"ทนายรัชพล" โร่แจ้งความแก๊งสปีดโบ๊ท ข้อหาแจ้งความเท็จ - ทำลายหลักฐาน

'ทนายรัชพล' เข้าแจ้งความ 5 คนบนเรือ ฐานแจ้งความเท็จเชื่อไม่มีทางที่จะไม่เห็นแตงโม และข้อหาทำลายหลักฐาน คือแก้ว ขวดไวน์ ทั้ง 2 ข้อหามีผลทำต่อการพิจารณาจำคุก 

 

            วันที่ 28 มี.ค. 65 เวลา 10.00 น. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ทนายรัชพล ศิริสาคร เดินทางมาแจ้งความคนบนเรือสปีดโบ๊ท ในข้อหาแจ้งความเท็จ และข้อหาทำลายพยานหลักฐาน ในคดีแตงโม นิดา

 

            ทนายรัชพล กล่าว่า ตามข่าวมีคนบนเรือสปีดโบ๊ท บอกว่าแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ฟังแล้วไม่น่าเชื่อ ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นไปไม่ได้ รวมทั้งคนบนเรือสปีดโบ๊ท บอกว่าไม่เห็นแตงโม เดินไปทางไหน ตนก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ เพราะเรือลำเล็กแค่นั้น ตอนนั้นแตงโมไม่ใช่วิญญาณ เขามีตัวตน เพราะฉะนั้นเวลาเดินไปไหนทุกคนต้องเห็นอยู่แล้ว ตนเองมองว่าอาจเข้าข่ายแจ้งความเท็จ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้คดีเสียหาย ก็เลยมาแจ้งความ

 

            ส่วนข้อหาที่ 2 ทราบข่าวกันอยู่ว่ามีการดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันบนเรือ ตนเองเห็นจากข่าวว่ามีการงมหาแก้ว ขวดไวน์ หรือว่าขวดแอลกอฮอล์ ประกอบกับบนเรือแก้ว ขวดไวน์ เพราะฉะนั้นตนจึงสงสัยว่า พยานหลักฐานต่างๆน่าจะมีการถูกทำลาย เพื่อไม่ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง เข้าข่ายเป็นความผิดตามกฏหมาย ในข้อหาเกี่ยวกับการทำลายพยานหลักฐาน

 

            ตนเองมาแจ้งความในฐานะพลเมืองดี ซึ่งทั้ง 2 ข้อหามันมีโทษ อย่างข้อหาแจ้งความเท็จ ติดคุก 6 เดือน โทษปรับ 10,000 บาท ส่วนข้อหาทำลายหลักฐาน ติดคุก 5 ปี โทษปรับ 200,000 หรือ 500,000 บาท พยานหลักฐานทั้งหมด ตนเองคิดว่าตำรวจมีหมดแล้ว แต่ให้ตำรวจมาสอบสวนเพิ่มเติม ว่าความผิดนี้จะเอาผิดได้ไหม เพราะปัจจุบันยังไม่เห็นมีการแจ้งข้อกล่าวหา มีแต่แจ้งข้อกล่าวหา ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

 

            ในส่วนการทำลายพยานหลักฐาน ตนเองคิดว่ามีส่วนสำคัญในคดี เมากับไม่เมาแล้วก็มาขับเรือ มันส่งผลต่อรูปคดี มีผลทำให้ติดคุกกับไม่ติดคุกได้เลย ถ้าประมาทเฉยๆ แล้วมาขับเรืออาจจะไม่ติดคุก แต่ถ้าเมาด้วย เขาก็ต้องสงสัยว่าเมาแล้วมาขับเรือได้ยังไง  ยิ่งเป็นเหตุร้ายแรงเข้าไปอีก ศาลอาจจะพิจารณา ลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญา ตรงนี้ตนคิดว่าเป็นส่วนสำคัญในคดี ถ้าหากปล่อยไว้ไม่ดำเนินคดี อาจจะ เกิดความเสียหายต่อคดี