logo ถกไม่เถียง

แม่คาใจ ลูกชายตายปริศนาริมทาง เผยคลิปเสียงสุดท้าย “ถ้าข้อยตาย ตามเรื่องให้ถึงที่สุด!”

ถกไม่เถียง : แม่ร้องขอความเป็นธรรม ลูกชายเสียชีวิตปริศนาริมทาง เผยคลิปเสียงสุดท้าย “ถ้าข้อยตาย ตามเรื่องให้ถึงที่สุด!” เชื่อเป็นการฆาตกรรม ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,ช่อง7HD,TERODigital,แม่,ลูกชาย,ตายปริศนา,ขอความเป็นธรรม,ตำรวจ,ข้อความสุดท้าย,สงสัย,คาใจ,ผู้ก่อเหตุ,ตามเรื่องถึงที่สุด,คลิปเสียงสุดท้าย,ตำรวจภูธรภาค4,ฆาตกรรม,ญาติคาใจ,คนมีสี

841 ครั้ง
|
22 ก.พ. 2565

         แม่ร้องขอความเป็นธรรม ลูกชายเสียชีวิตปริศนาริมทาง เผยคลิปเสียงสุดท้าย “ถ้าข้อยตาย ตามเรื่องให้ถึงที่สุด!” เชื่อเป็นการฆาตกรรม

          วันที่ 22 ก.พ.65 บังอร แม่ของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยญาติๆ ร้องผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงกรณีที่ลูกชายตายปริศนาว่า ปกติช่วงเช้าลูกชายจะขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากบ้านไปจอดไว้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเกษตรวิสัย แล้วขึ้นรถตู้โดยสารไปเฝ้าไข้พ่อที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด และจะกลับมาตอนเย็นของทุกวัน แต่ช่วงเย็นวันที่ 20 ก.พ. หลังจากกลับมาจากโรงพยาบาล ลูกได้โทรศัพท์บอกญาติว่า รถตู้กลับมาถึงค่ำ จึงพามาส่งที่ สภ.เกษตรวิสัย และจะรอให้ตำรวจไปส่งที่บ้าน ซึ่งห่างจากตัวอำเภอประมาณ 6 กิโลเมตร จนกระทั่งเวลา 22.00 น. เศษ ลูกชายโทรศัพท์ไปบอกญาติว่า กำลังขึ้นรถยนต์ของตำรวจเพื่อไปส่งที่บ้าน แต่น้ำเสียงที่พูดคล้ายคนกลัวและวิตกกังวล และยังพูดเป็นอีกว่า หากตนเองเสียชีวิตให้มางานศพด้วยนะ ญาติก็พยายามบอกว่าอย่าเพิ่งรีบวางสายโทรศัพท์ ระหว่างนั้นผู้เสียชีวิตก็บอกการเดินทางตลอดเวลาว่าผ่านบริเวณใดบ้าง ซึ่งจะมีเสียงลมแทรกเข้ามาตามสายโทรศัพท์ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า ถ้าตนเองเสียชีวิตให้ตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด จากนั้นสายก็หลุดไปติดต่อกันไม่ได้อีกเลย กระทั่งรุ่งเช้าพบว่าเสียชีวิตแล้ว
 
ถกไม่เถียง : แม่คาใจ ลูกชายตายปริศนาริมทาง เผยคล
 
          หลังลูกชายเสียชีวิต ก็ได้มีการถามตำรวจที่มาส่งลูกชาย ตำรวจแจ้งว่า มาส่งตอนประมาณ 22.00 - 23.00 น. แต่ตอนจอดรถลงมาดูก็ไม่เจอผู้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งจุดที่เสียชีวิตอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 2 กม. ทำให้ แม่ของผู้เสียชีวิตยังติดใจสาเหตุการตาย เชื่อว่าลูกชายน่าจะถูกฆาตกรรม พร้อมยังตั้งข้อสังเกตุว่า หากลูกชายกระโดดลงจากรถ ตำรวจน่าจะได้ยินเสียงบ้าง
 
           ทั้งนี้ จากการเปิดกล้องวงจรปิดที่บริเวณสภ. พบว่าผู้เสียชีวิตมีลักษณะหวาดระแวง พยายามหลบซ่อนตัว และส่งสิ่งของบางอย่างให้ตำรวจ คลิปสุดท้าย ก่อนที่จะออกจากสภ.ในเวลา 21.16 น. ผู้เสียชีวิตขึ้นท้ายรถกระบะตำรวจ ระยะทางจากสภ. ไปถึงกลางศาลาหมู่บ้านในระยะทาง 5-6 กม. ไม่น่าจะใช้เวลานานตามที่ตำรวจแจ้ง
 
ถกไม่เถียง : แม่คาใจ ลูกชายตายปริศนาริมทาง เผยคล
 
         นอกจากนี้ ทางญาติได้เปิดคลิปเสียงที่มีการพูดคุยกับผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้ายด้วย ซึ่งผู้เสียชีวิต ได้บอกกับพี่สาวว่า "ได้ยินเสียงปืนไหม" "ตามเรื่องผมให้ถึงที่สุดนะ ถ้าผมตาย" "ได้ยินไหม นัดที่ 2 นัดที่ 3 กำลังจะยิง ได้ยินไหม" "อัดไว้นะ ถ้าฉันตายเอามาลงด้วยนะ" 
 
           ด้าน รำไพ ญาติที่ได้คุยกับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย เล่าว่าตอนที่คุยกับน้องชาย เขาดูกระวนกระวาย แต่ไม่ได้บอกว่าใครทำอะไร ตนก็บอกให้เขาระวังตัว แต่สักพักเขาก็โทรมาใหม่ บอกว่ากำลังไปหาตำรวจ เดี๋ยวตำรวจจะไปส่ง ก่อนจะวางไป แล้วโทรมาอีกทีตอนอยู่บนรถตำรวจ แต่ตนกลัวว่าโทรศัพท์เขาเงินหมด จึงบอกให้เขาวางสายก่อนโทรกลับไป แล้วเขาก็ให้กดอัดเสียงไว้ ตลอดเวลาก็ได้ยินเสียงลม แต่ไม่ได้ยินเสียงปืน เพราะเสียงลมดังมาก ตนก็ไม่กล้าพูดมากเพราะไม่รู้ว่าเขาอยู่กับใครบ้าง แต่ตอนท้ายก่อนเสียงตัดไปเสียงลมมันแผ่วลง 
 
          ฟาก หมอหมู รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว เผยว่า จากรณีนี้ เท่าที่ดูข้อมูล ต้องดูลักษณะบาดแผลของผู้เสียชีวิตก่อนว่า เกิดจากอะไร โดยปกติถ้าตกจากรถในขณะที่รถมีความเร็ว ต้องมีร่องรอยถลอกตามร่างกาย และจุดที่พบศพเป็นจุดที่เสียชีวิตจริงหรือไม่ หรือเสียชีวิตจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งตรงนี้ นอกจากนี้ต้องตรวจรถตำรวจ ว่ามีร่องรอยของกระสุนปืนหรือไม่ ฉะนั้นสิ่งสำคัญคือต้องชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต สำหรับกรณีนี่คนนั่งอยู่บนรถ แล้วตกรถลงมา คนที่อยู่บนรถอาจจะไม่รู้ได้ แต่ถ้าตกรถจริง สภาพศพจะบอกเองว่าตกรถจริงหรือไม่
 
ถกไม่เถียง : แม่คาใจ ลูกชายตายปริศนาริมทาง เผยคล
 
           ส่วนในเรื่องคดีความ ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า เรื่องนี้ คุณแม่จะสงสัยก็ไม่แปลก โดยเบื้องต้นแนะนำให้ไปติดต่อกระทรวงยุติธรรม เพื่อติดต่อขอเยียวยา ส่วนเรื่องการกล่าวหาหรือฟ้องร้อง ต้องมีการชันสูตรศพเพื่อพิสูจน์การเสียชีวิตก่อน แล้วถึงจะเดินเรื่องเพื่อกล่าวหาต่อไปได้
 
ถกไม่เถียง : แม่คาใจ ลูกชายตายปริศนาริมทาง เผยคล
 
         จากกรณีเหตุที่เกิดขึ้นนี้ พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 4 เผยว่า ผู้เสียชีวิตได้มาขอความช่วยเหลือจากทางตำรวจว่าถูกกลุ่มคนรุมทำร้าย ตอนตรวจร่างกายก็ไม่เจอร่องรอยอะไร ตำรวจเลยแนะนำให้กลับบ้าน ระหว่างทางที่ไปส่ง เจอแก๊งจยย.ซิ่ง ตำรวจก็เลยจอดรถดู พอลงมาดูปรากฎว่าไม่เจอผู้เสียชีวิตบนหลังรถแล้ว เดินตามหาก็ไม่เจอ ตำรวจจึงคิดว่าผู้เสียชีวิตเดินกลับบ้านไปแล้ว จากนั้นตอนเช้าถึงทราบว่าผู้ตายไปเสียชีวิตอยู่ที่ป่าข้างทาง สภาพศพผู้ตายมีร่องรอยแผลถลอกครูดของหิน เสื้อผ้ามีรอยขาด ไม่ได้เกิดจากการถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจก็ได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดแล้ว ทั้งนี้หากคุณแม่ติดใจสาเหตุการตาย ก็คงจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้คลายข้อสงสัย ซึ่งหากตำรวจเป็นคนทำก็จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพียงแต่หากพบว่าสาเหตุเป็นเพราะผู้เสียชีวิตกระโดดลงจากรถมาเอง ก็อยากจะขอความยุติธรรมให้ตำรวจด้วย
 
          ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/JRpleoWb1mM