"ธนกร" โต้ "ศิริกัญญา" เลิกมโน ลั่น 10 มาตรการช่วยปชช. กว่า 40 ล้านคน#ถกข่าวร้อน

จากมาตการของรัฐ 10 มาตรการ ทำให้น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ออกมาวิพากษ์วิจารณ์มาตรการนี้

 

            โดยน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า รัฐบาลเงินหมดหน้าตัก 10 มาตรการลดค่าครองชีพประชาชนจึงเป็นแบบกะปริบกะปรอยแก้ขัด และส่วนใหญ่เป็นการต่ออายุมาตรการเดิม ส่วนเรื่องมาตรการที่ช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการ แห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ก็ไม่ครอบคลุม เพราะยึดฐาน รายชื่อที่ลงทะเบียนปี 2560 แต่หลังเกิดวิกฤตโควิด มีคนจนหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งนี้การเลิกตรึงราคาดีเซลต้องไม่ปล่อยลอยตัวทันทีเพราะราคา จะขึ้น 10 บาททันที เท่ากับลอยแพประชาชน ก๊าซหุงต้มก็จะทยอยปรับขึ้นเช่นกัน เป็นเพียงการต่ออายุมาตรการเดิมที่เคยได้รับการอุดหนุนจากกลุ่ม ปตท.ที่สิ้นสุดเมื่อ ต้นปีที่ผ่านมา

 

            ต่อมา นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ว่า น.ส.ศิริกัญญา ไม่ควรมโนหรือใช้จินตนาการไปเรื่อย เพราะสิ่งที่พูดเป็นสิ่งที่คิดเองเออเองแทบทั้งสิ้น ทั้งการกล่าวหาว่ารัฐบาลรับสารภาพว่าเงินหมดหน้าตัก จึงไม่สามารถตรึงราคาน้ำมันดีเซลได้จนถึงเดือน พ.ค. 2565 และหากเลิกตรึงราคาแล้วจะปล่อยลอยตัวทันที หรือการบอกว่ากองทุนประกันสังคมอยู่ในสถานะกระง่อนกระแง่น ซึ่งการพูดลักษณะนี้เรียกว่าพูดเรื่อยเปื่อย ปราศจากหลักฐาน พูดเรื่องที่ไม่จริงจนคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเรื่องจริงได้

 

            นายธนกร กล่าวต่อว่า มาตรการช่วยเหลือประชาชนนั้น ส่วนใหญ่ต้องใช้งบประมาณ ดังนั้น หากเงินหมดหน้าตักอย่างที่กล่าวอ้าง ก็คงจะไม่มีเงินมาดำเนินการไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม มาตรการบางเรื่องอาจทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้บ้าง แต่ก็ต้องยอมเพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตซ้อนวิกฤตเช่นนี้ เมื่อมีมาตรการที่หลากหลาย ก็จำเป็นต้องเกลี่ยงบประมาณให้ครอบคลุม เช่น ลดระยะเวลาตรึงราคาน้ำมันดีเซลลง เพื่อไปเพิ่มในส่วนอื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเลิกตรึงราคาแล้วรัฐบาลจะนิ่งดูดาย

นายธนกร กล่าวอีกว่า ส่วนการต่ออายุมาตรการเดิมนั้น เพราะที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนได้ประโยชน์โดยตรง โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดหลักเกณฑ์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ที่จะครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่กรณีของสถานะกองทุนประกันสังคมนั้น ก่อนพูดอะไรก็อยากขอให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อน อย่าพูดลอยๆ เพราะเงินที่รัฐบาลนำไปช่วยเหลือผู้ประกันตนในช่วงที่ผ่านมานั้น มาจาก พ.ร.บ.เงินกู้ ซึ่งเป็นคนละส่วนกัน

 

            "มาตรการทั้ง 10 ข้อ จะเกิดผลดีกับประชาชนไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นการบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตในระยะสั้น ก่อนที่จะมีการต่อยอดไปสู่มาตรการระยะกลางและระยะยาว ที่รัฐบาลวางแผนไว้ต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และทีมเศรษฐกิจ ร่วมกันชี้แจงรายละเอียดของมาตรการ รวมถึงแนวทางที่จะดำเนินการต่อไปด้วย ดังนั้น อยากให้ฝ่ายค้านติดตาม จะได้เลิกคิดเองเออเองจนเข้าใจผิดเสียเอง" นายธนกรกล่าว