ทวงหนี้โหด! โจ๋ตรัง บุกทวงเงิน 120 บาท บานปลาย ใช้มีดแทง-ท่อนเหล็กตีเพื่อนเจ็บ ซ้ำทำร้ายยายวัย 81 ที่เข้าห้าม เย็บ 4 เข็ม

       วัยรุ่นจังหวัดตรังทวงหนี้โหด เพื่อนยืมเงินแค่ 120 บาท บุกไปทวงถึงบ้าน แต่เหตุบานปลายถึงขั้นใช้มีดแทง และใช้ท่อนเหล็กทุบเพื่อนบาดเจ็บ ซ้ำยายที่พยายามเข้าไปห้าม ยังถูกลูกหลงเย็บ 4 เข็ม  แถมยังฉกมือถือผู้เสียหายไปด้วยก่อนหลบหนี

 

        ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ไปตรวจสอบเหตุทำร้ายร่างกายที่บ้านพักหลังหนึ่ง ที่อยู่ห่างจาก สภ.เมืองตรัง ไปแค่ 200 เมตร พบชายอายุ 27 ปี ถูกทำร้ายบาดเจ็บ มีบาดแผลถูกเย็บที่ริมฝีปากไป 4 เข็ม และศีรษะแตก 2 จุด ถูกเย็บไปกว่า 20 เข็ม รวมถึงตามลำตัวมีร่องรอยฟกช้ำหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีหญิงอายุ 81 ปี ซึ่งเป็นยายของผู้บาดเจ็บ ถูกลูกหลงมีบาดแผลถูกของมีคมบาดที่นิ้วมือด้านซ้าย ถูกเย็บไป 4 เข็ม ด้วยเช่นกัน ส่วนบริเวณหน้าบ้านพบรถจักรยานยนต์ล้มตะแคง ทั้งยังมีข้าวของรวมถึงกระถางต้นไม้แตกกระจัดกระจาย และยังพบรอยเลือดหยดเปรอะเปื้อนเต็มพื้นหน้าบ้าน

 

        ชายอายุ 27 ปี ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงบ่ายวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ตนเองรู้จักกับเพื่อนชื่อ นายนนท์ มาประมาณ 4-5 ปี ที่ผ่านมาก็เคยยืมเงินกันเป็นประจำ ครั้งละ 200-300 บาท แต่ก็คืนให้ตลอด กระทั่งครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา ได้ยืมเงิน นายนนท์ มา 120 บาท  และวันต่อมา (22 มี.ค.) ก็ได้โอนเงินคืน นายนนท์ รวมไปถึงเพื่อน ๆ คนอื่นอีกหลายคน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเงินได้เข้าบัญชีเพื่อนหรือไม่

 

         โดยก่อนจะเกิดเหตุ ตนเองได้พยายามส่งข้อความอธิบายให้กับนายนนท์แล้ว แต่ นายนนท์ กลับกล่าวหาว่าตนเองใช้คำพูดที่ไม่ดี จึงโทรศัพท์คุยกันเพื่อจะเคลียร์ให้ลงตัว แต่สุดท้ายก็มีปากเสียงกัน กระทั่ง นายนนท์ บอกว่า จะมาทวงเงินที่บ้าน ไม่นาน นายนนท์ และเพื่อน อีก 1 คน ก็ขับรถกระบะมาหาตามที่บอก แต่พอมาถึงไม่พูดพร่ำทำเพลง ลงมาทำร้ายร่างกายตนเองทันที ทั้งใช้มีดแทง และใช้เหล็กทุบตี ตอนนั้นก็พยายามต่อสู้โดยชกกลับไป แต่สุดท้ายก็สู้แรงทั้ง 2 คน ไม่ไหว หลังถูกรุมทำร้ายจนหนำใจแล้ว นายนนท์ และเพื่อน ยังขโมยโทรศัพท์ของตนเองไปด้วย ก่อนที่จะขึ้นรถขับหลบหนีไป

 

         ขณะที่ หญิงอายุ 81 ปี ยายของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า เห็นเพื่อนของหลานชาย และชายอีก 1 คน ขับรถกระบะสีขาวมาจอดหน้าบ้าน แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรกัน คนในรถก็ตรงเข้ามารุมทำร้ายหลานชายทันที ตอนนั้นตนเองพยายามจะเข้าไปห้ามปราม แต่กลับถูกลูกหลงจนบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุได้สอบถามหลานชายว่าเกิดอะไรขึ้น หลานชายก็เล่าเรื่องยืมเงินให้ฟัง แต่ก็ยืนยันว่าโอนคืนไปแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุบอกว่าเงินยังไม่เข้า และไม่เข้าใจว่าเหตุใดต้องทำรุนแรงถึงขนาดนี้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองและหลานไม่ยอม ยืนยันจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งเมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) พนักงานสอบสวนได้เชิญผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน ไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะเร่งติดตามตัว นายนนท์ และเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุมาสอบสวนข้อเท็จจริง ว่าสาเหตุที่ลงมือทำร้ายร่างกายเป็นเพราะทวงเงิน 120 บาท จริงหรือไม่ หรือเป็นเพราะสาเหตุอื่น ก่อนจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป