นายกฯ กล่าว วันวาเลนไทน์ อย่าลืมรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสร้างความสามัคคีร่วมกับคนในชาติ ย้ำเสถียรภาพของรัฐบาลไม่ได้มีปัญหา พร้อมทำงานร่วมกันต่อไป
วันที่ 14 ก.พ. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์เนื่องในวันวาเลนไทน์ว่า วันนี้วันวาเลนไทน์เป็นวันสากล ความรักมีให้กับตัวเอง ให้กับครอบครัว ให้กับสังคมและคนอื่น สิ่งสำคัญวันนี้ในวันแห่งความรัก ฉะนั้นอย่าลืมความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักคนไทยด้วยกัน รักชาติบ้านเมือง สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญในการจะสร้างพลังรักและความสามัคคีของพวกเราคนในชาติไปให้ได้ เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ที่มีมากมาย ในประเทศถือว่าเป็นเรื่องความเข้าใจ ซึ่งจะต้องหารือกันต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดคือวันนี้มีปัญหามากมายในโลกใบนี้ เกี่ยวข้องยึดโยงไปทั้งหมด
"ขอให้ติดตามสถานการณ์ภายนอกประเทศด้วย สถานการณ์ที่เป็นความเดือดร้อนของพวกเราหลายอย่างมันเกี่ยวเนื่องพันมาจากเรื่องต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการค้าการลงทุน พลังงานอะไรต่างๆ เหล่านี้ ไม่ใช่เราจะทำตามใจชอบเราได้อย่างเดียวมันคงไม่ได้ รัฐบาลพยายามจะแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุด เราต้องพยายามช่วยกันลดปัญหา ถ้าทุกปัญหามาประเดประดังพร้อมกันในเวลานี้จะแก้อะไรไม่ได้เลย และเราก็จะพันตัวเองอยู่อย่างนี้ ปัญหาหลักๆ ก็แก้ไม่ได้ ขอให้วันนี้เป็นวันแห่งความรัก ความสามัคคีไปด้วยก็แล้วกัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงเสถียรภาพของรัฐบาลหลังมีข่าวกรณีพูดกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่า "หนูช่วยหน่อยนะ" หลังประชุม ศบค.สัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ไม่ทราบว่าพูดประโยคดังกล่าวตอนไหน ซึ่งก็บอก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนกันขอให้ทุกพรรคร่วมรัฐบาลช่วยกันทำให้ประเทศเดินหน้าไปให้ได้ ไม่ใช่ประเด็นทางการเมืองใดทั้งสิ้น และทุกคนก็มีหน้าที่ของแต่ละคน ซึ่งตนก็ขอบคุณและทุกพรรคก็ยืนยันที่จะทำงานร่วมกันต่อไป ไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น
ขณะที่ นายอนุทิน กล่าวถึงข่าวดังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีก็สอบถามว่าพูดประโยคดังกล่าวเมื่อไหร่ จำไม่ได้ แต่ถือว่าเป็นธรรมดาถ้านายกรัฐมนตรีบอกให้ช่วยหน่อยนะ ต้องช่วยกันทำงานเพื่อให้ทุกอย่างเกิดความเรียบร้อย ส่วนกระแสข่าวที่ตนได้ให้ความมั่นใจนายกรัฐมนตรีหลังประชุม ศบค.ว่าจะมีเสียงสนับสนุนนายกรัฐมนตรี ไม่น้อยกว่า 260 เสียงแน่นอนนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตัวเลขนี้ไม่ทราบมาจากไหน แต่ยืนยันว่าจะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพมากที่สุด
เมื่อถามว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไปแบบไม่ลงมติพรรคภูมิใจไทยจะสนับสนุนนายกฯ แบบไหน นายอนุทิน กล่าวว่า ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลต้องสนับสนุนนายกรัฐมนตรีเต็มประตูอยู่แล้ว เพราะนายกรัฐมนตรีไม่เคยทำอะไรที่ผิดกฎหมายหรือผิดไปจากนโยบายที่แถลงเอง และทุกอย่างเป็นไปตามครรลองคลองธรรม และสิ่งที่ท่านทำถ้าเป็นประโยชน์กับประเทศด้วยความเป็นรัฐบาลด้วยกัน ก็ต้องสนับสนุน
เมื่อถามว่า การพิจารณาเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว หากออกมารูปแบบใดพรรคภูมิใจไทย ยังจะสนับสนุนรัฐบาลต่อไปใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องดูว่าวาระจะเข้ามาในรูปแบบใด ยังไม่สามารถพูดถึงสิ่งที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นได้ และเรื่องดังกล่าวเป็นของกระทรวงคมนาคม ที่จะต้องให้ผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดใน ครม.ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะเข้ารึเปล่า
เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของของพรรคภูมิใจไทย ในสภาประเด็นรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะมีผลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็รอให้มันเกิดขี้นก่อน เพราะถ้า ครม.มีการพิจารณาโดยมีการหยิบมาหารือกัน ซึ่งต้องรอดูว่าผลจะออกมาอย่างไร อาจจะไม่มีข้อสรุปก็เป็นได้ ก็ต้องดูเหตุดูผลทั้งสองฝ่ายที่มีเหตุผล และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหน ซึ่งนี่เป็นเรื่องของการทำงานไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
เมื่อถามว่า จะไม่ทิ้งหรือกระโดดออกจากเรือลำนี้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เคย เคยบอกไว้แล้ว มาด้วยกันก็ไปด้วยกัน ทำงานไปเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น