ชาวบ้านร้อง อาศัยอยู่บนที่ดินบรรพบุรุษตั้งแต่สมัย ร.5 แต่ต้องเดือดร้อนหนัก หลังโครงการหมู่บ้านหรูกว้านซื้อที่ดินปิดทางเข้าออก สิ้นเดือนนี้จะปิดตาย กลายเป็นที่ดินตาบอด
วันที่ 2 ก.พ.65 ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกปิดทางเข้าออก ร้องขอความเป็นธรรมผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ที่ดินที่มีปัญหานี้ มีเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ โดยมี 2 ด้านติดกับคลองบางกอกน้อย และคลองวัดแดงประชาราษฎร์ และอีก 2 ด้าน เป็นที่ดินของหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งมีการก่อสร้างกำแพงสูงประมาณ 3 เมตร ล้อมเอาไว้ เดิมทีชุมชนริมคลองอาศัยอยู่กันหลายครอบครัว ประกอบอาชีพทำสวนทั้งผักและผลไม้ อาศัยทางเดินเท้าออกสู่ถนนด้านนอก พวกเราอาศัยกันมานานตั้งแต่บรรพบุรุษสมัย ร.5 กระทั่งช่วงปี 2562 โครงการบ้านหรู เข้ามากว้านซื้อที่ดินของชาวบ้าน และเริ่มก่อสร้างหมู่บ้าน โดยทางหมู่บ้านได้เปิดช่องขนาดความกว้างประมาณ 2-3 เมตร ไว้ชั่วคราว เพื่อให้ชาวบ้านเดินผ่านเข้า-ออก ตามข้อตกลงเมื่อครั้งที่มีนายหน้าเข้ามาขอซื้อที่ดิน เมื่อ 4 ปีที่แล้ว
แต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 ม.ค.65 ทางหมู่บ้านจัดสรรได้นำแผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่ มาปิดช่องทางเดินเข้า-ออก ที่จะเข้าไปในที่ดินผืนหนึ่ง ซึ่งอยู่ติดกับหมู่บ้านดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ในที่ดินดังกล่าว จำนวน 8 หลังคาเรือน จำนวน 49 คน ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ ตอนแรกได้เข้าไปคุยกับทางสำนักงานของโครงการ แต่ด้วยความที่เขาเป็นแค่พนักงาน เขาจึงทำอะไรไม่ได้ จึงต้องร้องเรียนไปยังเทศบาลตำบลบางศรีเมือง เพื่อขอให้นำรถเครนมายกแผ่นคอนกรีตที่ปิดทางเข้าที่ดินออกไป จนกระทั่งช่วงค่ำประมาณ 2 ทุ่ม ชาวบ้านถึงสามารถเดินทางกลับเข้าบ้านได้ แต่ทางหมู่บ้านได้ยื่นคำขาดว่า จะเปิดช่องทางดังกล่าวให้ถึงเพียงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น จากนั้นจะก่อกำแพงปิดถาวรต่อไป ทำให้ตอนนี้ชาวบ้านรู้สึกเครียดมาก ที่ออกมาร้องเรียนก็เพียงเพราะอยากได้แค่ทางเดินเท้าออกไปสู่ถนนสาธารณะเท่านั้น จะเปิดทางออกให้ตรงจุดไหนก็ได้ ที่ผ่านมาก็พยายามคุยกับสำนักงานโครงการมาตลอด แต่เขาก็แจ้งว่าเขาเป็นเพียงพนักงานระดับล่างเท่านั้นจึงทำอะไรไม่ได้ ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมก็แล้ว เทศบาลก็แล้ว แต่เรื่องก็ยังเงียบ บอกเพียงว่าทางโครงการไม่มีหนังสือตอบรับมาเลย สุดท้ายก็บอกเพียงว่าเป็นเรื่องของเอกชน กับ เอกชน ต้องไกล่เกลี่ย หรือไปฟ้องศาลกันเอาเอง
สำหรับที่ดินที่อาศัยอยู่นี้ ชาวบ้านบอกว่าอยู่กันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย นานกว่า 100 ปีแล้ว ที่ไม่ขายเพราะส่วนหนึ่งเป็นที่ดั้งเดิมของบรรพบุรุษ ที่ตั้งรกรากมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ก็ไม่อยากจะย้ายออกไปไหน
ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยว่าในกรณีนี้ เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง สุดท้ายมันก็ต้องเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยพูดคุย แต่ถ้าพูดคุยกันไม่ได้ก็ต้องไปจบกันที่ศาล เดิมทีการสร้างบ้านกับวิถีชุมชนในอดีต คนที่อยู่ใกล้คลองจะได้เปรียบ เพราะเมื่อก่อนเราเดินทางกันทางน้ำ แต่วันนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ข้อกฎหมายก็ควรจะเปลี่ยนไปด้วย ตามหลักการ หมู่บ้านต้องเปิดทางออกให้ชาวบ้าน เพราะตอนนี้ไม่มีทางออกให้ชาวบ้านได้เดิน ทางเดินเลียบคลองก็ไม่มีแล้ว เท่ากับว่าชาวบ้านไม่มีทางเดินสาธารณะ ฉะนั้น ชาวบ้านสามารถร้องต่อศาลให้หมู่บ้านเปิดทางได้ ซึ่งอาจจะมีเรื่องค่าเปิดทางอะไรก็ค่อยไปตกลงกัน ถ้าปลายทางมีการฟ้องศาลอาจจะต้องสืบยาวไปถึงเดิมเคยใช้ทางเข้าออกอย่างไร ก็ต้องมารื้อว่าเคยมีที่ดินเป็นภาระจำยอมในหมู่บ้านนี้หรือไม่ ซึ่งทางออกที่ดีที่สุดคือการพูดคุยกับทางหมู่บ้าน มาหาทางออกร่วมกัน เพราะในบริเวณนี้มีทั้งผู้สูงอายุ คนป่วย อยู่ด้วย หากจะต้องไปโรงพยาบาล ก็อาจจะเป็นปัญหาตามมา ปลายทางอาจมีการฟ้องร้องทางคดีเกิดขึ้นก็ได้ แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น เราพูดคุยกันก่อนดีกว่า โดยในวันพรุ่งนี้ ( 3 ม.ค.65 ) จะส่งจนท.ยุติธรรมจังหวัดลงไปร่วมฟังการเจรจาไกล่เกลี่ยด้วย ส่วนเรื่องที่ทาง จนท.รัฐ บอกว่าเป็นปัญหาระหว่างเอกชนกับเอกชนนั้น จะคิดแบบนั้นไม่ได้ เพราะประชาชนมีปัญหารัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือ หากเรื่องนี้ยังไม่มีทางออก ผมจะลงพื้นที่ไปดูด้วยตัวเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้กรอบในการทำงานไว้
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง
hitz955.com
+ อ่านเพิ่มเติม