รวบแล้ว! ลูกจ้างสาวแสบ วางยานายจ้างเจ้าของร้านทอง ก่อนชิงทรัพย์กว่า 3 แสนหลบหนี
logo ข่าวอัพเดท

รวบแล้ว! ลูกจ้างสาวแสบ วางยานายจ้างเจ้าของร้านทอง ก่อนชิงทรัพย์กว่า 3 แสนหลบหนี

ข่าวอัพเดท : ลูกจ้างสาวแสบ วางแผนใช้ข้อมูลปลอมสมัครงานร้านทอง ก่อนวางยาสลบเจ้าของร้านกับลูกชาย ชิงเงินสด-ทองคํา มูลค่าร่วม 3 แสนหลบหนี ตำรวจแกะรอ ลูกจ้าง,วางยา,ยาสลบ,ร้านทอง,ชิงทรัพย์,หลบหนี,เจ้านาย,นายจ้าง

535 ครั้ง
|
30 มี.ค. 2565
         ลูกจ้างสาวแสบ วางแผนใช้ข้อมูลปลอมสมัครงานร้านทอง ก่อนวางยาสลบเจ้าของร้านกับลูกชาย ชิงเงินสด-ทองคํา มูลค่าร่วม 3 แสนหลบหนี ตำรวจแกะรอยตามรวบตัวดำเนินคดี
 
           สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายแจ้งว่า ขณะที่มารดาและน้องชายอยู่ที่ร้านทองแกรนด์เยาวราชตลาดดี เขตบางขุนเทียน กทม. เกิดเจ็บป่วยกะทันหันจึงนําตัวส่งรักษาที่ รพ. ซึ่งสงสัยว่าทั้งคู่ถูกวางยา และตรวจสอบทรัพย์สินพบว่า ทองรูปพรรณและเงินสดได้หายไป จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า นางศิรดา ลูกจ้าง ได้ลักทองรูปพรรณและเงินสดหลบหนีไป
 
          จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าลูกจ้างชื่อ "ฟาง" หรือก็คือ นางศิรดา ที่รับเข้ามาทำงานในร้านค้าทองแห่งหนึ่ง ที่ย่านพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กำลังทำอะไรบางอย่างกับขวดน้ำ ก่อนที่จะนำไปให้น้องชายของผู้เสียหายที่อยู่หน้าร้านดื่ม กระทั่งพอยาออกฤทธิ์ก็ทำทีเดินมาตรวจดูของหน้าร้าน และหยิบเอาทรัพย์สินมีค่าไป ก่อนจะอาศัยจังหวะเผลอหาโอกาสหลบหนีไป
 
            หลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.แสมดำ ฝ่ายสืบสวนก็ตรวจสอบภาพวงจรปิดจนไปเจอหญิงสาวแต่งกายคล้ายหญิงมุสลิม ใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหญิงคนอื่น นำสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 2 เส้น และสร้อยข้อมือหนัก 1 บาท อีก 1 เส้น ไปขายให้กับร้านค้าทองแห่งหนึ่ง บริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 ตำรวจจึงแกะรอยจากจุดนี้ จนตามไปจับกุม นางศิรดา ได้ที่ห้องพักย่านจรัญสนิทวงศ์ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำรูปพรรณ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 2 เส้น เงินสดประมาณ 120,000 บาท ใบรับซื้อทองรูปพรรณที่ระบุว่าเป็นสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 2 เส้น, กำไล น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 วง
 
             ตำรวจตรวจสอบพฤติการณ์ก่อเหตุของผู้ต้องหา พบว่ามีการเตรียมการลงมือก่อเหตุมาเป็นอย่างดี ทั้งการหาหลักฐานปลอมมาใช้สมัครงานเป็นลูกจ้างร้านค้าทอง จัดหายาสลบมาใช้วางยาผู้เสียหาย ใช้หลักฐานปลอมนำทองที่ขโมยมาไปขาย และยังแต่งกายอำพรางใบหน้าเพื่อให้ยากต่อการจับกุมด้วย
 
           พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยพลตำรวจตรีพงษ์อนันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่า หลังการจับกุมผู้ต้องหารับว่า ลงมือก่อเหตุทั้งหมดเพียงคนเดียว โดยใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนที่หาได้ตามเพจซื้อขายสินค้าในสื่อออนไลน์ มาเก็บไว้ในโทรศัพท์เพื่อแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ปกปิดตัวตนป้องกันการถูกตามจับกุมตัว ส่วนสาเหตุที่ทำอ้างว่าตนเองตั้งครรภ์อ่อน ๆ กับสามีที่เพิ่งแยกทางกันไป ประกอบกับเรียนหนังสือไม่จบ จึงตัดสินใจวางแผนลงมือ เพื่อหาเงินไปใช้เลี้ยงดูตัวเอง
 
          ต่อมาหลังการแถลงข่าว ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยให้ชี้จุดที่นำยาสลบสำหรับสัตว์ใส่ในน้ำ และจุดที่วางให้ผู้เสียหายดื่ม รวมถึงจุดที่ลักขโมยเอาทรัพย์สินมีค่าหลบหนีไป ซึ่งระหว่างการทำแผนก็มีเจ้าของร้านค้าทองที่ถูกวางยาคอยสังเกตการณ์อยู่ด้วย ซึ่งเจ้าของร้านค้าทองก็ยอมรับว่า ตอนที่ผู้ต้องหาเดินมาถามว่า ดื่มน้ำอะไร ตนเองไม่ทันเฉลียวใจ ก็เข้าใจว่าเป็นการถามไถ่ตามปกติ ส่วนลูกชายอีกคนที่ถูกวางยาสลบตามไปด้วยมีจังหวะที่เหลื่อมเวลากัน ประกอบกับน้ำที่ดื่มมีปริมาณไม่มากเลยออกฤทธิ์ช้ากว่า และส่วนตัวก็เชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะตั้งใจลักขโมยทองไปมากกว่านี้ แต่เกิดผิดแผนเสียก่อน
 
          ตำรวจได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยทำอันตรายแก่กายที่เป็นนายจ้างในเวลากลางคืน และจะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังต่อไป
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง