ตำรวจ สภ.สีคิ้ว เชิญ เด็กและผู้ปกครอง ซ้อนจักรยานยนต์อัด 5 มารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมว่ากล่าวตักเตือน หากสืบทราบพบผู้ปกครองให้การส่งเสริมบุตร เตรียมเอาผิดทางกฎหมาย
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “คุณ นราวุฒิ” ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์น่าหวาดเสียวเป็นภาพเด็กชาย 5 คน ขับและซ้อนรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สัญจรไปบนทางต่างระดับสีคิ้ว ถนนวงแหวนสาย 24 มุ่งไปยังทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ในลักษณะประมาทหวาดเสียวเสี่ยงเกิดอันตราย
ต่อมา ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อไปยังผู้โพสต์ คือ นายอภิสิทธิ์ เบญจรัตนพงษ์ ซึ่งเป็นอาสาสมัครกู้ภัย หน่วยกู้ชีพ-กู้ภัย มูลนิธิพรหมธรรมสถานสงเคราะห์ อ.สีคิ้ว เล่าว่า ได้ขับรถมาตามเส้นทางตามปกติ แล้วเห็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขับอยู่ด้านหน้า มีเด็กผู้ชายซึ่งซ้อนท้ายอยู่หลังสุดยืนบนเบาะรถ มือเกาะไหล่เพื่อนที่นั่งอยู่ด้านหน้า จึงยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายวิดีโอเอาไว้ พร้อมกับเร่งความเร็วรถยนต์ตีคู่ขึ้นมา ก็พบว่า ยังมีเด็กชายวัยใกล้เคียงกันอีกถึง 4 คนขับขี่และซ้อนท้ายมาด้วยกัน เมื่อตะโกนสอบถาม เด็กเหล่านั้นก็หันมามอง พร้อมกับยกนิ้วโป้ให้ โดยไม่ได้ลดความเร็วลงเลย และยังคงขับขึ้นถนนใหญ่เป็นระยะทางค่อนข้างไกล ตนจึงพยายามตักเตือนแต่เด็กไม่ฟัง จึงขับรถตามสังเกตการณ์ เพราะหวั่นจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ จนเด็กเหล่านั้น ขับรถออกจากถนนใหญ่ แยกเข้าหมู่บ้าน-ชุมชนไป
โดยความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (21 ก.พ. 65) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สีคิ้ว ได้เชิญ เยาวชนทั้ง 5 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 10-12 ปี พร้อมด้วยผู้ปกครองของทั้ง 5 คน มาที่ห้องสอบสวนของ สภ.สีคิ้ว เพื่อสอบถามข้อมูล แจ้งให้รับทราบข้อกล่าวหาการกระทำผิดในกฎหมายต่างๆ และว่ากล่าวตักเตือนเพื่อไม่ให้ไปกระทำผิดกฎหมายซ้ำอีก โดย พ.ต.อ.ยงยศ พลเดช ผกก.สภ.สีคิ้ว เปิดเผยว่า ภายหลังจากเห็นคลิป ตนเองก็ได้สั่งการให้ร้อยเวร สภ.สีคิ้วประสานไปยังเจ้าหน้าที่ปกครองในพื้นที่ ซึ่งล่าสุดทราบชื่อของเยาวชนทั้ง 5 รายแล้ว ซึ่งวันนี้ก็จะได้เรียกเยาวชนทั้ง 5 ราย พร้อมด้วยผู้ปกครองมารับทราบข้อกล่าวหา และว่ากล่าวตักเตือน ที่กระทำผิดตามข้อกฎหมาย ต่างๆ ส่วนผู้ปกครองถ้าสืบทราบว่าให้การส่งเสริมบุตรหลานกระทำผิดในครั้งนี้ ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
จากการสอบสวนในเบื้องต้นเยาวชนทั้ง 5 คน ให้การว่า เมื่อวานนี้ (20 ก.พ. 65) ได้พาเพื่อนๆ ประมาณ 10 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 5-6 คัน ไปเล่นน้ำที่ลำน้ำลำตะคอง ต่อมาเพื่อนๆ ได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับกันหมด จึงเหลือรถจักรยานยนต์อยู่เพียง 1 คันและเพื่อนๆ บางส่วนที่มากับรถจักรยานยนต์คันอื่น ยังอยู่รวมกัน 5 คน จึงได้พากันขึ้นรถจักรยานยนต์คันเดียวกัน เพื่อที่จะกลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณดังกล่าว ประมาณ 4 กิโลเมตร โดยไม่ได้ทราบว่า เป็นการกระทำผิดกฎหมายและยืนยันว่าไม่ได้เป็นการคึกคะนองแต่อย่างใด