ผู้ป่วยโควิด แชร์ประสบการณ์ติดเชื้อโอมิครอน ติดง่ายแต่อาการไม่หนัก เตือนอย่าเผลอกลืนเสลดลงคอเด็ด ชี้ถ้าเริ่มแสบคอให้รีบตรวจ ATK รู้ตัวไวก็รักษาเร็ว
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Thasaka Thanachod Thammachat แชร์ประสบการณ์ การติดเชื้อโควิด-19 โอมิครอน ชี้ ถ้าแสบคอให้รีบตรวจ ATK ติดไวติดง่าย แต่อาการไม่หนัก ถ้ารู้ตัวไวก็รักษาเร็ว โดยข้อความทั้งหมดระบุว่า
แชร์ประสบการณ์โอไมครอนนิดหนึ่งนะ ถ้าแสบคอให้รีบตรวจเลย และถ้าตรวจแล้วขึ้น 2 ขีดให้นับย้อนหลังไปอีก 3-4 วันว่าไปไหนมา แล้วจะรู้เองว่าติดมาจากใคร เพราะมันติดไวติดง่าย แต่อาการไม่หนักหรอก เหมือนเราเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา
เมื่อไรที่แสบคอ ให้รีบล้างจมูกด้วยน้ำเกลือทันทีทุก 4-6 ชม. กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ ดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ ที่สำคัญอย่าเผลอ กลืนเสลดตัวเองเด็ดขาด เพราะเชื้อมันจะลงไปข้างใน (ในช่วง3-4วันแรกที่มีอาการใหม่ๆเชื้อมันยังไม่ลงปอด มันจะอยู่ที่โพรงจมูกและลำคอเราเท่านั้นดังนั้นถ้ารู้ตัวไวก็รักษาง่าย)
ถ้ามีไข้ก็กินพาราเซตามอล ขาดไม่ได้เลยคือ น้ำขิง กับน้ำผึ้ง2ช้อนโต๊ะ มะนาวครึ่งลูกต่อน้ำร้อน1แก้ว ดื่มได้ทั้งวันครับ และพระเอกสุดคือ ฟ้าทะลายโจรชนิดแคปซูล กินวันละ 3 เวลาก่อนอาหาร ครั้งละ 3 แคปซูล ตกวันละ 9 แคปซูล กินต่อเนื่องไปเลย 5 วันแรก แล้วเว้นไป 1 วัน แล้วค่อยกลับมากินใหม่ (โดยในวันแรกที่กินฟ้าทะลายโจรทุกครั้ง ผมจะแกะแคปซูลออกแล้วเทฟ้าทะลายโจรลงคอไปเลย 1 แคปซูล ประมาณครึ่งชั่วโมงอาการเจ็บคอก็ทุเลาลงทันตาเห็นครับ ที่แปลกคือมันไม่ขม กินไปกินมาฟ้าทะลายโจรหวานในคอเฉยเลย แต่อย่าให้โดนลิ้นเรานะ ให้มันลงคอไปเลยจะหวานในลำคอครับ)
ทำแบบนี้ครบ 7 วันลองเอาชุดตรวจ ATK มาตรวจดู เชื้อจะไม่มีเลย ช่วงแรกจะมีไข้อ่อนๆ 3-4 วัน หลังจากนั้นลิ้นจะไม่รู้รสอยู่เกือบอาทิตย์ครับ แต่พอเชื้อหายแล้ว อาการนี้ก็จะหายตาม คืนแรกๆผมเกือบไม่ได้นอน เพราะผมหายใจไม่ออก ปกติผมจะมีอาการหอบหืด ภูมิแพ้ฝุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมก็จะมีวิค และยาดมไว้ตรงหัวเตียงตลอด ก็พอช่วยได้ครับ แต่ต้องนอนคว่ำหน้าถึงจะหายใจได้สะดวก
พอคืนที่สองผมนึกขึ้นได้ว่าผมมีน้ำเกลืออยู่ เลยเอามาสวนล้างจมูก อาการที่หายใจตอนนอนไม่ได้ก็หายไปทันทีครับ ใครมีญาติหรือเพื่อนที่กำลังเจอโอไมครอนในช่วงนี้ก็แชร์ข้อมูลได้นะครับ เพราะช่วงนี้คนติดวันละหมื่นกว่าละ รพ.ก็เริ่มเตียงไม่พออีกละ แถมรัฐก็ไม่มีเงินช่วยค่ารักษาแล้ว ตอนนี้ใครป่วยก็ต้องรักษาตามสิทธิ์ตัวเอง หรือ ออกเงินเองนะครับ ดังนั้นการรักษาตัวเองที่บ้านจึงปลอดภัยและประหยัดที่สุดแล้วครับ