เอาจริงดิ ? เรือนจำ เตรียมปล่อย "อดีตสิบเอก" เผานั่งยางน้องพลอย สุดงง ติดคุกแค่ 4 ปี จาก 33 ปี
ย้อนไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 น้องพลอยสูกสาวของนางพัชรี ปั้นทองได้หายตัวออกจากบ้านไปอย่างปริศนาโดยตนได้ออกตามหาทุกวิถีทางตามหาอย่างไรก็หาไม่เจอ ผ่านไป 3 ปี ตนถึงได้ทราบว่าลูกสาวของตนเองนั้นกลายเป็นศพจากการถูกโดนเผานั่งยางซึ่งคนที่ก่อเหตุนั้นคือ อดีตสิบเอกที่เป็นแฟนของลูกสาว ตนจึงทำการต่อสู้คดีมาโดยตลอด จนกระทั่งปี 2563 ศาลตัดสินให้อดีตสิบเอกจำคุก 33 ปี 11 เดือน และที่นางพัชรีลุกขึ้นมาต่อสู้คดีอีกครั้งเนื่องจากมีข้อมูลว่าอดีตสิบเอกคนนี้จะได้รับการพักโทษลดลงมาเหลือ 4 ปี 6 เดือน
พัชรี ปั้นทอง แม่ของน้องพลอยที่ถูกทหารยศสิบเอก ฆ่าเผานั่งยาง กล่าวว่าลูกสาวของตนนั้นได้หายตัวไปในปี 2557 และตนได้ทำการตามหาลูกสาวจนถึงปี 2560 พอทราบว่าลูกสาวของตนถูกฆาตกรรมเสียชีวิตและจับคนร้ายได้ตนจึงเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อสู้คดีมาจนถึงศาลฎีกา โดยศาลตัดสินจำคุก 33 ปี 11 เดือน และที่ตนมาออกร้องเรียนในวันนี้เพราะว่าตนนั้นทราบมาว่าอดีตสิบเอกคนนี้จะได้รับการพักโทษในปลายปีนี้ซึ่งจะถูกจำคุกเพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น ตนจึงอยากทราบว่าเขาใช้หลักเกณฑ์อะไรในการตัดสินพิจารณา ตนยังกล่าวอีกว่าตั้งแต่วันที่ลูกหายไปตนไม่เคยคิดว่าลูกของตนจะเสียชีวิตตนมีความหวังตลอดเวลาและไม่เคยท้อที่จะพยายามตามหาลูกสาว อีกทั้งยังหาหลักฐานเองทุกอย่างจนหาหลักฐานมาได้ พอนำหลักฐานไปให้กับตำรวจสิ่งที่ได้กลับมาคือตำรวจแจ้งว่าหลักฐานที่ตนนำมาให้นั้นเป็นหลักฐานลอย แล้วการที่จะมาปล่อยตัวคนที่ทำร้ายลูกสาวตนในสิ้นปี 2565 นี้มันไม่ยุติธรรมกับตนเลย
ตนยังแจ้งอีกว่านักโทษคนนี้ไม่สมควรที่จะได้รับการลดโทษเลย เพราะเขาทำการฆ่าลูกสาวของตนแต่เขาได้รับการลดโทษซ้ำแล้ว ซ้ำอีก จนเพลือเพียง 4 ปี ตนนั้นรับไม่ได้และตนก็กลัวถึงความปลอดภัยของตนเองเพราะตนนั้นอยู่ตัวคนเดียวถ้านักโทษคนนี้ออกมาอาจจะมาทำร้ายตนได้ อีกทั้งยังเชื่อว่าสิ่งนี้มันไม่ปกติ
อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า นักโทษคนนี้ได้สิทธิ์ในการเลื่อนชั้นตามกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม และจากการตรวจสอบพบว่านักโทษคนนี้เป็นหนึ่งเดียวในประเทศที่ได้สิทธิ์ในการเลื่อนชั้น จริง ๆ แล้วตามระเบียบของกรรมราชทัณฑ์ต้องมีการเลื่อนชั้นปีละ 2 ครั้ง คือ เดือนมิถุนายนกับเดือนธันวาคม แต่นักโทษคนนี้ได้รับสิทธิ์เลื่อนชั้นในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี ได้ถึง 4 ขั้น และหลังจากศาลฎีกาตัดสินนักโทษคนนี้จึงได้สิทธิ์ในการเป็นนักโทษชั้นกลางและพอเดือนมิถุนายนก็ได้รับการเป็นนักโทษชั้นดี พอหลังจากนั้นกระทรวงยุติธรรมมีโครงการพิเศษเนื่องจากสถานการณ์โควิด – 19 จึงต้องทำการระบายนักโทษออก นักโทษคนนี้ก็ได้รับการเลื่อนชั้นอีกเป็นนักโทษดีมาก จนถึงเดือนธันวาคม ก็ได้รับการเลื่อนชั้นเป็นนักโทษดีเยี่ยม ซึ่งการที่จะเป็นนักโทษดีเยี่ยมนั้นจะได้สิทธิ์อภัยโทษ 50 เปอเซ็นต์ รวมทั้งหมดตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบันได้รับการลดโทษทั้งหมด 25 ปี ก็จะเหลือเพียงแค่ 8 ปี และก็ได้ลดจากการหักที่เคยติดมาจากชั้นต้นอุทรณ์ฎีกาอีก 4 ปี
"ปัญหาของเคสนี้คือผมไม่ทราบว่าในคำฟ้องมีมาตรา 288,289 ไหม ถ้ามีเขาจะไม่ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นเลย" อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ กล่าว
สิ่งที่ตนออกมาเรียกร้องให้แม่ของน้องพลอยตนนั้นอยากให้ผู้ใหญ่หลายๆท่านแก้กฎกระทรวง กล่าวคือ นักโทษทุกคนไม่ควรได้รับสิทธิ์ในการลดโทษเลยโดยอย่างยิ่งในคดีนี้เป็นคดีฆาตกรรมอุกฉกรรจ์ เพราะเหตุใดถึงได้เป็นนักโทษเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ได้ลดโทษขนาดนี้
ณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า นักโทษในสมัยก่อนไม่ค่อยเยอะ แต่ปัจจุบันจำนวนนักโทษมีมากขึ้น จึงจำเป็นต้องระบายนักโทษออก โดยก็ต้องมีการลดโทษตามขั้นตอน ก่อนที่จะไปพักการลงโทษมันจะมีกระบวนการเลื่อนชั้นก่อนซึ่งคดีนี้นักโทษชายคนนี้เข้าเรือนจำในวันที่ 20 ตุลาคมในระหว่างนั้นก็อยู่ในขั้นพิจารณาของศาลซึ่งถ้าเป็นผู้ต้องขังที่อยู่ในการพิจารณาจะไม่มีชั้น จนกระทั้งเมื่อปี 2561 ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 33 ปี 11 เดือน และในตอนนี้นักโทษคนนี้อยู่ชั้นกลาง ซึ่งในการเลื่อนชั้นไม่ได้คำนึงถึงประเภทคดีแต่จะดูในเรื่องของการประพฤติดี ระยะเวลา ความน่าเชื่อถือ ถ้าเป็นกรณีที่ผู้เสียหายไม่ยอมน้ำหนักก็ยังไม่มากพอต้องไปพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการต่าง ๆ อีกหลายชุด และตนยืนยันว่าตอนนี้นั้นยังไม่มีการพักโทษและก็จะติดไปยาวถึง 8 ปี
ถกไม่เถียง
ทิน โชคกมลกิจ
อดีตสิบเอก
เรือนจำ
กรมราชทัณฑ์
ปล่อยตัว
นักโทษ
น้องพลอย
เผานั่งยาง
ลดโทษ
33ปี