logo ถกไม่เถียง

สุดคาใจ! สาวท้องแก่ 9 เดือน เจ็บท้องคลอด หมอให้กลับบ้าน ไม่ยอมผ่า สุดท้ายลูกตายคาท้อง

ถกไม่เถียง : ญาติคาใจ สาวท้อง 9 เดือน น้ำเดินนอนรอคลอด มาถึงโรงพยาบาลแล้วบอกให้กลับมาผ่าวันหลัง สุดท้ายลูกตายคาท้อง ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,ช่อง7HD,TERODigital,สาวท้อง,โรงพยาบาล,วิเชียรบุรี,หมอ,แพทย์,น้ำเดิน,น้ำคร่ำแตก,ผ่าคลอด,ไม่ยอมผ่าคลอด,ให้กลับบ้าน,คาใจ,รับผิดชอบ,เยียวยา,ลูกตาย,ลูกตายคาท้อง,เพชรบูรณ์,ไม่ว่าง,โรงพยาบาลวิเชียรบุรี

1,200 ครั้ง
|
16 ก.พ. 2565

      ญาติคาใจ สาวท้อง 9 เดือน น้ำเดินนอนรอคลอด มาถึงโรงพยาบาลแล้วบอกให้กลับมาผ่าวันหลัง สุดท้ายลูกตายคาท้อง 

         วันที่ 16 ก.พ.65 นายสนั่น จ่าสาลี และ น.ส.จิราพร เภาโพธิ์ พ่อและแม่ของทารกที่เสียชีวิต พร้อมด้วย นายทองแดง เภาโพธิ์ ตาของทารก เปิดใจผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงกรณีที่ต้องสูญเสียลูกเหตุเพราะไม่ได้รับการผ่าคลอดว่า ตอนนั้น ท้องได้ 9 เดือน มีกำหนดคลอดในวันที่ 17 ก.พ.65 แต่วันที่ 9 ก.พ.65 มีมูกใสๆ ออกมา มีอาการท้องแข็ง จึงโทรไปสอบถามที่คลินิกที่ฝากครรภ์ เขาแนะนำให้ไปที่โรงพยาบาล ตอนนั้นปากมดลูกเปิดแล้ว 1 เซนติเมตร ท้องแข็งทุก 3 นาที หัวใจเด็กยังมีเสียงเต้นปกติดี มีการส่งตัวให้ไปนอนรอหมอที่ห้องเตรียมคลอด พยาบาลแจ้งว่าจะต้องทำการผ่าคลอด เพราะถ้าคลอดเองมีความเสี่ยง หลังจากนั้นก็มีการสั่งงดอาหาร เพื่อรอการผ่าตัด กระทั่งเวลา 3  ทุ่มครึ่ง แพทย์จากโรงพยาบาลได้มาแจ้งกับทางญาติว่าจะทำการผ่าตัดให้ ในช่วงเช้า
 
ถกไม่เถียง : สุดคาใจ! สาวท้องแก่ 9 เดือน เจ็บท้อ
 
            จนมาช่วงสาย ของวันที่10 ก.พ.65 ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ก็สั่งงดน้ำงดอาหารอีก แต่ภายหลังกลับมาบอกให้กลับบ้านก่อน เอาไว้ผ่าวันหลัง สาเหตุอาจจะมาจาก เตียงข้างเคียงในห้องรอคลอด ตรวจพบว่าติดโควิด-19  ทางญาติจึงพากลับบ้าน พอถึงบ้านประมาณ 11 โมง เริ่มรู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลง จึงโทรปรึกษาที่คลินิกตอนบ่าย 3 โมง แต่ได้รับแจ้งว่าหมอไม่อยู่ ให้โทรมาใหม่ตอน 5 โมงเย็น ผู้ช่วยหมอแจ้งให้รีบไปโรงพยาบาล เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็ตรวจสัญญาณหัวใจเด็ก แต่ปรากฎว่าไม่พบคลื่นหัวใจแล้ว ทางญาติจึงถามว่าเพราะสาเหตุอะไร หมอแจ้งว่าตอบไม่ได้ ต้องให้เด็กออกมาก่อน หลังจากนั้นได้มีการผ่าตัดเพื่อนำเด็กออกมา ตอนนั้นได้ยินหมอคุยกันว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากสายสะดือพันคอเด็ก เราเลยคาใจว่า ถ้าผ่าก่อนหน้านี้ เด็กอาจจะไม่เสียชีวิต 
 
ถกไม่เถียง : สุดคาใจ! สาวท้องแก่ 9 เดือน เจ็บท้อ
 
          ตอนนี้ศพของเด็กอยู่ในห้องดับจิต ทางครอบครัวยังทำใจไม่ได้ ตั้งแต่คลอดออกมา ได้มีโอกาสเห็นหน้าเด็กแค่ 2 นาที ยังไม่มีโอกาสได้อุ้มเลยสักครั้ง กลัวว่าถ้าจะต้องให้มีการผ่าชันสูตรศพ แล้วมีรอยผ่า คงรับไม่ไหวจริงๆ
 
ถกไม่เถียง : สุดคาใจ! สาวท้องแก่ 9 เดือน เจ็บท้อ
 
          ด้าน พญ.ชัญวลี ศรีสุโข กรรมการแพทยสภา และสูตินรีแพทย์เชี่ยวชาญ เผยว่า จากกรณีนี้ คุณแม่อายุครรภ์ 39 สัปดาห์ ปากมดลูกเปิด มีมูกออก และท้องแข็งเป็นระยะ ที่หมอเลื่อนนัดครั้งแรก เข้าใจว่าคงเพราะเรื่องโควิด-19 ทั้งนี้การที่จะปล่อยให้กลับบ้านได้ ต้องมีการตรวจให้แน่ชัดก่อนว่าสามารถให้กลับได้ ซึ่งกรณีนี้ได้มีการตรวจคลื่นหัวใจ พบว่าเด็กยังแข็งแรงดี สามารถป้องกันได้ระยะนึง แต่เหตุฉุกเฉิน เช่น รกลอกตัวก่อนกำหนด สายสะดือพันรัดแน่นขึ้น มันเป็นเหตุสุดวิสัย กะทันหัน ไม่สามารถป้องกันได้ แต่เมื่อเด็กเสียชีวิตก็ต้องวิเคราะห์ว่าเด็กเสียชีวิตเพราะอะไร หากน้ำคร่ำน้อยแล้วปล่อยให้กลับบ้าน อันนี้ไม่ถูกต้อง ต้องตรวจสอบว่าโรงพยาบาลมีการประมาทเลินเล่อหรือไม่ ดังนั้น ต้องมีการชันสูตร หรือไม่อย่างนั้นต้องหาหลักฐานให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
 
ถกไม่เถียง : สุดคาใจ! สาวท้องแก่ 9 เดือน เจ็บท้อ
 
           ขณะที่ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว พูดถึงกรณีการชันสูตรศพ การเสียชีวิตทางการแพทย์ การรักษาพยาบาล ต่างกับการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เพราะการเสียชีวิตในระหว่างรักษาพยาบาล ตัวหลักคือข้อมูลบันทึกทางการแพทย์ที่ได้ทำการรักษามา อย่างที่หมอหวิวได้บอกไป สามารถย้อนดูข้อมูลทางการแพทย์ก็ได้ แต่กุญแจอีกกอย่างคือ การผ่าชันสูตร ซึ่งจะมีการทำงานร่วมกันระหว่าง พยาธิแพทย์กับหมอนิติเวช ซึ่งตรงนี้ก็เป็นสิทธิของญาติที่จะตัดสินใจว่าจะผ่าชันสูตรหรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่า ก็ยังมีตัวเลือกอีกอย่างคือข้อมูลทางการแพทย์ ตั้งแต่เริ่มฝากครรภ์ไปจนถึงตอนผ่าตัดเอาเด็กออกมา ตอนผ่าคลอดจะมีใบบันทึกอยู่ว่า พบอะไรบ้าง เอกสารพวกนี้หาได้ตามปกติตามการรักษาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องสายรกพันคอ 1 รอบ จะเป็นสาเหุตของการเสียชีวิตหรือไม่ ตอบยาก แต่สิ่งที่จะช่วยตอบได้คือ การผ่าชันสูตร ซึ่งจะช่วยยืนยันชัดเจนว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใดกันแน่
 
ถกไม่เถียง : สุดคาใจ! สาวท้องแก่ 9 เดือน เจ็บท้อ
 
           สำหรับเรื่องการเยียวยานั้น นพ.กอบชัย จิรชาญชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิเชียรบุรี เผยว่า เบื้องต้น ได้มีการพูดคุบเรื่องการเยียวยา แต่ต้องดูผลของการชดเชยจากประกันสังคมก่อน เนื่องจากผู้ป่วยเข้ามาในระบบประกันสังคม และจากการตรวจสอบไม่พบความผิดปกติในขั้นตอนการรักษา ไม่ได้มีส่วนไหนที่ทางโรงพยาบาล ได้ทำผิดพลาดในเรื่องของการดูแลผู้ป่วย เพราะก่อนกลับบ้าน ได้มีการตรวจสัญญาณชีพเด็ก ตรวจปากมดลูกคุณแม่ ถึงได้ปล่อยกลับบ้าน ส่วนประเด็นที่ให้กลับบ้านก่อนนั้น น่าจะเป็นเรื่องข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะมีปัญหาคนไข้ฝากครรภ์ติดโควิด-19 แล้วพบมีคนไข้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 4 คน จึงต้องมีการแยกผู้ป่วยออกมาคนละที่ เพื่อทำการฆ่าเชื้อห้องรอคลอด และตอนช่วงเช้าทางแม่เด็กไม่มีการเจ็บท้อง น้ำไม่เดิน อีกทั้งได้มีการสอบถามแม่เด็ก คุณแม่ประสงค์อยากจะคลอดธรรมชาติ จึงให้คุณแม่กลับบ้านก่อน แต่ทั้งนี้หลังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีการช่วยเหลือเบื้องต้นไปแล้วบางส่วน และจะมีการนัดเข้ามาพูดคุยเรื่องการเยียวยาอีกครั้งในวันศุกร์นี้
 
        ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/2PDwYr_uAfU