เพื่อนห้ามไม่ฟัง! 'หนุ่มเมาอาละวาด' เพื่อนเข้าห้ามไม่หยุดคว้าเหล็กฟาดหัวดับ

หนุ่มเมาอาละวาด เพื่อนเข้ามาเตือนไม่หยุด คว้าเหล็กฟาดหัวแทงลำตัวสาหัส ก่อนเสียชีวิตคาซอยลูกหลวง13

 

            วันที่ 31 มี.ค. 2565 พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง รอง ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพงษ์ สุขแย้ม ผกก.สน.สามเสน รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท มีผู้เสียชีวิต บริเวณกลางซอยลูกหลวง 13 แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช ร่วมกตัญญู และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน

 

            ที่เกิดเหตุพบศพ นายอนุภาพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี สภาพมีบาดแผลถูกตีเข้าบริเวณศีรษะ และแทงเข้าบริเวณลำตัวอีก 1 แผล นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ใกล้กันพบท่อนเหล็กงัดยางรถยนต์ ความยาวประมาณ 50 เซนติเมตรตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อให้แพทย์นิติเวชตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

            จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลา 17.00 น.ของวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา นายวิสุทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ พร้อมด้วย นายอานุภาพ และเพื่อน 2 คน ได้ร่วมวงดื่มสุรากันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งริมคลองเทเวศน์ จากนั้นเวลา 21.10 น. นายอานุภาพได้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ต่อมาเวลาประมาณ 21.23 น. แฟนสาวของนายเอกชัยโทรศัพท์มาแจ้งว่า พบนายอานุภาพเดินอาละวาดอยู่ภายในซอยลูกหลวง 13 จุดเกิดเหตุ นายเอกชัย และนายวิสุทธิ์ จึงออกจากร้านอาหารเพื่อไปหานายอานุภาพ เมื่อไปถึงได้ห้ามปรามนายอานุภาพไม่ให้ก่อเหตุ

 

            แต่นายอานุภาพไม่หยุดอาละวาด จึงมีปากเสียงกัน และเกิดการทำร้ายร่ายกายกันในเวลาต่อมา โดยนายวิสุทธิ์ได้ใช้ท่อนเหล็กงัดยางรถยนต์ ตีเข้าบริเวณศีรษะ และแทงเข้าบริเวณลำตัว 1 แผลของนายอานุภาพจนบาดเจ็บสาหัส ระหว่างนั้น ตำรวจ สน.สามเสน ซึ่งรับแจ้งเหตุเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ควบคุมตัวนายวิสุทธิ์ และยึดท่อนเหล็กที่ใช้ในการก่อเหตุไว้เป็นของกลาง และเร่งประสานรถพยาบาลกู้ชีพมาเพื่อปฐมพยาบาล แต่นายอานุภาพทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต

 

            จากการสอบสวน นายวิสุทธิ์ ให้การสารภาพว่า ได้ทำร้ายผู้ตาย สาเหตุเกิดจากการทะเลาะวิวาท ก่อนจะพยายามหลบหนีโดยรถจักรยานยนต์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจซึ่งได้รับแจ้งและรีบมาถึงที่เกิดเหตุจับกุมตัวได้ดังกล่าว ทั้งนี้ ตำรวจจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และซักถามพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ก่อนส่งพนักงานสอบสวนสน.สามเสน ดำเนินคดีตามกฎหมาย