รถไฟด่วนนครศรีฯ พุ่งชนรถเทรลเลอร์บรรทุกแบ็กโฮ ร่วงทับกระบะพังยับ เคราะห์ดีไร้เจ็บตาย
logo ข่าวอัพเดท

รถไฟด่วนนครศรีฯ พุ่งชนรถเทรลเลอร์บรรทุกแบ็กโฮ ร่วงทับกระบะพังยับ เคราะห์ดีไร้เจ็บตาย

ข่าวอัพเดท : รถไฟด่วนนครศรีฯ ชนรถเทรลเลอร์บรรทุกรถแบ็กโฮ บริเวณจุดทางรถไฟ รถแบ็กโฮที่ขนมามาร่วงทับรถกระบะพังยับ เคราะห์ดีไร้เจ็บ-ตาย รถไฟ,รถเทรลเลอร์,รถแบ็กโฮ,รถกระบะ,พัง

775 ครั้ง
|
15 ก.พ. 2565
        รถไฟด่วนนครศรีฯ ชนรถเทรลเลอร์บรรทุกรถแบ็กโฮ บริเวณจุดทางรถไฟ รถแบ็กโฮที่ขนมามาร่วงทับรถกระบะพังยับ เคราะห์ดีไร้เจ็บ-ตาย
 
        วันที่ 13 ก.พ.65 ศูนย์วิทยุ สภ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับประสานจากศูนย์กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาเวียงสระ ว่าเกิดเหตุรถไฟชนรถบรรทุกเทรลเลอร์ 22 ล้อ ที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านพรุกระแชง หมู่ 16 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จึงรุดไปตรวจสอบ
 
       ที่เกิดเหตุเป็นจุดตัดทางรถไฟกับถนนในหมู่บ้าน มีเครื่องกั้นและอาณัติสัญญาณไฟ พบหัวรถจักรรถไฟขบวนด่วน 86 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ชนด้านข้างส่วนพ่วงหลังของรถบรรทุกเทรลเลอร์ ทะเบียน 82-1015 สุราษฎร์ธานี ซึ่งมี นายสมใจ ลั่นคีรี อายุ 40 ปี เป็นคนขับ อยู่ในสภาพชนจอดคารางรถไฟ โดยมีรถแบ็กโฮที่บรรทุกอยู่บนเทรลเลอร์หล่นลงมาทับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า แบบ 4 ประตู สีน้ำเงิน ทะเบียน กว 5356 สุราษฎร์ธานี ที่ขับตามหลังมาจนมีสภาพยุบเสียหายพังทั้งคัน โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนหัวจักรรถไฟได้รับความเสียหายเล็กน้อย
 
        สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขบวนรถไฟด่วน 86 ออกจากต้นทางสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช เวลา 15.20 น. มีความยาว 10 ตู้ โดยมี นายกิตติพงศ์ มณีฉาย และ นายอำนวย ธาตุทอง เป็นพนักงานขับรถ ผ่านสถานีพรุกระแชง อ.เวียงสระ ไปได้ประมาณ 10 นาที ก็พบว่ามีรถบรรทุกเทรลเลอร์บรรทุกรถแบ็กโฮจอดขวางทางอยู่และมีคนโบกให้สัญญาณหยุด แต่รถไฟไม่สามารถหยุดได้ เพราะระยะกระชั้นชิด กระทั่งเกิดเหตุชนกันดังกล่าว
 
        จากการสอบถามคนขับรถบรรทุกเทรลเลอร์ บอกว่า ตนขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ ขณะขับรถข้ามทางรถไฟ ส่วนเทรลเลอร์ช่วงล่างได้ติดกับทางรถไฟ ไม่สามารถขับผ่านได้ และไม่สามารถถอยรถกลับได้ จึงได้พยายามขับรถแบ็กโฮลงจากเทรลเลอร์ แต่ไม่ทัน เพราะรถไฟมาเสียก่อน และพยายามส่งสัญญาณให้รถไฟหยุด ซึ่งรถไฟพยายามเบรกแล้ว แต่ไม่สามารถหยุดรถได้ จึงเกิดเหตุดังกล่าว
 
          อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบสวนสาเหตุ เนื่องจากที่เกิดเหตุยังมีไม้กั้นทางรถไฟลงปิดจุดตัดทางรถไฟและอาณัติสัญญาณไฟสีแดงยังติดค้างอยู่ ส่วนพนักงานขับรถไฟได้นำขบวนรถถอยหลังกลับมาจอดพักที่สถานีพรุกระแชง เพื่อเคลื่อนย้ายรถบรรทุกพ่วงออกจากที่เกิดเหตุ