แฉ! หนุ่มสาวเล่นจ้ำจี้กันในรถกลางตลาดยามวิกาล ถูกรปภ.ไล่ ไม่พอใจขับรถไล่ชน : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

          อย่าหาทำ หนุ่มสาวทำกิจกรรมร่วมรักกันในรถยนต์กลางตลาดยามวิกาล รปภ.ขอความร่วมมือให้ออกจากพื้นที่ ทำให้เจ้าของรถยนต์โมโห ขับรถพุ่งชนก่อนหลบหนีไป เจ้าของตลาดร้องเพจดังสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือติดตามผู้ขับรถมาดำเนินคดี

          ธนากร ไมล์ขุนทด หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เผยว่า ตอนเกิดเหตุรับแจ้งจากลูกน้องมีรถยนต์คันหนึ่งมาจอดในที่มืดท้ายตลาด จึงบอกให้ลูกน้องไปขอความร่วมมือให้ออกจากพื้นที่ เพราะตลาดปิดแล้ว เมื่อเดินไปถึงกลับถูกชายในรถยนต์ด่ากลับและทำท่าทางก้าวร้าวใส่ และไม่ยอมออกจากพื้นที่ของตลาดเพียงแค่ขับรถยนต์ไปจอดอีกจุดซึ่งยังอยู่ในพื้นที่ของตลาด ตนจึงเดินทางไปด้วยตัวเอง พอขี่รถจักรยานยนต์ไปถึง ยังไม่ทันได้ลงจากรถ รถยนต์คันดังกล่าวกลับขับรถพุ่งมาชนรถจักรยานยนต์ทันที ตนจึงทิ้งรถกระโดดหลบ ทำให้รถยนต์คันดังกล่าวทับรถจักรยานยนต์ของตนเอง ตนจึงเดินหลบหนีแต่รถยนต์คันดังกล่าวกลับถอยรถและชับจะพุ่งชนตนอีกรอบ แต่ตนหลบทัน และจากนั้นได้ขับรถหนีไปด้วยความเร็ว ธนากรยังกล่าวเสริมอีกว่าโดยปกติแล้วจุดเปลี่ยวและมืดของตลาด มักจะมีชายหญิงมาทำกิจกรรมกันในรถเป็นประจำแต่ไม่เคยเจอเหตุการณ์ขับรถชนแบบนี้

           เอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ทางเจ๊บ๊วยเจ้าของตลาดสายไหมได้โทรมาหาตนและแจ้งว่าเมื่อคืนมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ช่วยให้เอาเรื่องให้ถึงที่สุดและนำตัวคนที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี ตนจึงเข้าไปดูกล้องวงจรปิด และไปดูจุดจอดรถจุดแรกและมองว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่เหมาะสมจึงแจ้งเรื่องไปยัง พันตำรวจเอกอำนาจ กลาหลง ผู้กำกับ สน.สายไหม ว่ามันมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นและได้ทำการสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และได้เลขป้ายทะเบียนรถพร้อมทั้งรู้ตัวเจ้าของรถแล้ว จึงทำการติดต่อเจ้าของรถโดยเจ้าของรถได้แจ้งว่าวันที่เกิดเหตุณ์นั้นเพื่อนเป็นคนยืมรถไปใช้และไม่ทราบว่าตอนนี้รถอยู่ไหน แต่ที่มาในวันนี้เพราะอยากมาชดใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้น นายเอกภพจึงแจ้งกับเจ้าของรถว่า เจ้าของรถไม่ได้มีความผิดและไม่ได้จะเอาความกับเจ้าของรถแต่คนที่ต้องมารับผิดคือคนที่ก่อเหตุ

          ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า เบื้องต้นอาจจะมีความผิดพยายามฆ่าได้แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะสรุปความเชื่อมโยงของพยานหลักฐาน แต่เท่าที่ดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันเล็งเห็นได้ และในกรณีของค่าเสียหายทางด้านของนายธนากรมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องค่าเสียหายได้ทั้งหมด แต่ต้องเรียกร้องจากคนที่ก่อเหตุกล่าวคือใครทำคนนั้นต้องรับผิดชอบและถ้าเจ้าของรถอยากจะปิดเรื่องนี้ก็ต้องมาไกล่เกลี่ยกับนายธนากรซึ่งเป็นคดีความที่สามารถไกลเกลี่ยได้ แต่ถ้าเป็นคดีพยายามฆ่าจะเป็นคดีความที่ยอมความไม่ได้ รวมไปถึงการที่เขาเข้ามาในตลาดยามวิกาลก็อาจจะโดนข้อหาบุกรุกได้ ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าตลาดเปิดหรือไม่เปิดก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไป

          ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ยังกล่าวเสริมในเรื่องของการที่บุคคลในรถอาจจะมีการมากระทำร่วมเพศกันในรถก็จะโดนในข้อหาความผิดฐานทำให้เกิดความอับอายต่อหน้าธารกำนัลมีโทษปรับ