หญิงสาวกินสารเคมีทำความร้อนสำหรับอุ่นอาหารจนปวดท้องหนัก อ.เจษฎ์ เตือนอันตราย เป็นพิษสูง
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 แฟนเพจเฟซบุ๊ก ‘กู้ชีพ-กู้ภัย-อบต.ป่ายุบใน’ ที่จังหวัด ระยอง ได้โพสต์เตือนภัย หลังได้รับแจ้งเหตุให้เข้าช่วยเหลือ น.ส.พงษ์พรรณ สมลา อายุ 47 ปี พบว่ามีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและอาเจียน จากการที่ประชาชนกินสารเคมีทำความร้อนสำหรับอุ่นอาหาร ในบะหมี่กึ่งสำเร็จชนิดถ้วยเข้าไป เจ้าหน้าที่และอาสาฯได้เข้าช่วยเหลือให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลวังจันทร์ให้แพทย์รักษาต่อไป
หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลักษณะสีเขียวหกกระจัดกระจาย จากการถามทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ป่วยได้มีการต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทาน แต่พอกินเข้าไปแล้วรู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรง และอาเจียน ผู้ป่วยคงเข้าใจว่าสารเคมีสำหรับอุ่นอาหารที่ให้มากับตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นเครื่องปรุงรส จึงฉีกซองใส่ในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโดยไม่ทราบว่าเป็นสารเคมีและรับประทานเข้าไป ทางด้านเจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นอันตราย จึงนำมาโพสต์เตือนภัย เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ยังไม่รู้
อย่างไรก็ตาม เช้าวันนี้ (3 ก.พ.) นายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์เตือนภัยและให้ความรู้เกี่ยวกับสารเคมีทำความร้อนสำหรับอุ่นหาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ‘อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์’ โดยมีใจความว่า
ห้ามกิน "ผงสารเคมี ที่ทำให้บะหมี่ถ้วย ร้อนขึ้น" เด็ดขาดครับ
มีรายงานข่าวว่า สตรีท่านหนึ่ง ในจังหวัดระยอง เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และอาเจียน จากการที่ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกิน ซึ่งบะหมี่เป็นแบบถ้วยร้อน มีสารเคมีสำหรับทำความร้อนเพื่ออุ่นบะหมี่ ใส่มาด้วย และคาดว่า ผู้ป่วยคงเข้าใจว่าซองสารเคมีที่ทำความร้อนเป็นเครื่องปรุงรส จึงฉีกใส่ไปในบะหมี่แล้วรับประทานเข้าไป !?
ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็อันตรายมาก และต้องเตือนภัยกันว่า ห้ามทำเด็ดขาดนะครับ !
บะหมี่ถ้วยกึ่งสำเร็จรูปดังกล่าว และผลิตภัณฑ์อาหารอุ่นร้อนด้วยตัวเองอื่นๆ จะใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Self heating packaging หรือ Flameless Ration Heaters (FRH) คือ บรรจุภัณฑ์ที่สามารถอุ่นร้อนได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้เปลวไฟ แต่อาศัยการเกิดปฏิกิริยาทางเคมีแทน โดยมีจุดกำเนิดมาจากอาหารที่ใช้บริโภคในยามฉุกเฉิน เกิดสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆ หรือเป็นถุงยังชีพของทหารในภาวะสงคราม รวมทั้งอาหารเพื่อนักบินอวกาศ ก่อนจะพัฒนาเป็นนวัตกรรมอาหาร สำหรับนักท่องเที่ยว และสภาพสังคมที่เร่งรีบในยุคปัจจุบัน
รูปแบบปฏิกิริยาเคมีที่ใช้ เพื่อให้เกิดการคายความร้อนต่ออาหาร จะมีทั้งแบบที่ใช้ "เหล็กกับแมกนีเซียม และน้ำเกลือ" โดยน้ำเกลือจะซึมเข้าไปผ่านซองที่บรรจุสารเคมี และทำปฏิกิริยาทำให้เกิดความร้อน (ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมใช้ในกองทัพ)
และแบบที่ใช้สารแคลเซียมออกไซด์ (CaO) หรือปูนขาว และสารประกอบ Mg-Fe (แมกนีเซียม-เหล็ก) ทำปฏิกิริยากับน้ำเปล่า เกิดความร้อน ซึ่งเป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่นและจีน (ดังเช่น บะหมี่ถ้วยกึ่งสำเร็จรูปดังกล่าว)
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม ก็ห้ามนำมาบริโภคนะครับเพราะมีอันตราย มีความเป็นพิษสูง ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้อย่างที่เป็นข่าวครับ