‘แม่แตงโม’ ถาม เกิดอะไรขึ้นกันแน่ หลังเพื่อนติดต่อหา พร้อมส่งรถมารับออกจากจุดเกิดเหตุ
logo ข่าวอัพเดท

‘แม่แตงโม’ ถาม เกิดอะไรขึ้นกันแน่ หลังเพื่อนติดต่อหา พร้อมส่งรถมารับออกจากจุดเกิดเหตุ

ข่าวอัพเดท : แม่แตงโม ถาม เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมไม่ติดต่อแม่เลย ปิดข่าวไม่ได้หรอก หลังจากเพื่อนสนิทโทรหา พร้อมส่งรถมารับไปอีกท่าน้ำ แตงโมนิดา,แม่แตงโม,ตกน้ำ,แม่น้ำเจ้าพระยา,สะพานพระราม7

1,943 ครั้ง
|
25 ก.พ. 2565

‘แม่แตงโม’ ถาม เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมไม่ติดต่อแม่เลย ปิดข่าวไม่ได้หรอก หลังจากเพื่อนสนิทโทรหา พร้อมส่งรถมารับไปอีกท่าน้ำ

 

จากกรณี “แตงโม” นิดา พัชรวีระพงษ์ ดารา-นักแสดงชื่อดัง พลัดตกจากเรือ กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายชีวิต รวมถึงนักประดาน้ำ ร่วมกันลงพื้นที่ค้นหาร่างนักแสดงสาว ตั้งแต่ช่วงกลางดึกจนถึงช่วงเช้า ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาแตงโม ได้เดินทางมายังท่าน้ำ ขณะเจ้าหน้าที่กำลังค้นหาด้วยอาการเคร่งเครียด และเป็นกังวลตลอดเวลา

 

ช่วงหนึ่งมีโทรศัพท์โทร.ติดต่อเข้ามาหาแม่ของแตงโม เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของแตงโม ขอให้คุณแม่ออกจากจุดเกิดเหตุและมารออยู่อีกจุดหนึ่ง พร้อมส่งรถยนต์สีขาวมาจอดรอรับไป แต่คุณแม่แตงโมยืนยันจะรออยู่จุดนี้และอยากให้มาพูดคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น

 

โดยแม่ของแตงโมพูดกับปลายสายที่เป็นเพื่อนสนิทของลูกว่า “ทำไมไม่ติดต่อคุณแม่ คุณแม่รู้จากคนอื่นทั้งนั้นเลย อยู่ที่ไหนคะ อีกไกลไหมคะ แม่จะเดินไปได้ไหม”

 

“เมื่อไหร่จะมา เมื่อไหร่จะเจอ แล้วทำไมกระติกที่เป็นผู้จัดการทำไมไม่ติดต่อแม่เลย มันเกิดอะไรขึ้น ขอถามจริงๆ ทำไมผู้จัดการไม่ติดต่ออะไรคุณแม่เลย”

 

ก่อนปลายสายจะนัดให้คุณแม่มาพบและออกจากจุดเกิดเหตุ คุณแม่แตงโมระบุว่า “ทำไมต้องไปไกลๆ ขนาดนั้น คุณแม่ว่ามันปิดไม่ได้หรอก ปิดข่าวไม่ได้หรอก ก็ต้องรอ จะแตกต่างกันอย่างไรหรือ ยืนยันให้คุณแม่ไปตรงนั้นใช่หรือไม่ แล้วกระติกอยู่ด้วยไหม เท่าที่ทราบเหตุเกิดเพราะอะไร”

 

“ผู้จัดการของแตงโมไปแจ้งความกับตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาอยากให้แม่จะได้เจอเป็นคนแรก อยากให้คุณแม่ไปรออีกท่าน้ำ”

 

จากนั้นมารดาของแตงโม เปิดเผยหลังคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วว่า ยังไม่เจอแตงโม แต่เพื่อนบอกให้ไปรอ ก่อนคุณแม่ของแตงโมจะขึ้นรถสีขาวที่มาจอดรอรับแล้วออกจากจุดเกิดเหตุไป