นายกฯ เตรียมประชุม กพช. เร่งออกมาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน 9 มี.ค. หลังราคาน้ำมันโลกพุ่งทะลุ 110 ดอลลาร์สหรัฐฯ
วันที่ 7 ม.ค.65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในปีนี้ไทยและทั่วโลกเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นวิกฤตซ้อนวิกฤตพร้อมกัน คือ วิกฤตโควิด-19 วิกฤตเงินเฟ้อ และวิกฤตสงครามยูเครน-รัสเซีย ส่งผลกระทบราคาพลังงานโลก คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้น อาจจะเห็นตัวเลขราคาน้ำมันโลกที่ 120 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ปัจจุบันน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 106.58 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล เบรนท์ 118.11 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และ เวสต์เท็กซัส 110.07 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล โดยน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตสินค้าและขนส่ง ก็จะทำให้ราคาสินค้าและค่าขนส่งยิ่งแพงขึ้น กระทบทั้งค่าครองชีพและภาคการส่งออก รวมทั้งสภาวะเงินเฟ้อที่มาพร้อมกับเงินฝืด จะส่งผลต่อเศรษฐกิจทั้งในระดับครอบครัวและมหภาค ซึ่งเป็นภาวะที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ไทยเองก็ไม่แตกต่าง เพราะเราเป็นประเทศนำเข้าน้ำมัน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรอย่างต่อเนื่อง
หลังการประชุมคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งเดินหน้ามาตรการเร่งด่วนใน 3 แนวทางหลัก คือ ลดภาระค่าใช้จ่ายเพื่อดูแลประชาชน บรรเทาภาระหนี้สิน โดยให้ปีนี้เป็น “ปีแห่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน” และเร่งการลงทุนภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง ซึ่งในวันที่ 9 มี.ค. 2565 นี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อกำหนดมาตรการด้านพลังงาน ซึ่งจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 15 มีนาคม 2565 เพื่อเร่งรัดให้มีผลบังคับใช้ บรรเทาภาระของประชาชนโดยเร็ว
"ผมอยากขอวิงวอนนักวิเคราะห์ชาวเน็ตทั้งหลาย เข้าใจการขึ้น-ลงของราคาพลังงานโลก หรือการสู้รบ เหล่านี้ล้วนปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาล ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีประชุมหารือกับคณะทำงานเพื่อวางแผนและออกมาตรการต่างๆ เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน ซึ่งต้องอาศัยทุกฝ่าย เอกชน ผู้ประกอบการรวมทั้งประชาชน ร่วมมือกับรัฐบาล ช่วยกันเดินหน้าประเทศ มั่นใจว่า ไทยก็ผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งนี้ไปได้" นายธนกร กล่าว
+ อ่านเพิ่มเติม