สหรัฐฯ กร้าว! ประกาศห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ตอบโต้เหตุโจมตียูเครน
logo ข่าวอัพเดท

สหรัฐฯ กร้าว! ประกาศห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ตอบโต้เหตุโจมตียูเครน

ข่าวอัพเดท : สหรัฐฯ ประกาศ ห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ตอบโต้ที่รัสเซียโจมตียูเครน ปธน.โจ ไบเดน เตือนชาวอเมริกันอาจต้องเผชิญกับราคาน้ำมันที่ปรับเพ สหรัฐ,ประกาศ,ห้ามนำเข้า,น้ำมัน,รัสเซีย,ยูเครน

485 ครั้ง
|
10 มี.ค. 2565
        สหรัฐฯ ประกาศ ห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ตอบโต้ที่รัสเซียโจมตียูเครน ปธน.โจ ไบเดน เตือนชาวอเมริกันอาจต้องเผชิญกับราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น
 
        ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศที่ทำเนียบขาวในวันนี้ ว่า สหรัฐฯจะยุติการนำเข้าน้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติและถ่านหินจากรัสเซีย เพื่อเป็นมาตรการตอบโต้ต่อการที่รัสเซีย ส่งกำลังทหารโจมตียูเครน โดยเขารู้ว่า การงดการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย จะส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกัน แต่ก็เป็นราคาที่ต้องจ่ายเพื่อปกป้องเสรีภาพของชาวยูเครน และของชาวโลก
 
            นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศด้วยว่า จะให้งบสนับสนุนด้านความมั่นคงต่อยูเครน เพิ่มอีก 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
 
        ขณะที่กลุ่มสหภาพยุโรป หรือ อียู ประกาศแผนการจะลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ลง 2 ใน 3 ภายในปีนี้ และยุติการพึ่งพิงพลังงานจากรัสเซีย ทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอย่างสิ้นเชิงภายในปี 2573 หรือ 8 ปีข้างหน้า ด้าน สหราชอาณาจักร ก็ประกาศจะลดการนำเข้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์ด้านน้ำมันจากรัสเซีย ภายในสิ้นปีนี้ โดยที่ผ่านมา สหราชอาณาจักร นำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ร้อยละ 8 ต่อปี
 
         ก่อนหน้านี้ ทางการรัสเซีย เคยขู่ว่า หากสหรัฐฯ และชาติตะวันตก แบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย อาจทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงถึง 300 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า หากปริมาณน้ำมันดิบของรัสเซีย หายไปจากตลาดโลก อาจมีการขาดแคลนน้ำมันสูงถึง 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
 
         ด้านบริษัท เชลล์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป ประกาศยุติการซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย และถอนตัวจากความร่วมมือด้านพลังงานกับรัสเซีย โดยเตรียมจะปิดสถานีก๊าซธรรมชาติทั่วประเทศรัสเซีย ในเร็ว ๆ นี้
 
          ส่วนสถานการณ์สู้รบ ทางการยูเครน เปิดเผยว่า กองทัพรัสเซีย โจมตีทางอากาศใส่เมืองซูมี (Sumy) เมื่อวานที่ผ่านมา แม้ทางการ 2 ประเทศ ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันที่จะเปิดพื้นที่ให้ชาวเมืองซูมี อพยพออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัยก็ตาม โดยการโจมตีครั้งนี้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตที่เมืองซูมี เพิ่มขึ้นเป็น 21 คนแล้ว ซึ่งรวมถึงเด็ก 2 คน ส่วนการอพยพประชาชนที่เมืองมาริอูปอล ทางตอนใต้ของประเทศ มีรายงานว่า กองทัพรัสเซีย ทำการยิงโจมตีรถบรรทุก 8 คัน และรถโดยสาร 30 คัน ขณะกำลังนำพลเรือนออกมาตามเส้นทางอพยพ แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
 
            ด้านธนาคารโลก อนุมัติเงินช่วยเหลือฉุกเฉินจำนวน 723 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 24,000 ล้านบาท ให้กับทางการยูเครน โดยเป็นรูปแบบของเงินกู้จำนวน 350 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 11,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นเงินให้เปล่า เพื่อให้ทางการยูเครน นำไปช่วยเหลือประชาชนยูเครน ที่ประสบภัยสงครามต่อไป โดยก่อนหน้านี้ ธนาคารโลกได้จัดตั้งกองทุนเพื่อรวบรวมเงินบริจาคจากนานาชาติ เพื่อส่งความช่วยเหลือทางการเงินให้กับยูเครน ซึ่งได้เงินบริจาคจากหลายประเทศ อาทิ สหราชอาณาจักร, เนเธอร์แลนด์ และเดนมาร์ก แล้วกว่า 134 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว ๆ 4,000 ล้านบาท
 
        องค์การสหประชาชาติ เปิดเผยว่า มีผู้อพยพออกจากยูเครน แล้วกว่า 2 ล้านคน โดยในจำนวนนี้ เป็นเด็กถึง 1 ล้านคน และเป็นชาวต่างชาติราว 100,000 คน ขณะเดียวกัน มีพลเรือนยูเครน เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 474 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 29 คน และมีผู้บาดเจ็บ 861 คน นับตั้งแต่กองทัพรัสเซีย โจมตียูเครน เมื่อ 13 วันที่ผ่านมา
 
         ด้านสำนักงานหน่วยข่าวกรองกลาโหมของสหรัฐฯ ประเมินว่า ทหารรัสเซีย ราว 2,000-4,000 คน เสียชีวิตในเหตุบุกโจมตียูเครน ครั้งนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง