นอนทับลูกดับ! สลดพ่อแม่วัยใส เผลอหลับนอนทับลูกเสียชีวิตไม่รู้ตัว

สลดพ่อแม่วัยใส เผลอนอนทับลูกน้อยอายุ 1 เดือน หลังเหนื่อยจากการทำงานหลับไม่รู้เรื่อง พบอีกทีลูกนอนตัวแข็ง-เลือดออกทางปาก

 

             วันที่ 6 เม.ย.65 ร.ต.อ.บรรจบ จ้อยศรีเกตุ ร้อยเวร สภ.วิเศษชัยชาย จ.อ่างทองได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญให้ไปตรวจสอบ หลังเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมามีชายวัยรุ่นอุ้มเด็กทารกวัยประมาณ 1 เดือนวิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ให้ช่วยชีวิต แต่เด็กทารกดังกล่าวเสียชีวิตก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะทำการช่วยเหลือ

 

             หลังได้รับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดไปตรวจสอบพบเด็กทารกเพศชาย เสียชีวิตอยู่ภายในห้องฉุกเฉิน สภาพศพตัวเขียวมีเลือดไหลออกทางปาก จึงร่วมกับแพทย์เวรชันสูตรพลิกศพ บริเวณหน้าห้องพบนายสิทธิชัย หรือบูม ยานก๋ง อายุ 17 ปี และนางสาวสุทธิดา หรือแนน สงวนดี อายุ 19 ปี พ่อแม่ของเด็กทารกดังกล่าวกอดคอกันร้องไห้อย่างหนักอยู่บริเวณด้านหน้าห้อง โดยมีญาติๆของทั้งคู่คอยปลอบและให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา

 

             นายบูมเล่าให้ฟังว่าเด็กทารกที่เสียชีวิตคือน้องไบร์ท อายุ 28 วัน บุตรชายของตน ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านหลังกลับจากทำงานก่อสร้างก็เข้านอนตามปกติโดยน้องไบร์ทนอนตรงกลางระหว่างตนกับภรรยา จนกระทั่งประมาณตี 5 ภรรยาตนเรียกตนบอกว่าน้องไบร์ทตัวแข็งไม่หายใจ จึงรีบเรียกญาติ ก่อนช่วยกันนำน้องไบร์ทส่งโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญแต่พอมาถึงน้องไบร์ทเสียชีวิตแล้ว

 

             ขณะที่นางสาวทวีพร ม่วงสีไพร อายุ 40 ปี ยายของน้องไบร์ทบอกว่า น้องไบร์ทเป็นหลานคนที่สองโดยคนแรกอายุ 5 ขวบ ซึ่งเกิดจากสามีเก่าของน้องแนน เมื่อช่วงเช้าประมาณตีห้าทั้งคู่ซึ่งนอนอยู่ห้องติดกันตะโกนเรียกและอุ้มน้องไบร์ทมาให้ โดยบอกว่าน้องไบร์ทเป็นอะไรไม่รู้ โดยตอนที่เอามาให้มีเลือดออกที่ปากและที่ก้นจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งก็ไม่ทันแล้ว คิดว่าน่าจะนอนทับ เพราะทั้งคู่เหนื่อยจากการทำจนหลับไม่รู้เรื่อง

 

             เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภายในห้องนอนของน้องไบร์ทในตำบลไผ่วง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ไม่พบร่องรอยใดๆ มีเพียงรอยเลือดของน้องไบรท์อยู่บริเวณกลางที่นอน ซึ่งคาดว่าน้องแนนจะนอนให้นมลูกแล้วเผลอหลับและทับตัวน้องไบรท์จนกระทั่งขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต  เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำร่างของน้องไบร์ทส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตแน่ชัดต่อไป