แม่คาใจ ลูกชายดับปริศนาริมทาง เผยคลิปเสียงสุดท้ายก่อนตาย “ถ้าข้อยตาย ตามเรื่องให้ถึงที่สุด” เชื่อเป็นการฆาตกรรม
บังอร แม่ของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยญาติๆ ร้องผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงกรณีที่ลูกชายตายปริศนาว่า ปกติช่วงเช้าลูกชายจะขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากบ้านไปจอดไว้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเกษตรวิสัย แล้วขึ้นรถตู้โดยสารไปเฝ้าไข้พ่อที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด และจะกลับมาตอนเย็นของทุกวัน แต่ช่วงเย็นวันที่ 20 ก.พ. หลังจากกลับมาจากโรงพยาบาล ลูกได้โทรศัพท์บอกญาติว่า รถตู้กลับมาถึงค่ำ จึงพามาส่งที่ สภ.เกษตรวิสัย และจะรอให้ตำรวจไปส่งที่บ้าน ซึ่งห่างจากตัวอำเภอประมาณ 6 กิโลเมตร จนกระทั่งเวลา 22.00 น. เศษ ลูกชายโทรศัพท์ไปบอกญาติว่า กำลังขึ้นรถยนต์ของตำรวจเพื่อไปส่งที่บ้าน แต่น้ำเสียงที่พูดคล้ายคนกลัวและวิตกกังวล และยังพูดเป็นอีกว่า หากตนเองเสียชีวิตให้มางานศพด้วยนะ ญาติก็พยายามบอกว่าอย่าเพิ่งรีบวางสายโทรศัพท์ ระหว่างนั้นผู้เสียชีวิตก็บอกการเดินทางตลอดเวลาว่าผ่านบริเวณใดบ้าง ซึ่งจะมีเสียงลมแทรกเข้ามาตามสายโทรศัพท์ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ถ้าตนเองเสียชีวิตให้ตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด จากนั้นสายก็หลุดไปติดต่อกันไม่ได้อีกเลย กระทั่งรุ่งเช้าพบว่าเสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้ จากการเปิดกล้องวงจรปิดที่บริเวณสภ. พบว่าผู้เสียชีวิตมีลักษณะหวาดระแวง พยายามหลบซ่อนตัว และส่งสิ่งของบางอย่างให้ตำรวจ คลิปสุดท้าย ก่อนที่จะออกจากสภ.ในเวลา 21.16 น. ผู้เสียชีวิตขึ้นท้ายรถกระบะตำรวจ ระยะทางจากสภ. ไปถึงกลางศาลาหมู่บ้านในระยะทาง 5-6 กม. ไม่น่าจะใช้เวลานานตามที่ตำรวจแจ้ง
ด้าน รำไพ ญาติที่ได้คุยกับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย เล่าว่าตอนที่คุยกับน้องชาย เขาดูกระวนกระวาย แต่ไม่ได้บอกว่าใครทำอะไร ตนก็บอกให้เขาระวังตัว แต่สักพักเขาก็โทรมาใหม่ บอกว่ากำลังไปหาตำรวจ เดี๋ยวตำรวจจะไปส่ง ก่อนจะวางไป แล้วโทรมาอีกทีตอนอยู่บนรถตำรวจ แต่ตนกลัวว่าโทรศัพท์เขาเงินหมด จึงบอกให้เขาวางสายก่อนโทรกลับไป แล้วเขาก็ให้กดอัดเสียงไว้ ตลอดเวลาก็ได้ยินเสียงลม แต่ไม่ได้ยินเสียงปืน เพราะเสียงลมดังมาก ตนก็ไม่กล้าพูดมากเพราะไม่รู้ว่าเขาอยู่กับใครบ้าง แต่ตอนท้ายก่อนเสียงตัดไปเสียงลมมันแผ่วลง
“เจ้าได้ยินมั้ย เจ้าได้ยินเสียงปืนมั้ย ตามเรื่องให้ถึงที่สุดนะ ถ้าผมตาย และประโยคสุดท้ายพูดง่านี่นะอัดไว้นะ ถ้าผมตายเอามาลงนะ”
สำหรับเรื่องการชันสูตรศพนั้น รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว (โฟนอิน) กล่าวว่า ตามข่าวนั้นผู้เสียชีวิตมีบาดแผลตามใบหน้า โดยเราต้องพิสูจน์ก่อนว่ามาเกิดจากอะไร ถ้าอุบัติเหตุคือตกจากรถโดยปกติแล้วถ้าตกลงมาจากรถต้องมีบาดแผลถลอกตามบริเวรร่างกาย เพราะเหตุนี้การชันสูตรพลิกศพจึงสำคัญมาก
ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า เบื้องต้นแนะนำให้คุณแม่ของผู้เสียชีวิตไปร้องขอเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรมก่อนซึ่งเป็นสิทธิ์ที่เราต้องได้รับอยู่แล้ว และรวมไปถึงการชันสูตรพลิกศพ ถ้าถูกทำร้ายต้องมาดูว่าใครทำร้ายและต้องไปเรียกร้องกับคนที่ทำร้ายลูกของบังอรได้ และคนที่ทำร้ายต้องรับผิดชอบทั้งหมด
ถกไม่เถียง
ทิน โชคกมลกิจ
แม่
ญาติ
ขอความเป็นธรรม
เสียชีวิตปริศนา
ริมทาง
คนมีสี
ตำรวจ
เกี่ยวข้อง
ฆาตกรรม
ลูกชาย