ธัชสุภา วณิชยกุลวงศ์ เปิดเผยในรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เกี่ยวกับกรณี ที่พ่อของตนนั้นทำการรักษาโควิด – 19 โดยเดิมทีแล้วคุณพ่อของตนนั้นป่วยเป็นอัลไซเมอร์อยู่ จู่ ๆ ทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่าพ่อของตนอาการไม่ดีให้รีบมาดูใจพอไปดูกลับไม่ใช่พ่อของตน
ธัชสุภา วณิชยกุลวงศ์ (แพท) ลูกสาว กล่าวว่า เริ่มต้นตนนั้นดูแลคุณพ่อที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ และเข้ารักษาตัวที่เนอร์สซิ่งโฮม ต่อมาเมื่อเดือน มกราคม 2565 คุณพ่อของตนติดโควิด ซึ่งทางเนอร์สซิ่งโฮมได้พาตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจ.ปทุมธานี พร้อมกับคุณบุญหนาด้วย โดยตนได้รับการอัพเดทอาการของคุณพ่อผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น และอาการของคุณพ่อก็ดีขึ้นมาโดยตลอดไม่มีทิศทางที่จะแย่ลงเลย โดยในช่วงปลายเดือนมกราคมทางโรงพยาบาลก็อัพเดทว่าอาการของคุณพ่อเริ่มทรุดลง
ต่อมาวันที่ 7 มี.ค.65 ช่วงเวลาประมาณ 18.30 น.ทางโรงพยาบาลโทรมาแจ้งว่าพ่ออาการไม่ดีให้เข้ามาดูที่โรงพยาบาล เมื่อตนและญาติไปถึงที่โรงพยาบาล ก็พบว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่ใช่พ่อของตน แม้ชื่อที่เตียงนั้นเป็นชื่อของพ่อจริง เลยได้บอกกับทางพยาบาลไปว่าไม่ใช่พ่อของตน ผิดคนหรือเปล่า แต่ทางพยาบาลยืนยันว่าใช่เพราะเอกสารยืนยันว่าเป็นพ่อเรา โดยบอกว่าอาจจะเป็นเพราะสารอาหารไม่มี หน้าเลยอาจจะเปลี่ยน อาจจะจำไม่ได้เป็นเรื่องปกติ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เราจะจำพ่อเราไม่ได้เลยหรือ
ตนจึงทำการถ่ายรูปคุณลุงที่นอนอยู่ไปให้ทางพี่เลี้ยงที่เนอร์สซิ่งโฮมว่าใช่พ่อของตนหรือไม่ ทางเนอร์สซิ่งโฮมก็แจ้งว่าไม่ใช่คุณธีระพ่อของตน และทราบภายหลังว่าคุณลุงที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคือคุณลุงบุญหนา แต่ทางเนอร์สซิ่งโฮมแจ้งกลับมาว่าคุณบุญหนาได้เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 23 มกราคมและได้ทำการเผาไปเป็นที่เรียบร้อย
ตนนั้นติดใจในเรื่องของที่พ่อตนนั้นเป็นแค่อัลไซเมอร์และติดโควิดซึ่งไม่มีโรคประจำตัวอื่นเลยแต่คุณบุญหนานั้นมีโรคปอดร่วมด้วย และตนคาดว่าทางโรงพยาบาลน่าจะสลับเอกสารการรักษาของพ่อตนและคุณลุงบุญหนา ซึ่งในขณะนี้ตนได้นำกระดูกที่เผาไปในวันที่ 23 มกราคม ที่เข้าใจว่าเป็นคุณบุญหนาไปตรวจหา DNA ว่าใช่พ่อของตนหรือไม่
ทั้งนี้ทางด้านของนาย พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์นั้นมีข้อจำกัดในการตรวจหา กล่าวคือ ถ้าสกัดโครงกระดูกที่ถูกผาด้วยความร้อนไปแล้วทั้งหมด ถ้าไม่สามารถสกัดออกมาได้ก็จะตรวจหาไม่เจอเช่นกัน อย่างไรก็แล้วแต่ก็จะทำการตรวจให้ก่อนแต่จะสกัดเจอหรือไม่ก็ต้องดูอีกที
ภาสุรี ศรีปราช (ตู๋) ลูกสาวของคุณบุญหนา กล่าวว่า ในวันที่ 23 มกราคม ทางโรงพยาบาลก็โทรมาแจ้งว่าพ่อของตนนนั้นเสียชีวิตแล้วให้ขึ้นมารับศพไปทำพิธี ในวันนั้นตนไม่ได้เห็นหน้าของคุณพ่อเลยเนื่องจากเป็นศพที่เกิดจากโควิด – 19 โดยตนเข้าใจมาตลอดว่าพ่อของตนนั้นได้เสียชีวิตจริง อีกทั้งตนยังกล่าวเพิ่มอีกว่าวันที่ไปรับศพของคุณพ่อทางโรงพยาบาลได้ถามกับตนว่า ใช่ญาติของคุณบุญมีหรือไม่ ตนจึงแจ้งไปว่าพ่อของตนชื่อบุญหนา
ฟาก ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลต้องรับผิดชอบเบื้องตนในส่วนของคุณตู๋ก่อน และในส่วนของคุณแพททางโรงพยาบาลต้องรีบติดต่อครอบครัวของคุณแพทเพื่อจะเยียวยาและรับผิดชอบในส่วนนี้ และต้องให้ประวัติการรักษากับทางครอบครัวคุณแพทด้วย อีกทั้งยังแจ้งอีกว่ามีสิ่งที่สงสัยคือ มีการปกปิดเรื่องอะไรอยู่หรือไม่โดยต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง
ทนายสงกาญ์ยังได้แนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ต้องไปยื่นคำร้องที่สาธารณสุขจังหวัดให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้ายังไม่มีความคืบหน้าจากสาธารณะสุขจังหวัดก็ต้องมาร้องที่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อจะได้ให้กระทรวงสาธารณสุขมาสอบถามความคืบหน้ากับทางโรงพยาบาล
ถกไม่เถียง
ทิน โชคกมลกิจ
ป่วยอัลไซเมอร์
ผู้ป่วยโควิด19
โรงพยาบาลทำคนไข้หาย
ผู้เสียชีวิตจากโควิด19
ขาดสารอาหาร
สลับตัวคนไข้
ลอยอังคาร
เถ้ากระดูก
อัฐิ
เนอร์สซิ่งโฮม
โรงพยาบาล
รักษาโควิด19
สลับตัว