แฉชัดๆ กลโกงปั่นแปะ ลวงสาวเล่นซุ้มเกมงานวัด จัดฉากหน้าม้าตีซี้ 15 นาที สูญ 3 แสน!

          วันที่ 21 ก.พ.65 น.ส.สิริลักษณ์ หรือ เปิ้ล ผู้เสียหาย เปิดใจผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า วันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ได้ไปเดินเล่นที่งานประจำปีวัดคู้บอนกับแฟน และเดินผ่านซุ้มที่มีการเล่นเกม จึงเข้าไปดู ซึ่งลักษณะเกมคือมีการหมุนเหรียญที่ด้านหนึ่งเป็นเลข 8 อีกด้านเป็นเลข 3 และเอาฝามาครอบ จากนั้นให้ทายว่าเป็นเลขอะไร คนในกลุ่มดังกล่าวก็ได้พยายามชักชวนให้ร่วมเล่นเกม และพยายามกันแฟนออกไป ตอนแรกปฏิเสธไปเนื่องจากไม่มีเงินสด แต่ทางกลุ่มก็จะออกเงินให้ 3,000 บาท โดยให้ตนจับฝาที่ครอบอยู่ ปรากฏว่าผลออกมาว่าต้องเสียเงิน 6,000 บาท จึงทำการโอนเงินไป นอกจากนี้ ยังมีคนประมาณ 10 คน รวมถึงกลุ่มการ์ดของทางร้านมายืนล้อมหน้าล้อมหลัง และกันตนออกจากแฟน ทำให้ไม่สามารถออกไปจากบริเวณดังกล่าวได้ อีกทั้งยังมีคนมาคอยมาเกาะและคะยั้นคะยอดึงมือให้เล่นต่อ ขณะที่เล่นก็มีคนร่วมเล่นประมาณ 6 คน คิดว่าน่าจะเป็นหน้าม้า บางครั้งเสียเงิน 30,000 บาท บางครั้ง 50,000 บาท รอบสุดท้ายเสียไปจำนวน 100,000 บาท ตอนนั้นไม่รู้สึกเสียดายเงิน รู้สึกเบลอๆ จนทำตามทุกอย่าง คาดว่าอาจจะถูกป้ายยา โดยเสียเงินไปทั้งหมดไป 315,000 บาท พอเล่นเสร็จ เขาก็เก็บโต๊ะหนีเลย

 

 

            ด้าน นายอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เล่าว่า ได้รับแจ้งเรื่องเมื่อวันที่ 19 ก.พ. และทำการลงพื้นที่พบว่ามีการตั้งซุ้มเล่นการพนันหมุนวงล้อมจริงและมีการ์ดยืนคุมเชิงอยู่ด้วย ซึ่งไม่มีใครสามารถบันทึกภาพได้เนื่องจากโดนล้อมกรอบแล้วสั่งให้ลบภาพทิ้ง ชี้ชัดว่ามีพฤติกรรมผิดกฎหมาย คาดว่าเป็นแก๊งมาเฟียที่มาดูแลเรื่องการพนันตรงนี้อยู่ คาดว่าแก๊งพวกนี้ไม่ได้อยู่นาน ทำให้ตำรวจไม่รู้ เพราะงานมีวันที่ 11 - 20 ก.พ. 9 วัน 9 คืน พอได้เงินครบจำนวนก็รีบเก็บโต๊ะกลับไปเลย สำหรับเรื่องนี้ ใครไม่เจอไม่รู้หรอก จะว่าเหยื่อโง่ไม่ได้ เพราะไปอยู่ในพื้นที่จริง ขนาดทีมงานที่เป็นผู้ชายเมื่อถูกกลุ่มการ์ดล้อมรอบยังไม่กล้าเลย และนอกจากผู้เสียหายรายนี้แล้ว ยังมีผู้เสียหายคนอื่นอีกที่โดนหลอกเอาทองไป เรื่องนี้นอกจากเป็นเรื่องของตำรวจแล้ว ยังเป็นเรื่องของสำนักงานเขต และทางวัด ที่ต้องช่วยกันสอดส่องว่าทำไมกลุ่มมิจฉาชีพถึงสามารถมาตั้งโต๊ะหลอกลวงคนได้

 

 

          สำหรับเทคนิคการหลอกลวงแบบนี้ นายกฤษกร แซ่เหล้า หรือ เบิ้ม ลูกโป่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านมายากล ได้ออกมาแฉกลเม็ดการโกงว่า กรณีปั่นเหรียญที่ด้านหนึ่งเป็นเลข 8 อีกด้านเป็นเลข 3 นั้น เขาจะโชว์ให้เห็นว่าช่วงเหรียญใกล้หงายเป็นเลข 3 จากนั้นเขาก็จะดึงมือคนในวงให้มาแตะที่ครอบ เชียร์ให้วางเงิน แต่จังหวะล้วงเงินเขาจะแอบเปลี่ยนให้เป็น 8 จุดนี้เหยื่อจะเห็นว่าสถานการณ์ตรงหน้าเกิดอะไรขึ้น แต่เหยื่อไม่กล้าพูด กรณีนี้ เหยื่อถูกมองว่าเป็นม้าใหม่ เล่นยังไงก็ไม่ได้เงิน อละเขาเห็นเงินในบัญชีตอนที่กดโอนเงินแล้ว แนะนำให้กลับไปเปลี่ยนรหัสทั้งหมด ส่วนเรื่องที่เหยื่อรู้สึกงง เบลอๆ นั้น เป็นการใช้จิตวิทยา เป็นการย้ำความคิดใส่หัว พูดกรอกหูให้คิดว่าเดี๋ยวก็ได้เงินคืน นอกจากนี้พื้นที่นั้นยังเป็นพื้นที่เปิด เป็นสถานที่สาธารณะ ทำให้เหยื่อไม่คาดคิดว่าจะมีการโกงเกิดขึ้น 

 

 

          ส่วนความดคืบหน้าทางด้านคดีนั้น พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เผยว่า ได้สั่งให้ ผู้กำกับ คันนายาว ไปตามตัวผู้จัดงาน และแจ้งหาตัวว่าใครจัดให้มีการเล่นการพนัน ต่อมาฝ่ายสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี  ประเด็นในการสอวสวนมีการตั้งไว้ 2 ประเด็น เรื่องผู้จัดให้มีการเล่นนการพนัน และฉ้อโกงทรัพย์ จากนี้จะการสอบสวนเพิ่มเติมว่ามีใครร่วมกระบวนการอีกไหม ต้องขยายผลเพิ่มเติม หากมีผู้เสียหายเพิ่มเติมประสงค์จะมาร้องทุกข์ ตร.ก็จะได้รวบรวมข้อมูลดำเนินการแจ้งข้อหาให้หนักขึ้น