ช็อก! เด็ก 12 ท้องปริศนา พบผลตรวจ DNA ตรงกับพ่อแท้ๆ

          วันที่ 23 มี.ค.65  เปิ้ล (นามสมมติ) แม่ของเด็กหญิงวัย 12 ปี  ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการถกไม่เถียง ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ลูกสาว ถูก นายไก่ (นามสมมติ) อายุ 51 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกัน ข่มขืนจนตั้งครรภ์แล้วคลอดลูกสาวออกมาเมื่อเดือน ต.ค.64  แต่ภายหลังเด็กคลอดออกมา เมื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอ ผลกลับไม่ตรงกับ นายไก่ ทั้งที่ได้รับการยืนยันจาก ด.ญ.เอ ว่าเป็นผู้ลงมือกระทำ จึงได้ร้องเรียนไปยังเพจ “หมอปลาช่วยด้วย” และทีมงาน  ทนายโนบิ , หมอเกศ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย ก่เข้ามาช่วยเหลือ โดยทีมงานหมอปลาได้ยื่นหนังสือร้องไปยัง พล.ต.ต.ชัชชัย วงค์สุนะ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร โดยมี รอง ผบก. เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือขอให้มีการตรวจสอบผลดีเอ็นเอใหม่

 

 

          หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินตรวจสอบดีเอ็นเอเป็นรอบที่ 2 โดยได้ทำการตรวจครอบคลุมไปถึงคนใกล้ชิดและครอบครัวของ ด.ญ.เอ อีกด้วย แต่ทว่า ผลตรวจดีเอ็นเอครั้งที่ 2 ก็ไม่ตรงตัวผู้ถูกกล่าวหา แต่กลับไปตรงกับพ่อแท้ๆของ ด.ญ.เอ เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน สภ.ดงหลวง จึงเชิญตัว พ่อของ ด.ญ.เอ ไปสอบปากคำที่ สภ.ดงหลวง เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา

 

           โดย เปิ้ล (นามสมมติ) เปิดเผยว่า ตนสงสัยผลตรวจดีเอ็นเอ ว่าเขาตรวจกันยังไงแล้วทำไมมันตรงกับสามีของตน ซึ่งเป็นตาของหลานวัย 5 เดือน ในเมื่อเด็กเป็นสายเลือดเป็นลูกของตนและสามี ผลดีเอ็นเอมันคงจะออกมาว่าตรงกับใครสักคนที่ตัวหลานแน่นอน ซึ่งตนและสามีเป็นยายกับตาของทารกน้อย ก็เลยสงสัยว่าทำไมมันออกมาแบบนี้ แล้วเอกสารก็ไม่ได้ให้เราดูแต่อย่างใด แม้ว่าตนจะขอดูเอกสารผลการตรวจดีเอ็นเอก็ได้รับคำตอบว่าเป็นเอกสารทางราชการ หากตนต้องการดูและอยากรู้ต้องไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดมุกดาหาร 

 

          เปิ้ล (นามสมมติ) เล่าต่อว่า ช่วงที่ ด.ญ.เอ ลูกสาวท้อง ไม่เคยเอะใจหรือสงสัยเลย จนน้องเริ่มปวดท้องเข้ารพ. ทางรพ.แจ้งว่าน้องจะคลอดลูก แล้วถามหาพ่อเด็ก ทำให้ตนตกใจมากว่าน้องไปท้องกับใครมา เพราะท้องปกติมากไม่ได้ป่องออกมา พอคลอดเสร็จ ทาง รพ.แนะนำว่าให้ไปหามาว่าใครเป็นพ่อของเด็ก ซึ่งลูกสาวตนก็บอกว่าเป็น นายไก่ ลุงข้างบ้าน ตนเค้นถาม ลูกก็ยืนยันว่าไม่ได้โกหก โดยอ้างว่าถูกล่วงละเมิดประมาณวันที่ 20 มี.ค. ปีที่แล้ว ส่วนเด็กที่คลอดออกมา คลอดในเดือน ต.ค. เป็นการคลอดก่อนกำหนด แพทย์แจ้งว่าเด็กน่าจะประมาณ 7 เดือน แต่เด็กแข็งแรงดี ตอนนี้ตนอยากจะขอตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง แต่ขอเปลี่ยนที่ตรวจใหม่ ขอมาตรวจในกรุงเทพฯ ผลออกมาก็จะยอมรับ แต่ถามลูกแล้ว ลูกยืนยันว่าไม่ใช่พ่อ แต่เป็นนายไก่ ที่เป็นคนทำ และตั้งแต่เกิดเรื่องก็ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับสามีเลย เพราะเขาโดนคุมตัวไปก่อน ทางจนท.ไม่ให้เข้าเยี่ยม

 

 

         ด้าน พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย แพทย์ที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือ เผยว่า ในการตรวจดีเอ็นเอครั้งที่ 2 มีการส่งตรวจทั้งหมด 7 คน 1 ในนั้นมีลุงข้างบ้าน และตัวน้อง ที่เหลือเป็นคนใกล้ชิดของเด็ก ที่ส่งดีเอ็นเอของคนใกล้ชิดไปตรวจเนื่องจากโดยส่วนใหญ่ที่เราสันนิษฐาน เราคิดว่าน่าจะเกิดจากคนใกล้ชิดน้อง เลยส่งคนใกล้ชิดตรวจก่อน ซึ่งผลตรวจออกมาตรงกับพ่อแท้ๆ ของน้อง ส่วนคำถามที่ว่า ความเป็นตาทำให้ DNA ตรงกับความเป็นพ่อได้ไหม ขอตอบว่ามันจะไม่ตรงทุกตำแหน่ง มันจะมีบางตำแหน่งที่ไม่เข้าคู่กัน แต่กรณีนี้ตรงทุกตำแหน่ง ทั้ง 21 จุด ตามหลักการแพทย์แล้ว ผลตรวจดีเอ็นเอมีความแม่นยำ 99.99% ซึ่งไม่จำเป็นต้องตรวจอีกครั้ง แต่หากคุณแม่ยังคาใจจะขอตรวจอีกก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องยอมรับผลที่ออกมาด้วย

 

 

         ฟาก เฮียเปี๊ยก กล่าวถึงประเด็นที่แม่ยังคาใจว่า หากแม่ยังคลางแคลงใจในเรื่องของผลตรวจดีเอ็นเอ ถ้าแม่จะให้ตรวจอีกครั้ง สำหรับทางลูก ตา และ หลาน คุณแม่ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย แต่ถ้าผลตรวจครั้งที่ 3 ยังออกมาเหมือนเดิม คุณแม่ก็ต้องยอมรับผลตรวจให้ได้ ตอนแรกที่แม่ประสานมา ตั้งแต่ตรวจรอบแรกของผู้ต้องหา แล้วดีเอ็นเอมันไม่ตรงกับนายไก่ คุณแม่คลางใจมาก จึงนำไปสู่การตรวจรอบที่ 2 ผลออกมาเป็นพ่อแท้ๆ แต่แม่ก็ยังคลางใจ จึงอยากบอกแม่ว่า ถ้าเกิดผลตรวจครั้งที่ 3 มันตรงกับรอบที่ 2 แม่ก็ต้องยอมรับนะ

 

 

          ทนายโนบิ กฤษฎา โลหิตดี ทนายความ เผยถึงคดีว่า ตอนนี้เบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาพ่อเด็ก เกี่ยวกับการกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเจ้าหน้าที่เอาหลักฐาน ดีเอ็นเอไปใช้ในการแจ้งข้อหาและฝากขัง ซึ่งตอนนี้ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากกลัวว่าจะยุ่งเหยิงกับพยาน เพราะผลนิติวิทยาศาสตร์เพิ่งออกมา แต่ยังไม่มีการสอบปากคำเด็กเพิ่มเติม จึงจำเป็นที่จะต้องแยกเหยื่ออกไปก่อน และนำไปสู่การสอบปากคำโดยนักสหวิชาชีพ จิตแพทย์ และตร. อีกครั้ง ประมวลคำให้การใหม่อีกครั้ง เพราะสิ่งที่เด็กให้การไว้ในตอนแรกมันขัดกับพยานหลักฐานใหม่ที่เกิดขึ้น และ พนง.สอบสวนก็อาจจะเห็นควรให้ฟ้องทั้ง 2 คนก็ได้ เพราะอาจมีการกระทำชำเราเด็กจริง แต่ไม่ได้เกิดการท้อง ส่วนพ่อก็คงปฏิเสธไม่ได้ หากผลดีเอ็นเอมันออกมาชัดเจน ผลนิติวิทยาศาสตร์โกหกไม่ได้ แต่คำพูดคนโกหกตลบตะแลงได้ 

 

 

         รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือ หมอมหมู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว พูดถึงการตรวจดีเอ็นเอว่า ส่วนตัวผมถ้าโดยตัวของวิทยาศาสตร์มันไม่มีพลาดแต่ถ้าจะพลาดมันอยู่ที่วิธีการ ตัวตรวจ พ่อแม่ลูก มันจะตรวจทั้งหมด 21 ตำแหน่ง แต่ละตำแหน่งดีเอ็นเอ จะแบ่งออกเป็น 2 ขา ครึ่งนึงมาจากพ่อ ครึ่งนึงมาจากแม่ ถ้าสอดคล้องกันทั้งหมด ก็แปลว่าเป็นลูกของพ่อแม่ เป็นไปไม่ได้ที่ดีเอ็นเอของตา จะไปตรงกับหลาน โดยที่ไม่ได้หมายความว่าเป็นพ่อ เพราะมันตรงกันทุกจุด ถ้าเราหาความสัมพันธ์แบบพ่อแม่ลูก และสรุปออกมาว่าตรงกัน 21 ตำแหน่ง ผลออกมาก็คือ 99.99% ถ้ายังคาใจในเรื่องของขั้นตอน ก็ต้องไปตรวจสอบเพื่อให้เกิดความสบายใจ ถ้าจะตรวจซ้ำ ก็สามารถเลือกตรวจเฉพาะบุคคลได้ เพื่อป้องกันเรื่องการหยิบสลับกันของตัววัตถุพยาน

         ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/bylHwypHWgc