ทนายตั้ม พาเหยื่อร้อง! หมอลืมผ้าก๊อซไว้ในหน้าอก จนผังผืดเกาะ ผ่านมา 10 ปีเพิ่งรู้ : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

        โผล่อีกราย ศัลยกรรมทำพิษ สาวเสริมอึ๋ม หมอลืมผ้าก๊อซไว้ในอก นานนับ 10 ปี จนพังผืดเกาะ เจ็บปวดทรมานจากอาการอักเสบ 

        เต็ม ผู้เสียหาย เผยว่า ที่ตนตัดสินใจไปทำศัลยกรรมหน้าอกที่ เหตุเพราะตนนั้นได้ทำการหาข้อมูลแล้วพบว่าแพทย์จบมาจาก 3 สถาบัน และเพื่อนก็แนะนำมาบอกว่าทำดี โดยค่าใช้จ่ายในการทำศัลยกรรมอยู่ที่ 59,999 บาท หลังจากทำไป 2 เดือน ทางคลินิกก็นัดมาตรวจเช็คและแจ้งว่าต้องทำการผ่าอีกรอบเพราะเป็นพังผืด หลังจากผ่าเสร็จก็ปกติ ไม่มีอาการเจ็บปวด และเริ่มมีปัญหา หลังจากผ่าไปแล้วปีครึ่ง ซึ่งตนนั้นรู้สึกขัด ๆ และหนักบริเวณหน้าอก พอจับไปก็รู้สึกเป็นก้อนแข็ง พอระยะเวลาผ่านไปหน้าอกเริ่มผิดรูป ตนจึงตัดสินใจไปหาหมอที่อำนาจเจริญและอัลตราซาวด์และแจ้งว่าอาจจะเป็นพังผืด และแจ้งกับตนว่าถ้าจะไปแก้ให้เอา CT Scan ไปให้หมอดูและถ้าผ่าเสร็จให้ส่งชิ้นเนื้อไปตรว ภายหลังที่ตนได้ทำการเข้าผ่าตัดเพื่อแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้น ปรากฏว่าพบกับผ้าก๊อซและพังผืดเป็นจำนวนมาก

          ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เผยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความประมาทของคุณหมอ จริง ๆ แล้ว ผ้าก๊อซต้องเป็นสำหรับผ่าตัดซึ่งถ้ามีการลืมไว้นั้นผ้าก๊อซสำหรับผ่าตัดถ้าเอกซเรย์จะมีสีแสงสีฟ้าปรากฎขึ้นมาทันที ซึ่งเราสามารถเรียกร้องค่าเสียหายกับแพทย์ที่ทำการผ่าตัด โดยได้มีการนัดหมายกับทางโรงพยาบาลแล้วเพื่อจะสอบถามว่าทางโรงพยาบาลจะมีการเยียวยาผู้เสียหายอย่างไรบ้าง และถ้าเกิดตกลงกันไม่ได้ก็ต้องไปร้องกับทางแพทยสภาเพื่อให้ดำเนินการในเรื่องของความประมาทของแพทย์ที่ลืมผ้าก๊อซ

          นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ศัลยแพทย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา เผยว่า ต้องเข้าใจก่อนว่าผ้าก๊อซเป็นอุปกรณ์ที่ซับเลือดและห้ามเลือดในการผ่าตัดทุกเคสอยู่แล้ว ในทางการแพทย์เราก็จะเจอเคสที่ลืมผ้าก๊อซไว้ในหลายกรณีซึ่งบางครั้งทางศัลยแพทย์เองหรือตัวคนไข้เองก็ไม่ทราบว่ามันเกิดจากอะไร และในเมื่อก่อนเรามักเจอในกรณีที่เข้ามารักษาด้วยการที่เอกซเรย์แล้วมีก้อนขึ้นมาทำให้ก้อนที่เกิดขึ้นนั้นมักจะมีแคลเซียมเข้ามาเกาะ หินปูน ทำให้คล้ายกับการเป็นมะเร็ง ซึ่งในเรื่องของการที่ลืมผ้าก๊อซไว้นั้นมันคือสิ่งแปลกปลอม ร่างกายต้องการที่ห้ามไม่ให้มันกระจายไปตรงอื่น กล่าวคือให้มันเกิดความเสียหายเพียงเท่านี้ร่างกายจึงพยายามสร้างแคปซูลเหมือนกับพังผืดเพื่อห่อหุ้มผ้าก๊อซ โดยพื้นฐานในการดูแลเคสแบบนี้นั้นต้องทำการเช็คหลายรอบ ซึ่งก่อนเข้าผ่าตัดต้องมีการนับจำนวนผ้าก๊อซว่ามีกี่ชิ้น และหลังผ้าตัดเสร็จก็ต้องเช็คว่ามีเท่ากับตอนก่อนผ่าตัดหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด

          อีกทั้งยังแจ้งกับผู้เสียหายอีกว่า ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอันตรายกับร่างกาย หรือผลค้างเขียงในอนาคตเพราะถ้านำออกจากร่างกายหมดแล้วก็จะไม่เกิดอันตรายใด ๆ อีกในอนาคต