ยายวัย 81 ปีช็อก! ถูกหลานสาวเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด รักเหมือนลูกแท้ๆ แอบถอนเงินที่ได้จากการขายที่เกลี้ยงบัญชี 2.7 ล้านบาท ล่าสุดผู้ก่อเหตุมาขอโทษ ยอมรับ ว่าทำจริง อ้างยายรับรู้มาโดยตลอด บอกใช้เงินหมดแล้ว ยินดีชดใช้เงินคืนจนครบ ภายใน 3 ปี
เที่ยง ประชุมสาร ยายที่เงินหายออกจากบัญชี 2.7 ล้าน เผยกับรายการว่า ตนนั้นรู้จักกับน้องโบว์ เพราะรู้จักกับพ่อแม่ของเขาก่อน เนื่องจากแม่น้องโบว์ท้องจึงมาปรึกษากับตนว่าท้อง 3 เดือนแล้วและสามีจะให้เอาออกจะทำอย่างไรดี ตนจึงบอกว่าให้เก็บไว้ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงจะเลี้ยงให้ พอคลอดออกมาตนก็รักและเลี้ยงดูเหมือนลูกสาวคนหนึ่ง มาถึงปี 2563 ตนได้เงินจากการขายที่ดินมา 2.7 ล้าน จึงฝากให้น้องโบว์ไปเปิดบัญชีเก็บเงินให้ ต่อมาน้องโบว์ได้นำสมุดบัญชีมาให้ตนเก็บไว้ ตนก็รักษาไว้เป็นอย่างดี
จนผ่านมาถึงปี 2565 ตนอยากจะเช็กว่าได้ดอกเบี้ยหรือไม่ แต่โทรไปแล้วน้องโบว์ไม่ยอมมา จึงตัดสินใจไปที่ธนาคารเอง ปรากฏว่าเงินหายไปจากบัญชีทั้งหมด ซึ่งทางธนาคารก็ไม่ทราบสาเหตุ จากนั้นตนจึงโทรไปถามน้องโบว์ กลับบ่ายเบี่ยงจะมาพบตลอด เมื่อ 2 วันที่แล้วโทรไปน้องโบว์บอกว่าจะผ่อนใช้ให้ ส่วนสามีน้องโบว์ก็พูดทำนองว่าน้องโบว์หาเงินมาใช้ได้แน่นอนเพราะมีบ้านตั้ง 3 หลัง แต่ตนก็ยังไม่มั่นใจว่าจะได้เงินคืนหรือไม่
ยายเที่ยงยังแจ้งอีกว่าน้องโบว์ยังเอาทองของตนไปอีกด้วย โดยน้องโบว์นั้นพาสามีมาที่บ้านของตนและแจ้งกับตนว่าสามีจะเอาทองไปทำอะไรไม่รู้ขอยืมก่อนจะเอาไปจำนำ ตนจึงบอกว่าเอาไปไว้ที่บ้านนอกก็กลัวว่าจะหายจึงไว้ใจที่จะให้กับน้องโบว์
เกียรติคุณ ต้นยาง (ทนายโป้ง) ประธานชมรมทนายความจิตอาสา เผยว่า ได้แจ้งดำเนินคดีกับทางพนักงานสอบสวนแล้วโดยพนักงานสอบสวนได้ตั้งไว้ 3 ข้อหา กล่าวคือ คดีฉ้อโกงถ้าปรากฎข้อเท็จว่าน้องโบว์มีเจตนาว่าจะเอาเงินไปเป็นของตัวเองโดยหลอกให้คุณยายไปเปิดบัญชี เพราะว่าเงินที่ได้มา 2.7 ล้านบาท แยกเป็นเงินสดจำนวน 500,000 บาท แคชเชียร์เช็คอีกจำนวน 2.2 ล้านบาท และได้ทำการถอนเงินออกมาในวันนั้น 1 ล้านบาท ส่วนคดียักยอกทรัพย์นั้น น้องโบว์ได้ทำการเอาเงินของคุณยายออกจากบัญชีโดยโอนผ่านแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์ซึ่งการยักยอกนี่ถือเป็นพฤติการณ์ของการลักทรัพย์เพราะเป็นการเอาเงินออกจากบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์ที่ไม่ใช่เจ้าของบัญชี
ทนายโป้งยังแจ้งอีกว่าทางน้องโบว์ได้ติดต่อมาหาตนและพูดคุยกันโดยน้องโบว์ยอมรับว่าเอาเงินไปจริง ทนายโป้งจึงพาไปลงบันทึกประจำวันและแจ้งกับพนักงานสอบสวนว่าได้เอาเงินของคุณยายไปจริง จำนวน 2.7 ล้านบาทและจะทำการผ่อนชำระให้คุณยายตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2565 จำนวน 50,000 บาท เป็นเวลา 4 เดือน และหลังจากนั้นจะจ่ายไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน ภายใน 36 งวด
โดยทางรางกายได้ทำการติดต่อและพูดคุยกับน้องโบว์ซึ่งน้องโบว์ได้แจ้งมาว่าได้ตกลงกับคุณยายว่าจะแบ่งเงินให้น้องโบว์จำนวน 1.5 ล้านบาท โดยให้น้องโบว์เป็นธุระในการฝากเงินให้ และพนักงานได้แนะนำให้ทำแอพพลิเคชั่นไว้แต่โทรศัพท์คุณยายเป็นปุ่มกดไม่สามารถทำได้และให้ใช้โทรศัพท์ของน้องโบว์เอง โดยน้องโบว์ยังยืนยันอีกว่าทุกครั้งที่ถอนเงินไปคุณยายรับรู้ตลอดและพาคุณยายไปถอนเงินด้วยกัน และยังยอมรับอีกว่าได้ถอนเงินเกิน 1.5 ล้านบาทแต่ไม่ใช่ 2.7 ล้าน สุดท้ายน้องโบว์แจ้งว่าอยู่ ๆ ยายก็ให้ทนายติดต่อมาและแจ้งว่าตนถอดทิ้งยาย ซึ่งไม่เป็นเรื่องจริง ตนนั้นเป็นคนรับยายมาอยู่ด้วย ออกค่าที่อยู่ ค่าอาหารให้ทั้งหมด และติดต่อคุณยายมาโดยตลอด แล้วทำไมคุณยายถึงไปให้ข่าวว่าพ่อแม่ตนแยกท้างกันจนยายต้องมาช่วยเลี้ยงเรื่องนี้นั้นไม่จริงพ่อแม่ของตนยังอยู่ด้วยกันดี และตนเองก็ยังไม่มีลูกตามข่าวที่ออกมา
ถกไม่เถียง
ทิน โชคกมลกิจ
ยายเที่ยง
หลานสาว
หลอกเบิกเงิน
ขายที่ดิน
เบิกเงิน
27ล้านบาท
ทนายโป้ง
แอบกดเงิน
ชดใช้
ขอโทษ
ผ่อนจ่าย