หลานสาว วัย 18 รับฆ่ายายยัดถัง ปมถูกด่า อ้างอารมณ์ชั่ววูบ! #ถกข่าวร้อน

614 ครั้ง

16 ก.พ. 2565

แชร์ข่าวไปที่

ไม่รู้จะเป็นข่าวดีหรือข่าวเศร้า กรณีการจับกุมผู้ต้องหาคดีฆ่ายัดถังขยะใน จ.สุพรรณบุรี เพราะผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นหลานสาวของผู้ตายเอง ซึ่งตำรวจสามารถรวบตัว หลานสาวและแฟนหนุ่มได้แล้ว โดยจับกุมตัวได้ที่ชายแดนแม่สอด จ.ตาก ด้านคุณตา ก็ไม่คิดฝันว่า หลานสาวจะเป็นผู้ที่ลงมือก่อเหตุ เพราะตนเองกับภรรยา รับหลานสาวคนนี้มาเลี้ยงดูเหมือนลูกในไส้ตั้งแต่ 2 ขวบ

การจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีฆ่ายัดถังขยะ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจบ้านห้วยยะอุ ถนนสายแม่สอด-ตาก อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งได้ทำการตรวจรถและบุคคลตามหมายจับคดีต่างๆ ซึ่งระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ได้เรียกรถตู้โดยสารสายแม่สอด-ตาก มีผู้โดยสารมาเต็มคัน เพื่อขอตรวสอบบุคคลภายในรถ และได้พบผู้โดยสารสองคน เป็นชาย 1 คน และเป็นหญิงสาว 1 คน มีอาการพิรุธ จึงเชิญตัวทั้งสองคนเพื่อตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระ

จากการตรวจสอบ พบว่า ชื่อนายปฏิพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ชาว อ.แม่สอด และ น.ส.อร (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เป็นผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีสะเทือนขวัญฆ่ายัดถัง ซึ่งเหตุเกิดในพื้นที่ สภ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ก่อนจะคุมตัวทั้งสองคนส่งให้กับตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ

โดยมีรายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้าที่ผู้ต้องหาทั้งสองจะถูกจับกุมได้ ตำรวจได้ติดตามหาตัวทั้งสองคนทั้งบ้านพักใน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และ บ้านเช่าใน จ.นครราชสีมา แต่ไม่พบตัวทั้งสองคน พร้อมกับพบเบาะแสว่า ทั้งสองคนได้หลบหนีไปทางจังหวัดในภาคเหนือ คาดว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศผ่านแนวตะเข็บชายแดน จึงประสานตำรวจในทุกพื้นที่ช่วยจับตาดู จนกระทั่งพบทั้งคู่โดยสารรถตู้ประจำทาง และถูกควบคุมตัวได้ในที่สุด

เรามาย้อนดูไทม์ไลน์ในคดีนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 11 ก.พ.64 นางสมศรี ม่านกระโทก ได้หายตัวออกจากบ้านไป ซึ่งประเด็นนี้ เพื่อนบ้านข้างห้องพัก คือ คุณรินดา หินกลาง ได้ยืนยันข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ ว่าพบนางสมศรีเป็นครั้งสุดท้าย

ต่อมาวันที่ 13 ก.พ.64 นายบัญชา อินทนะ ชาวบ้านในพื้นที่พบถังขยะปริศนาตั้งอยู่ในพงหญ้า พร้อมกับได้แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาดู ก่อนจะประสานตำรวจให้เข้าตรวจสอบ

จากนั้นวันที่ 14 ก.พ.64 ตำรวจเข้าตรวจสอบพบศพผู้หญิงถูกยัดอยู่ภายในถังขยะ โดยสันนิษฐานว่า ได้เสียชีวิตมาแล้ว 4 - 5 วัน

ถัดมาวันที่ 15 ก.พ.64 ตำรวจ สภ.เดิมบางนางบวช ได้ออกมาชี้แจงความคืบหน้าของคดีคืบหน้า ซึ่งยืนยันว่า เดิน หน้าไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ พร้อมมีเบาะแสจากพยานยืนยัน รวมถึงหลักฐานจากกล้องวงจรปิด

โดยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ตำรวจคุมตัวนายปฏิพล (ขอสงวนนามสกุล) และ น.ส.อร (หลานนางสมศรี) ที่จุดตรวจบ้านห้วยยะอุ ต.ด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งในเวลา 15.00 น. ตำรวจคุมตัวไปสอบสวน มีหลักฐานยืนยันว่า นายปฏิพล (ขอสงวนนามสกุล) และ น.ส.อร ฆ่านางสมศรี

ด้านนายดำรงค์ ม่านกระโทก สามีของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนและผู้ตายแต่งงานกันมาหลายปี อาศัยอยู่บ้านใน จ.สระบุรี แต่ไม่มีลูก จึงตัดสินใจรับ น.ส.อร มาเลี้ยงตั้งแต่อายุ 2 ขวบ และเลี้ยงดูประคบประหงมเหมือนลูกแท้ๆมาอย่างดีโดยตลอด จนกระทั่งหลานอายุได้ 12 ปี และต้องเข้าเรียนชั้น ม.1 ตนก็เลยส่งให้เขาไปเรียนที่โรงเรียนใน จ.นครราชสีมา ประกอบกับให้ผู้ตายไปอยู่เป็นเพื่อนตั้งแต่ตอนนั้น และจะกลับมาที่ จ.สระบุรี ในช่วงวันหยุด จนกระทั่งปัจจุบัน น.ส.อร เรียนอยู่ชั้น ม.6 เทอม 2 ส่วนตนก็ทำงานอยู่ที่สถานีรถไฟชุมทางแก่งคอย จ.สระบุรี และตนก็เพิ่งทราบว่า หลานมีแฟนชื่อนายปฏิพล คาดว่าทั้งคู่คงรู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก แต่หลานสาวไม่เคยบอกให้ทราบ

ขณะที่ความสัมพันธ์ของหลานสาวกับยายนั้น มักจะทะเลาะกันบ่อยๆ จากปัญหาจุกจิกในบ้าน เนื่องจากภรรยาของตนเอง เป็นคนนิสัยปากไว พูดจาโผงผาง อารมณ์ร้อน ฉุนเฉียว อยากจะพูดอะไรก็พูด แต่รักและหวงหลานสาวคนนี้มาก โดยเฉพาะเรื่องผู้ชาย จะเคร่งมาก เพราะยังไม่อยากให้หลานมีแฟนก่อนเรียนจบ

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากพยานที่เป็นเพื่อนบ้านใน จ.นครราชสีมา คือ นางรินดา หินกลาง ยืนยันว่า ได้เจอนางสมศรีเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย โดยนางสมศรีเป็นคนใจดี เลี้ยงหมาเลี้ยงแมว แถมยังชอบโชคเล่นหวย ถูกหวยฮานอย ได้เงินหลักแสนบาท

โดยก่อนหน้านี้ เพิ่งจะบอกกับตัวเองว่า ถูกหวยได้เงินมาเยอะ ซึ่งปกตินางสมศรีกับหลานสาว จะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เพราะนางสมศรีหวงหลาน ใครโทรหาหลานหรือหลานไปกับใคร นางสมศรีจะตีหลาน แถมตนยังเคยได้ยินนางสมศรีด่าว่าหลานช่วงเวลาเที่ยงคืนในวันที่เกิดเหตุว่า “ไม่รักดี” และยังมีคนข้างห้องคนอื่นเห็นว่า น.ส.อร ได้กลับเข้าห้องมาคนเดียว พร้อมบอกว่า กลับมาเอาของ ยายสมศรีลื่นล้มหัวแตก ต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใน จ.สระบุรี

ขณะที่หลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่เป็นเบาะแสสำคัญให้กับตำรวจชุดสืบสวน ก็คือ หลักฐานจากกล้องวงจรปิด ซึ่งได้บันทึกภาพรถกระบะที่ผู้ก่อเหตุใช้ในการบรรทุกถังขยะที่ยัดศพไว้ได้ โดยภาพที่บันทึกได้นี้ มาจากกล้องวงจรปิดที่ตั้งอยู่ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 850 เมตร เป็นภาพรถกระบะ 2 ประตู มีแคป สีบรอนซ์เงิน ล้อแม็กสีดำ และท้ายกระบะบรรทุกถังขยะสีน้ำเงิน

คืบหน้าล่าสุด นางเจริญศรี ไววัฒถา ลูกสาวนางสมศรี ม่านกระโทก ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาเพื่อรอดูศพมารดา แต่ขณะนี้ได้ส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยบอกว่า ตนเองเป็นลูกสาวแท้ๆของนางสมศรี ซึ่งตนมีลูก 5 คน โดยหลานสาวผู้ก่อเหตุเป็นลูกคนที่ 4 ที่ยกไปให้นางสมศรี ไม่ใช่ถูกเก็บมาเลี้ยง

ที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตดูแลหลานสาวเป็นอย่างดี อยู่ในสายตาตลอด แม้กระทั่งไปเรียน ใน จ. นครราชสีมา ก็เดินทางไปอยู่ด้วย และมักจะมีปากเสียงประจำกับหลาน แต่โมโหง่ายหาเร็ว นางสมศรี มีนิสัยชอบเล่นหวยและจะถูกได้เงินงวดละ 4-5 หมื่นเป็นประจำ ตนเองไม่เชื่อว่าชนวนเหตุ จะเป็นเงิน 1 แสนบาทที่ได้มาจากการถูกงวดล่าสุด แต่ก็อยากถามว่า ทำไมต้องทำ และทำไปด้วยอะไร ทำไมถึงกล้าทำกับยายแท้ๆได้

นางเจริญศรี บอกอีกว่า ได้โทรคุยกับผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้ายวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งคุณแม่ได้เดินทางกลับมาบ้านที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พร้อมกับลูกสาวตนที่ก่อเหตุ แต่ว่าไม่ได้เข้าไปที่บ้าน เนื่องจากคุณแม่กลัวโควิด-19

ด้านนายดำรง ม่านกระโทก สามีนางสมศรี บอกว่า หลังจากทราบข่าวได้โทรศัพท์คุยกับหลานสาว ซึ่งหลานสาวได้กล่าวขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น และบอกว่า ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เนื่องจากโดนยายด่าสะสมมานาน

ส่วนความคืบหน้าของคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำผู้ก่อเหตุไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพในห้องเช่าย่านวัดสมอราย อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดที่นางสมศรีเสียชีวิต จากนั้นจะนำมาทำแผนที่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี