 แม่อุ๊ แม่ของ น้องบี (นามสมมติ) ที่ถูกลวงเปิดบัญชี พร้อมด้วย จอย ป้าของ น้องเอ (นามสมมติ) ร้องผ่านรายการถกไม่เถียง ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แม่อุ๊ แม่ของ น้องบี (นามสมมติ) เด็กวัย 16 ปี ถูกลวงเปิดบัญชี เล่าว่า ตนเองเป็นผู้พิการเดินไม่ได้ เนื่องจากถูกคนเมาขับรถชน ทุกวันนี้มีรายได้จากเงินคนพิการเดือนละ 800 บาท สามีต้องรับหน้าที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ทำให้ลูกสาวพยายามจะหางานทำเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ ออกไปขายขนมกับเพื่อน จนมาช่วงเรียนออนไลน์ น้องมีเวลามากขึ้นเลยหางานเพิ่ม ออกไปรับจ้างล้างจานตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่ม อยู่ๆ วันนึง มีหมายศาลมาที่บ้าน ตอนแรกที่ได้รับหมายศาลก็คิดว่าจะเป็นมิจฉาชีพมาหรอกรึเปล่า เพราะช่วงนี้มีข่าวแนวนี้เยอะ เลยโทรศัพท์ไปสอบถามทางตำรวจ ว่าหมายเรียกที่ส่งมาจริงไหม จึงทราบว่าเป็นเรื่องจริง ตนจึงได้สอบถามลูกว่าเคยเปิดบัญชีที่ไหนไหม ซึ่งลูกก็บอกมีแค่บัญชี ธนาคารกรุงไทย ที่แม่เป็นคนพาไปเปิด ตนจึงถามถึงบัญชี ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ตอนแรกน้องบอกไม่เคย จนมาเอะใจชื่อธนาคาร ก่อนจะเล่าให้ตนฟังว่าเคยส่งบัตรประชาชนไปสมัครงาน บริษัทชื่อ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โดยน้องเห็นเพื่อนโพสต์ว่ามีงานเรท 150 บาท ใครสนใจให้ทัก ลูกเลยทักไปถามว่าทำยังไง เพื่อนซึ่งก็คือ น้องเอ (นามสมมติ) บอกว่าไม่ต้องทำอะไรมาก แค่เอาบัตรประชาชนมา จากนั้นให้ไปยืนยันตัวตนที่ร้านสะดวกซื้อ แล้วแจ้งพนักงานว่า มายืนยัน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ก็พอ ซึ่งลูกก็เข้าใจว่า แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ คือบริษัทแห่งหนึ่ง ไม่ใช่ชื่อธนาคาร ตอนนี้ตนเครียดมาก สงสารลูก ไม่รู้จะทำยังไง ตนเองก็ไม่เข้าใจกฎหมาย ลูกเองก็ยังเรียนหนังสืออยู่ แล้วถ้ามีคดีติดตัวแบบนี้มันจะเป็นยังไง หากเรียนจบจะหางานทำได้ไหม
แม่อุ๊ เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเองเป็นผู้พิการเดินไม่ได้ เนื่องจากถูกคนเมาขับรถชน เท่านั้นยังไม่พอ หมอยังเจอก้อนซีสอยู่ใกล้กับเหล็กที่ดามหลัง หมอจึงผ่าออกให้ ปรากฏว่าดันผ่าตัดผิดพลาดจนทำให้มีอาการเจ็บปวดทุกข์ทรมานเดินไม่ได้จนคิดฆ่าตัวตายมา 3 ครั้งแล้ว แต่ตนเองก็สู้ทำกายภาพบำบัดมาตลอด คิดว่าต้องอยู่ให้ได้เพื่อลูกสาว แล้วมาเกิดเรื่องแบบนี้กับลูกสาวอีก
ด้าน ป้าจอย ป้าของ น้องเอ (นามสมมติ) เพื่อนที่เป็นคนชวน น้องบี (นามสมติ) ทำงาน เล่าให้ฟังว่า มีหมายเรียกมาที่บ้านช่วงวันที่ 9 มี.ค. ตำรวจเอาหมายมาที่บ้าน แต่ตัวน้องไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ ตอนนั้นแม่น้องก็ไม่อยู่บ้าน เลยมีคนอื่นรับหมายแทน ตอนที่รู้ว่าน้องโดนคดีฉ้อโกง ตนก็ตกใจมาก ถามน้องว่าไปทำอะไรมา น้องก็เล่าให้ฟังว่า เขามีเรทงานมาให้ทำ โดยเขาให้น้องทักไปหาคนชื่อ ปังจู เขาก็บอกให้น้องส่งรูปบัตรประชาชนไปและไปยืนยันตัวตนที่ร้านสะดวกซื้อ แล้วบอกพนักงานว่ามายืนยัน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งน้องก็ไม่รู้จักชื่อธนาคารนี้มาก่อน เข้าใจว่าเป็นชื่อหมู่บ้านแห่งหนึ่ง น้องก็ได้เงินมา 300 บาท แล้วมีการย้ำว่าไม่ต้องกลัว เพราะเขาไม่โกงหรอก
ป้าจอย เล่าต่อว่า น้องเอ (นามสมมติ) เป็นเด็กดี ปกติน้องจะขายขนมหารายได้เสริม ตนเคยถามน้องว่ามีเงินใช้ไหม ขอป้าได้นะ แต่น้องบอกว่า น้องรบกวนป้ามาเยอะแล้วเลยไปหางานทำเอง จนมาเจองานนี้ พอโดนหมายเรียก ทางตำรวจก็แจ้งมาว่ายังไงก็ต้องไปตามหมาย แต่เราไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะหมายเรียกอยู่ต่างจังหวัด ตำรวจบอกว่าถ้าไม่มา ก็รออีกหมายนึง แล้วก็รอจนตำรวจมาจับตัวหลานไป ตอนแรกเราจะไปร้องศูนย์ดำรงธรรม แต่ตำรวจบอกจะไปร้องทำไม ในเมื่อคุณทำผิด หลานคุณรับจ้างเปิดบัญชีเอง
น้องบี (นามสมมติ) เด็กวัย 16 ปี เหยื่อที่ถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า เล่าให้ฟังว่า เห็นเพื่อนที่โรงเรียนลงสตอรี่ว่า มีเลสงาน 150 บาทใครสนใจทัก ตนจึงทักไปถามเพื่อนว่า อยากสมัครทำงานต้องทำยังไง เพื่อนตอบกลับมาว่าแค่ส่งรูปบัตรประชาชนมาเดี๋ยวจะทำให้ หลังจากส่งบัตรประชาชนไปแล้ว เพื่อนก็บอกว่าจะมีข้อความเป็นคิวอาร์โค้ดส่งมาให้นะ แล้วให้เอาคิวอาร์โค้ดนั้นพร้อมบัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนที่ร้านสะดวกซื้อ พอยืนยันตัวตนเสร็จ น้องบี ก็ให้ถ่ายรูปสลิปส่งไปให้เขา หลังจากนั้น น้องบีก็โอนเงินเข้ามาให้ 300 บาท ก็แบ่งให้เพื่อนอีกคนที่มายืนยันตัวตนด้วยกัน 150 บาท เพราะว่าได้เงินคนละ 150 บาทต่อคน ตนไม่รู้เลยว่า แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ คืออะไร ไม่รู้ว่าคือธนาคาร แล้วหลังจากได้รับเงิน ตนก็ได้มีการชักชวนรุ่นพี่มาทำงานด้วย เพราะไม่รู้ว่าเป็นการเปิดบัญชีธนาคาร
สำหรับกรณีนี้ ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า ข้อหาที่น้องโดน มีโทษจำคุกข้อหาละ 5 ปี รวมๆ แล้ว 10 ปี และมีโทษปรับด้วย เรื่องที่โดนหมายเรียก เราสามารถเลื่อนการไปรายงานตัวได้ แต่ตามรูปคดี มันผิดอยู่แล้ว บัญชีม้าถือเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดการฉ้อโกงสำเร็จ สำหรับกรณีที่น้องถูกหลอก ต้องเอาหลักฐานไปต่อสู้คดีในศาล ผมมั่นใจว่า พนง.สอบสวน และอัยการ ไม่สามารถตัดสินคดีของน้องได้ น้องต้องไปต่อสู้ในศาล ไปอธิบายให้เขาฟังว่่าเราไม่เข้าใจเรื่องการเปิดบัญชี น้องไม่รู้ก็คือไม่รู้ แต่บางครั้งเอาความใสซื่อไปสู้กับศาลอย่างเดียวไม่ได้ เพราะศาลอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่ควรต้องรู้ ฉะนั้น เราต้องหาหลักฐานมาแสดงให้ศาลท่านเห็นว่าเราไม่รู้จริงๆ
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า การรับจ้างเปิดบัญชี อันนี้รู้อยู่แล้วว่าเป็นการเปิดบัญชีโดยมิชอบ กับอีกแบบคือโดนหลอกให้เปิดบัญชีโดยไม่รู้ตัวแบบเคสน้อง กรณีนี้ถ้าเราไม่ได้ทำผิด พนักงานสอบสวนยินดีที่จะตรวจสอบพยานหลักฐานตามที่น้องมี หากมีการชักชวน มีการหลอกลวง ให้เอาหลักฐานไปให้พนักงานสอบสวนดู และหากว่าไม่สะดวกเดินทางไปตามหมายเรียก สามารถขอเลื่อนได้ ตำรวจคงไม่เอาเป็นเอาตายกับเด็กหรอก ถ้าน้องไม่ผิดไม่ต้องกลัว เส้นทางการเงินมันจะชี้ชัดว่าใครเป็นคนทำ แล้วเราจะจับตัวไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังมาลงโทษให้ได้ ตอนนี้บัญชีม้าเริ่มหายาก เพราะมีการปราบปรามอย่างหนัก เลยเริ่มมีการหาเหยื่อที่เป็นเด็กๆ เพราะน้องอาจรู้ไม่เท่าทัน
ดังนั้นอยากจะฝากเตือนพี่น้องประชาชน และผู้ปกครอง หากมีการรับสมัครงานที่ต้องมีการเอาบัญชีธนาคารไปใช้ ห้ามทำเด็ดขาด ให้พึงระลึกไว้เสมอว่าอาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพได้
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com