หัวอกคนเป็นแม่! พาลูกร้องสื่อ หลังลูกชายถูกแก๊งโจ๋อาวุธครบมือบุกทำร้ายถึงบ้าน ได้รับบาดเจ็บ ไปแจ้งความผ่านมาร่วมเดือนคดีไม่คืบ แถมถูกเยาะเย้ยอ้างซี้ปึ้กผู้กำกับ
เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เผยว่า ตนห่างกันแฟนสาวและได้เจอแฟนที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง แต่ในตอนนั้นตนไม่ทราบว่าแฟนของตนมากับใครแต่พออกมาจากร้านเห็นแฟนสาวของตนขึ้นรถของผู้ชายอีกคนหนึ่งตนเห็นจึงขับตามไปเหตุเพราะอยากทราบว่าเป็นใคร ระหว่างที่ตนขับขี่จักรยานยนต์ตามรถยนต์ของนายโอ๊ต เพื่อจะให้จอดมาเคลียร์กัน แต่นายโอ๊ตไม่จอด ตนจึงถีบกระจกรถก่อน และเกิดเหตุการณ์ปาดหน้ารถกันไปมาและทางฝั่งของรถยนต์ก็ขับหนีออกไป ซึ่งหลังจากวันนั้นตนก็ได้ตามหาว่าเขาเป็นใครจนกระทั่งตนได้ไปถามเจ้าของร้านหมูทะที่อยู่ใกล้กับร้านของตนและได้ทราบว่ารู้จักกัน แต่หลังจากนั้นก็ได้มีการพูดคุยและเคลียร์ใจกับเจ้าของร้านหมูกระทะว่าจะเป็นคนเคลียร์กับเพื่อนให้ ตนจึงคิดว่าเรื่องจบไปแล้ว
หลังจากนั้น 2-3 สัปดาห์ ชายที่ตนมีเรื่องด้วยได้ขับรถเข้ามาที่หน้าบ้านของตนพร้อมกับเร่งเครื่องรถใส่และขับรถวนไปมาประมาณ 2 – 3 รอบ ตนจึงทำการโทรหาน้องชาย (บี นามสมมติ) พอน้องชายมาถึงไม่นานนัก ชายคนดังกล่าวก็ยกพวกมาที่หน้าร้านของตนและตรงเข้ามารุมทำร้ายทั้งกระโดดถีบและชกต่อย หลายคนล้วนมีอาวุธปืนในมือ และมีดสปาต้า อย่างที่เห็นตามคลิปทำให้ตนได้รับบาดเจ็บปากแตก หน้าบวมต้องเย็บที่กกหู 3 เข็ม ส่วนน้องชาย เข้าไปช่วย ก็พลอยโดนลูกหลงไปด้วย
หลังจากเกิดเหตุตนจึงทำการแจ้งความโดยตอนแรกทางตำรวจก็รับแรกเรื่องแต่เรื่องก็เงียบไม่มีการติดต่อกลับมา ซึ่งมีเพียงพี่สาวของผู้ก่อเหตุติดต่อมาอยากให้ตนจบเรื่องพร้อมกับจะชดใช้ค่าเสียหายให้จำนวน 70,000 บาท และจะรับประกันในเรื่องของความปลอดภัยให้ด้วย
บี (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เผยว่า ตนเจอคนรวมตัวกันอยู่ที่ร้านหมูกระทะประมาณ9 – 10 คน จึงบอกกับพี่ชายของตน (เอ นามสมมติ) ว่า “วันนี้ร้านหมูกระทะคนเยอะแปลก ๆ” พูดไม่ทันคาดคำกลุ่มคนกลุ่มนั้นก็เดินมายังหน้าร้านของพี่ชายและรุมกระทืบพี่ชายตามคลิป ตนจึงรีบเข้าไปช่วย
รัชนี (นามสมมติ) แม่ผู้เสียหาย เผยว่า ตนเสียใจและผิดหวังกับการกระทำของกลุ่มคนดังกล่าวที่มาทำร้ายลูกชายของตนเป็นอย่างมาก ตนอยากได้รับความเป็นธรรมและเรียกผู้ก่อเหตุมาไกล่เกลี่ย อีกทั้งตนยังแจ้งว่าตนนั้นระแวงและลำบากใจถ้าเกิดผู้ก่อเหตุกลับมาทำร้ายอีกตนจะทำอย่างไร
ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง เผยว่า เรื่องนี้ตำรวจน่าจะเข้าใจในข้อกฎหมายคลาดเคลื่อนเพราะในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นยอมความไม่ได้ ต่อให้ผู้เสียหายจะไม่เอาความ เพราะมันเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน บุกรุกเข้ามาในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธและมีเจตนาทำร้ายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365 จำคุกไม่เกิน 5 ปี และการพกพาอาวุธปืนของผู้ก่อเหตุมีใบอนุญาตหรือไม่ ตำรวจต้องดำเนินคดีต่อไปและต้องตามจับ
พ.ต.อ.ชัยพงษ์ แสงพงษ์ชัย ผกก.สภ.ปลวกแดง จ.ระยองเผยว่า ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับฝ่ายคู่กรณีของผู้เสียหาย และในส่วนของคดีฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่เรียบร้อยแล้วอีกทั้งยังแจ้งว่าได้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว พร้อมจะติดตามเรื่องคดี ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบเร่งรัดทำคดี โดยจะเรียกผู้เสียหายมาสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนจะนัดทั้งสองฝ่ายมาเจรจาตกลงพร้อมกันโดยเร็ว
ถกไม่เถียง
ทิน โชคกมลกิจ
แม่
ลูกชาย
เหยื่อ
แก๊งหมาหมู่
แก๊งโจ๋
วัยรุ่น
บุกทำร้าย
อาวุธ
ผู้กำกับ
ทนายเกิดผล
วงจรปิด
คดีไม่คืบ
ตำรวจ