ปัญหาความรุนแรงในประเทศไทยไม่ใช่ปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นปัญหาที่มีมานาน ข่าวความรุนแรงในครอบครัว การทำร้ายคนรัก พบเห็นได้บ่อยมากขึ้น ซึ่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นล้วนสร้างผลกระทบต่อผู้ถูกกระทำทั้งร่างกายและจิตใจเป็นบาดแผลที่เจ็บปวดจนยากจะลืม
ความรักทำให้คนตาบอด! สาวถูกแฟนทำร้าย สุดช็อกเสียดวงตา ฝ่ายชายรอดคุก ไร้เยียวยา
วันที่ 9 ก.พ.65 นัท สาววัย 23 ปี ถูกแฟนเก่าทำร้าย ได้เปิดใจผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงเรื่องราวที่ถูกแฟนเก่าทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ต้องสูญเสียดวงตา ส่วนฝ่ายชายรอดคุก แถมยังการไร้เยียวยาว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปี ก่อน ได้คบหากับแฟนมาได้ระยะหนึ่ง แม่เขาก็ชวนไปทำงานที่ภูเก็ต อยู่ได้ไม่ถึง 1 เดือน ก็เกิดการทะเลาะกันแค่เรื่องกระเป๋าใบเดียว เป็นกระเป๋าของพี่สาวฝ่ายชาย ก็เริ่มมีปากเสียงกัน เราก็งอนเดินเข้าห้องในใจเราก็คิดว่าเดี๋ยวฝ่ายชายจะมาง้อ แต่ที่ไหนได้เขาเปิดประตูมาก็ใส่เราเลย ทั้งเตะและต่อย เราสู้เขาไม่ได้เพราะเขาแรงเยอะ ภาพสุดท้ายที่เห็นคือ หมัดเขาเข้าที่เบ้าตาด้านซ้าย เลือดไหลนองพื้น แล้วเราก็สลบไปเลย เพราะจำเรื่องต่อจากนั้นไม่ได้ ตอนนั้นไม่ได้รู้สึกเจ็บ แต่รู้สึกชา ก่อนที่ภาพจะตัดไป รู้สึกตัวอีกทีคือตื่นมาในโรงพยาบาล โดยมีแม่ของเราอยู่ข้างเตียง และมีพี่น้ำ ซึ่งเป็นพี่ในมูลนิธิคอยช่วยดูแล ตั้งแต่สอบถามเหตุการณ์ ช่วยกันฝ่ายชาย ติดต่อผู้ปกครอง และดำเนินเรื่องต่างๆให้เรา
หลังจากที่ฟื้นขึ้นมา คุณหมอก็แจ้งว่าให้ทำใจ หมอทำเต็มที่แล้ว ตาข้างซ้ายอาจจะไม่มีสิทธิกลับมามองเห็นอีกแล้ว เราก็นิ่งไม่ได้ตอบอะไร อาจเพราะช็อก ร้องไห้ไม่ออก แต่เป็นแม่ของเราที่ชิงร้องไห้ก่อน เราคิดว่าแม่น่าจะรู้มาก่อนเราแล้ว หมอถามแม่ว่าจะให้บอกลูกเลยไหม แม่ก็ตัดสินใจให้บอกเราเลย เรารักษาตัวที่ภูเก็ตประมาณอาทิตย์นึง ก่อนกลับมารักษาตัวต่อที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นชีวิตเปลี่ยนไปเลย ตอนนั้นมีแม่และพี่น้ำเป็นคนคอยจัดการทุกอย่าง รวมถึงเรื่องคดี หลังเกิดเหตุฝ่ายชายก็มีมาหาเราบ้าง มาขอโทษพูดพร่ำพรรณนาว่าถ้าเอาตาให้เราได้จะเอาให้ จอนนั้นเราโกรธมาก คิดแค่ว่าเขายังมรหน้ามาให้เรายกโทษให้อีกเหรอ เขาเอาตาเราไปขนาดนี้ หลังจากนั้นแม่ก็พยายามกันไม่ให้เขาเข้ามาเจอเราอีก
นัท เล่าต่อว่า ช่วงแรกๆ เราเล่นโทรศัพท์ไม่ได้ ดูทีวีก็ไม่ได้ อ่านหนังสือยังลำบาก อยู่ในที่แจ้งยังไม่ค่อยได้เลย เพราะตาเราต้องปรับสภาพ สามารถเพ่งได้แค่ข้างเดียว หลังจากกกลับมาเล่นโทรศัพท์ได้ เราเปิดเฟสบุ๊คมาก็เห็นข้อความจากเขาเต็มไปหมด เราก็ตัดสินใจบล็อกเขาไปเลย แต่ที่พีคมากคือ เขาปลอมเฟสบุ๊คเพื่อนแม่ มาขอเป็นเพื่อนเรา เราก็คิดว่าเป็นเพื่อนแม่ก็เลยรับแอด เขาก็คอยมาตามส่อง ตามกดไลค์ จนวันนึงเขาทนไม่ไหวใช้เฟสนั้นส่งข้อความมาหาเรา เขาพิมพ์มาร่ายยาวแบบสุนทรภู่เลย
หลังจากนั้นก็มีการขึ้นศาล ซึ่งขณะนั้นผู้ก่อเหตุอายุ 17 ปี เลยขึ้นศาลเยาวชน ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่นานก็ได้รับการประกันตัวออกมา ศาลสั่งให้จ่ายค่าเยียวยา 270,000 บาท โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุเจรจาขอผ่อนจ่ายเดือนละ 5,000 บาท แต่ชดใช้ไม่นานก็หายเงียบ ยอดที่เหลืออยู่ตอนนี้คือ 87,000 บาท
และก่อนที่ นัท จะมาออกรายการ อยู่ดีๆ ฝ่ายชายก็ส่งข้อความมา ทั้งที่เงียบหายไปกว่า 5 ปี โดยส่งข้อความมาว่า "สบายดีนะเธอ เราก็ไม่รู้เหมือนกันจะทักเธอมาทำไม แต่ขอโทษนะถึงขอโทษแล้วไม่ได้อะไรเลยทำได้แค่ขอโทษอะ เรื่องเงินก็ไม่ได้หนี เราไม่มีให้ ก็ไม่รู้เหมือนกันจะต้องทำยังไง ขอโทษนะเดี๋ยวเราคุยกับแม่ก่อนว่าทำยังไง ไม่ใช่ว่าพอเป็นเรื่องทักมาขอโทษแต่เราไม่กล้าทักเธอไปจริงๆ"
นัท เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่เธอจะได้ตาเทียมมาในปี 2562 ช่วงนั้นต้องใช้อายชิลด์ปิดตา ก็รู้สึกเครียดที่มีคนถามเรื่องตาตลอด แม้แต่คนที่ไม่รู้จักที่อยู่ดีๆ ก็ถามว่าตาเป็นอะไร เราก็ตอบไปตรงๆว่า เราตาบอด ก่อนที่เราจะได้ตาเทียมมา ก็ต้องผ่าตัดเพื่อที่จะใส่ตาเทียมได้ ระหว่างรอตาเทียม เป็นร้อนในในตา ตาอักเสบ ต้องรักษาไปเรื่อยๆ ตอนนั้นท้อมาก พอได้ใส่ตาเทียมแล้วก็รู้สึกเจ็บ เราต้องทนใส่ไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ใส่ได้
ที่ตัดสินใจทำคลิปขึ้นมาเพราะเราได้มีโอกาสไปดูคลิปหนึ่งของต่างประเทศ ที่เยาวชนทำผิดแต่ต้องติดคุกตลอดชีวิต ทำให้เราเกิดความสงสัยว่าทำไม เรื่องที่เกิดกับเรา เขาถึงไม่ติดคุก ยังใช้ชีวิตได้ปกติ เราเลยได้แชร์เรื่องราวของตัวเอง จนคนมากดไลค์ นำไปสู่การทำคลิปที่เราลงติ๊กต็อก เรื่องเงินเยียวยา เรื่องศาล หรือเรื่องเขา เราทำใจไปนานแล้ว แต่ที่เราอยากออกมาเผยแพร่ เพราะเรารู้สึกว่าเราก็ผิดพลาดเหมือนกัน ตอนวัยรุ่นเราเองก็ผิดพลาด เราแค่อยากแชร์ว่าครั้งหนึ่งเราโดนซ้อม เราสู้ เราลำบากล้มลุกคลุกคลาน อยากแชร์ว่าเราก็ชอกช้ำมาเหมือนกัน แต่เราก็ผ่านมันมาได้ และตอนนี้ชีวิตเราก็เหมือนฟ้าหลังฝน ได้พบคนที่รักเราแม้เราจะตาบอด เขาคอยดูแล ให้กำลังใจ และเป็นพลังบวกให้กับเรา
ในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ แนะนำว่า เรื่องที่ค้างจ่ายเงินเยียวยา เราสามารถไปตั้งเรื่องที่ศาลเพื่อให้ศาลออกคำบังคับ เพื่อให้เจ้าพนักงานยึดทรัพย์สินของจำเลยได้ เราต้องดำเนินการบังคับคดีภายใน 10 ปี แล้วพฤติกรรมของฝ่ายชายที่ส่งข้อความมา ดูแล้วไม่ได้สำนึกถึงการกระทำ ผมขออนุญาตกราบหัวใจของน้องนัทเลยครับ ที่สามารถผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาได้ แล้วยังมีพลังบวกในการใช้ชีวิตมาก
เมียเก่าระทม ผัวไม่อยากส่งเสียลูก ชวนเมียใหม่ตีเมียเก่า ง้างสปาต้าวิ่งใส่ ถีบแม่ยายหน้าหงาย!
ขณะที่อีกกรณี อดีตสามีไม่ยอมจ่ายค่าเลี้ยงดูลูก 5 พันบาทตามศาลสั่ง ชวนเมียใหม่ ควงมีดสปาต้า บุกทำร้ายเมียเก่าถึงบ้าน ชุลมุนพาลตีอดีตแม่ยาย-น้องชายบาดเจ็บ จากข่าวนี้เอง น้ำ สาวที่ถูกอดีตสามีทำร้าย เล่าให้ฟังว่า เธอหย่ากับสามีนานแล้ว เพราะสามีชอบทำร้ายทุบตี หลังหย่าเธอเป็นฝ่ายเลี้ยงลูกคนเดียว อำนาจในการปกครองอยู่ที่เธอ ตอนแรกเธอไม่เคยขอค่าเลี้ยงดูจากเขาเลย ต่างคนต่างอยู่ แต่อยู่ๆสามีมาฟ้องเธอ กล่าวหาว่าเธอกีดกันไม่ให้พบลูก ทั้งๆที่ เธอก็ให้เขาคุยกับลูกได้ตามปกติ สุดท้ายศาลตัดสินให้เขาต้องส่งเงินค่าเลี้ยงดูบุตรจำนวน 5,000 บาท มาให้เธอทุกๆ เดือน แล้วเขาก็มาหาว่าเธออยากได้เงินเขา ทั้งๆที่เขาเป็นคนฟ้องเธอเอง หลังจากนั้นก็มีปัญหากันเรื่อยมา ทั้งกับตัวเขาเองและภรรยาใหม่เขา
กระทั่งก่อนเกิดเหตุ ฝ่ายชายบอกว่าจะไม่ส่งเงินจำนวนดังกล่าวให้อีกแล้ว และอยากจะนัดเคลียร์ปัญหาให้จบๆ ไป โดยฝ่ายชายโทรมาถามว่า "ตบกับเมียกูไหม" จะได้จบๆ ไป เธอจึงตอบตกลง กระทั่งถึงวันนัด ปรากฏว่าฝ่ายชายมาพร้อมกับภรรยาใหม่ เธอคิดว่าน่าจะมาคุยเรื่องลูก แต่ทางฝ่ายชายบอกว่า เรื่องลูกไม่ใช่ประเด็น เธอจึงบอกว่าถ้าเรื่องลูกไม่ใช่ประเด็น และไม่สำคัญก็ไม่ต้องคุย หลังจากนั้นจึงเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นไม่นานนัก ภรรยาใหม่ ได้ลงมาจากรถพร้อมมีดดาบแบบสปาต้า อดีตจึงวิ่งมากระโดดถีบเข้าที่ท้องของเธอ และจะใช้มีดสปาต้าไล่ทำร้าย และเตรียมที่จะลงมือฟัน โดยทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น พยายามเข้าห้ามปราม และปกป้องคนในครอบครัว โดยเธอถูกสามีเก่าทั้ง ถีบ และ เตะจนล้มไปกองกับพื้น เธอจึงตะโกนเรียกญาติๆ ให้เข้ามาช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็ถูกฝ่ายชายทำร้ายร่างกาย ก่อนจะพาลไปทำร้ายญาติๆ ของเธอ ซึ่งในจังหวะนั้นเห็นว่าภรรยาของฝ่ายชายยืนอยู่เพียงลำพัง จึงวิ่งเข้าไปตบหน้า 1 ครั้ง จากนั้นก็ใช้สากตีเข้ากลางศีรษะอย่างจัง ทำให้ทั้งอดีตสามีและภรรยาใหม่ต้องล่าถอยกลับไป
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอไม่คิดว่าผู้ชายอกสามศอกจะกล้าทำร้ายผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือว่าไม่มีความยำเกรงต่อกฎหมายเลย หลังเกิดเหตุก็เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองระยอง โดยยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งทางเขาเองก็แจ้งความดำเนินคดีกับเธอเช่นกัน
ทั้งนี้ทางรายการได้โทรศัพท์สอบถามชายผู้ก่อเหตุเพื่อให้ชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กลับได้คำตอบสั้น ๆ ว่า ไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆทั้งสิ้น และจะดำเนินคดีทางกฎหมาย จากนั้นก็กดวางสายไป
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com
เมียเก่าระทม ผัวไม่อยากส่งเสียลูก ชวนเมียใหม่ตีเมียเก่า ง้างสปาต้าวิ่งใส่ ถีบแม่ยายหน้าหงาย!
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/eTEriXxlI9s