ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2565 นายเชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ได้หารือทางไกลกับผู้แทนลูกจ้างไทยจากร้านสปาในเมืองต่างๆ ของยูเครนกว่า 30 ราย เพื่อสอบถามเกี่ยวกับความเป็นอยู่และสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงข้อมูลด้านอื่นๆ ที่คนไทยในยูเครนประสงค์หยิบยกกับเอกอัครราชทูต
ผู้แทนคนไทยแจ้งว่า ขณะนี้ สถานการณ์ในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นกรุงเคียฟ เมืองโอเดซา เมืองลวิฟ เมืองคาเคียฟ (ติดชายแดนรัสเซีย) ฯลฯ ยังถือว่าปกติ ไม่มีการกักตุนอาหารและลูกค้าไม่ได้ลดลง ยกเว้นในเมืองท่องเที่ยว เช่น Odesa อีกทั้งคนไทยในยูเครนส่วนใหญ่ยังมีขวัญกำลังใจดี ใช้ชีวิตและทำงานกันตามปกติ โดยมีทั้งที่ไม่รู้สึกกังวลหรือรู้สึกกังวลบ้างต่อสถานการณ์ความตึงเครียด แต่ก็มีการเตรียมความพร้อมในระดับหนึ่งและติดตามข่าวสารจากสถานเอกอัครราชทูตฯ จากทางกลุ่มไลน์ที่สถานเอกอัครราชทูตตั้งขึ้นอย่างใกล้ชิด (มีคนไทยในกลุ่มไลน์ 233 คน)
ในโอกาสเดียวกัน เอกอัครราชทูตฯ ยังได้กล่าวยืนยันกับผู้แทนร้านไทย ถึงแผนอพยพคนไทยในยูเครนในกรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เตรียมความพร้อมร่วมกับหน่วยราชการไทยอื่นๆ ไว้แล้ว และเอกอัครราชทูตฯ มีกำหนดจะหารือกับนายจ้างชาวยูเครนครั้งที่ 2 ต้นสัปดาห์หน้า เพื่อคุยเรื่องการดูแลลูกจ้างคนไทยและนำประเด็นต่างๆ ที่ตัวแทนคนไทยหยิบยกขึ้นไปคุยกับนายจ้างด้วย
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยคนไทยที่อยู่ในยูเครน โดยกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ได้กำหนดแผนอพยพคนไทยไว้พร้อมแล้ว หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินจะใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำ แต่หากมีการปิดน่านฟ้าจะจัดรถรับคนไทยข้ามแดนไปยังประเทศโปแลนด์
โดยกระทรวงการต่างประเทศ รายงานถึงสถานการณ์ในยูเครนเป็นระยะๆ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ด้วยความห่วงใยคนไทยที่อยู่ในยูเครน ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ได้ติดต่อสื่อสารกับกลุ่มคนไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการแก้ไขสถานการณ์อย่างทันท่วงทีหากมีเหตุจำเป็น รวมทั้ง สอบถามความเป็นอยู่ของชาวไทยและให้เตรียมพร้อมในการให้ความช่วยเหลือ
“ขณะนี้ได้กำหนดแผนการว่าจะใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำ เพื่ออพยพคนไทยจากยูเครนโดยตรง ส่วนกรณีน่านฟ้าปิด จะอพยพคนไทยมารวมกัน เพื่อเดินทางข้ามแดนโดยรถต่อไปยังกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เพื่อขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำกลับไทย และกรณีสุดท้าย คือ ทางการไทยจะจัดเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับคนไทยที่ยูเครน หรือ กรุงวอซอร์ ซึ่งการบินไทยและกองทัพอากาศ ได้ร่วมเตรียมการไว้พร้อมแล้ว” รองโฆษกรัฐบาล กล่าว
ทั้งนี้ คนไทยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ หมายเลข +48-696-642-348 (24 ชม.) หรือ E-mail : thaiconsularwarsaw@thaiemb.pl
+ อ่านเพิ่มเติม