มีความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม ล่าสุด ทนายรัชพล ได้เดินทางไปแจ้งความเอาผิดกับ 5 คนบนเรือ ซึ่งแจ้งความในข้อหาแจ้งความเท็จและทำลายหลักฐาน ทั้งประเด็นการปัสสาวะที่ท้ายเรือ และกรณีการทิ้งขวดไวน์หรือขวดแอลกอฮอล์
ทนายรัชพล ศิริสาคร เดินทางมาที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อแจ้งความเอาผิดคนบนเรือในคดีแตงโม นิดา ข้อหาแจ้งความเท็จและข้อหาทำลายพยานหลักฐาน พร้อมเปิดเผยว่า ตามข่าวมีคนบนเรือบอกว่าแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ฟังแล้วไม่น่าเชื่อ ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นไปไม่ได้ รวมทั้งคนบนเรือบอกว่าไม่เห็นแตงโมเดินไปทางไหน ตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเรือลำเล็กแค่นั้น ตอนนั้นแตงโมไม่ใช่วิญญาณ เขามีตัวตน เพราะฉะนั้นเวลาเดินไปไหนทุกคนต้องเห็นอยู่แล้ว ตนมองว่าอาจเข้าข่ายแจ้งความเท็จต่อตำรวจ ทำให้คดีเสียหาย เลยมาแจ้งความ
ส่วนข้อหาที่ 2 ทราบข่าวกันอยู่ว่ามีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันบนเรือ ตนเห็นจากข่าวว่ามีการงมหาแก้ว ขวดไวน์หรือขวดแอลกอฮอล์ เพราะฉะนั้น จึงสงสัยว่าพยานหลักฐานต่างๆ น่าจะมีการถูกทำลาย เพื่อไม่ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง เข้าข่ายเป็นความผิดตามกฏหมาย ในข้อหาเกี่ยวกับการทำลายพยานหลักฐาน
ทนายรัชพล บอกอีกว่า ตนมาแจ้งความในฐานะพลเมืองดี ซึ่งทั้ง 2 ข้อหามีโทษ อย่างข้อหาแจ้งความเท็จ ติดคุก 6 เดือน โทษปรับ 10,000 บาท ส่วนข้อหาทำลายหลักฐาน ติดคุก 5 ปี โทษปรับ 200,000 หรือ 500,000 บาท พยานหลักฐานทั้งหมดคิดว่าตำรวจมีหมดแล้ว แต่ให้ตำรวจมาสอบสวนเพิ่มเติมว่าความผิดนี้จะเอาผิดได้หรือไม่ เพราะปัจจุบันยังไม่เห็นมีการแจ้งข้อกล่าวหา มีแต่แจ้งข้อกล่าวหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าในส่วนของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม และทนายเดชา จะเดินทางมายื่นให้กมธ.ถอนเรื่องการพิจารณาคำร้องการเสียชีวิตของแตงโมว่า สาเหตุที่นางภนิดามายื่นให้ถอนเรื่อง คิดว่าเป้าประสงค์หลักคงไม่ใช่ กมธ. แต่เป็นตนเองมากกว่า เพราะนางภนิดาคงไม่ต้องการให้ตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวในคดี หลังจากที่ตำรวจมองว่ากมธ.เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการทำคดี ซึ่งตนคิดว่าตำรวจคงไม่เข้าใจบทบาททำงานของ กมธ. เนื่องจากเรื่องนี้ กมธ.สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว เพราะกระทบสิทธิของประชาชน
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ยืนยันว่า ตนไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายในคดี ไม่เคยขอดูวัตถุพยาน เพียงแต่ขอเข้าไปดูเรือลำเกิดเหตุเท่านั้น เนื่องจากพบข้อมูลหลายกระแส และ กมธ.เพียงแต่ให้คำแนะนำเรื่องของการเก็บรักษาหลักฐานวัตถุพยาน ไม่ให้โดนเปลี่ยนแปลงโดยสภาพอากาศ แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าก้าวก่าย
ส่วนตัวห่วงนางภนิดาที่ไม่ได้รับรู้อะไรด้วยตนเอง ฟังผ่านหูจากคำบอกเล่าของคนอื่น ซึ่งหากเป็นแบบนี้สังคมถือว่าอันตราย เพราะหากฟังคนอื่น ไม่ได้รับรู้ด้วยตัวเอง แต่ตัดสินใจทำอะไรลงไปแบบนี้น่าห่วง กมธ.อยากให้ญาติเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณา แต่ที่ผ่านมานางภนิดาไม่ยอมมา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลก แตกต่างจากเรื่องทั่วไป
ส่วนความเคลื่อนไหวของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ล่าสุด นายไตรยฤทธ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้กล่าวถึงแนวทางวางแผนการสืบสวนสอบสวนกรณีการเสียชีวิตของแตงโม เนื่องจาก น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว. และว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา มายื่นพิจารณาให้รับเป็นคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายไตรยฤทธ์ บอกว่า ตามกฎหมายประชาชนทั่วไป นิติบุคคล สามารถร้องเรียนได้ โดย ดีเอสไอ มีคำสั่งให้ตั้งเป็นเลขสืบสวน มอบหมายให้ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีดีเอสไอ เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนเพื่อรวบรวมหลักฐาน เสนอเข้าคณะอนุกรรมการกลั่นกรองพิจารณา โดยการประชุมครั้งแรกในวันนี้ ดีเอสไอ ได้เชิญผู้แทนแพทย์จาก 2 หน่วยงาน ซึ่งเป็นผู้เริ่มผ่าศพครั้งแรกและครั้งที่สองมาให้ข้อเท็จจริง เป็นคณะอนุกรรมการพิจารณาเพื่อประกอบสำนวน คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือน เม.ย.นี้ ก่อนส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มี นายวิษณุ เครืองาม เป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ สรุปว่ารับเป็นคดีพิเศษหรือไม่
นายไตรยฤทธ์ บอกอีกว่า ส่วนกรณีคุณแม่ของคุณแตงโม ไม่ต้องการให้เป็นคดีพิเศษนั้น แต่หากเป็นคดีอาญาแผ่นดินต้องพิจารณาตามขั้นตอนเพราะอาจเข้า 5 เงื่อนไข เช่น คดีมีความซับซ้อน เป็นที่สนใจของสังคม กระทบต่อความมั่นคง เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และ เกี่ยวข้องผู้มีอิทธิพลหรือเจ้าหน้าที่รัฐ ก็สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้ อย่างไรก็ตาม คดียังอยู่ในความรับผิดชอบตำรวจหากสรุปสำนวนคดีส่งฟ้องอัยการไปก่อน ดีเอสไอ จะไม่สามารถดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อได้ แต่เมื่ออัยการมีความเห็นสั่งสอบสวนเพิ่มเติม ดีเอสไอ จึงสามารถรับมาพิจารณาเป็นคดีพิเศษต่อไปได้
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/eA6g-kkAPTo