เจ็บขนาดนี้ยังทำกันลง? พ่อค้าลูกชิ้นร้อง ถูก 6 ตำรวจรุมทำร้ายแขนหัก สุดอึ้ง โดนแจ้งข้อหาขัดคำสั่ง

        วันที่ 1 ก.พ.65  นายสหรัช ยิ่งตระกูล พ่อค้าลูกชิ้น ได้ร้องขอความเป็นธรรมผ่านรายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า วันที่เกิดเหตุเป็นวันที่ 25 ม.ค.65 เวลาประมาณ 23.30 น. ตนกับหลานซึ่งเป็นผู้พิการทางสติปัญญาประเภท 5 ได้ขี่รถ จยย.ไปซื้อลูกชิ้นทอดที่ตลาดสมบัติ หลังจากที่ซื้อลูกชิ้นเสร็จตนกับหลานก็ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านปกติ เมื่อถึงหน้าปั๊มน้ำมันบางจาก ถ.พิบูลสงคราม อ.เมืองนนทบุรี ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขี่มอเตอร์ไซค์มาตีคู่และเรียกตนกับหลานให้ลงจากรถ จากนั้นก็ขอตรวจค้นตัวและรถ จยย.พร้อมขอตรวจปัสสาวะ ตนก็ยินยอมให้ตรวจค้นแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับหลานกับตนไปแยกตรวจปัสสาวะ ซึ่งตนเป็นห่วงหลานเพราะหลานถามตอบไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะมีความพิการทางสมองจึงบอกให้ตำรวจเอาหลานมาตรวจพร้อมกับตนใกล้ๆ ถ้าดูจากภายนอกหลานจะดูเหมือนคนปกติ แต่จะพูดจาโฮกฮาก จึงเริ่มมีการพูดจาไม่ดีใส่กัน พอตรวจปัสสาวะเสร็จก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่ก็โต้เถียงกันไปมา แล้วตำรวจก็ขอตรวจรถอีกครั้ง โดยผลการตรวจค้นนั้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย เว้นแต่รถ จยย.ของตนไม่ติดป้ายทะเบียน แต่ป้ายทะเบียนกับเล่มทะเบียนอยู่ใต้เบาะรถ จากนั้นตำรวจก็ขอตรวจบัตรประชาชนแต่ตนลืมไม่ได้เอาบัตรประชาชนมาเนื่องจากแค่ขับรถ จยย.มาซื้อลูกชิ้นทอดกับหลาน ตำรวจก็จะยึดรถ เพราะไม่พกใบขับขี่และไม่พกบัตรประชาชนมาให้ตรวจ ด้วยความที่ต้องใช้รถไว้ทำมาหากิน จึงเกิดการโต้เถียงว่าให้เขียนใบสั่งมา ตนจะไปจ่ายค่าปรับที่โรงพักแทน จากนั้นตนจึงกระโดดคร่อมรถเพราะไม่อยากให้ตำรวจเอารถไป ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจจะขี่รถหนี เพราะ หลาน และลูกชิ้น ก็ยังอยู่ตรงนั้น พอตนกระโดดขึ้นคร่อมรถก็ถูกตำรวจรุมจับตบหน้า ล็อกแขน และล็อกคอ จับกดหัวตนลงกับพื้นจนทำให้แขนหัก จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 คน ตะโกนบอกว่า แขนมันหักแล้ว 

 

 

          ตำรวจทุกคนจึงหยุดและเรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวตนส่งโรงพยาบาล ทางหมอก็รักษาและเอกซเรย์ปรากฏว่าแขนตนหัก ตนได้แจ้งกับทางหมอว่าถูกตำรวจตี แต่ในใบรับรองแพทย์ระบุว่า แขนหักเพราะประสบอุบัติเหตุ หลังจากที่ออกจาก รพ.ตำรวจก็พาไปที่ สภ.เมืองนนทบุรี ตำรวจให้ตนเซ็นใบบันทึกจับกุม ซึ่งวันนั้นปวดแขนมาก ก็ไม่รู้ว่าให้เซ็นอะไร คืนนั้นตนนอนห้องขัง 1 คืน เช้าวันต่อมาก็ถูกส่งไปที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อเสียค่าปรับ พอเรื่องถึงศาลถึงได้รู้ว่าโดนข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงานในขณะปฎิบัติหน้าที่ และต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติตามหน้าที่ แต่ด้วยความที่อยากกลับบ้านก็เลยยอมเซ็นไป 

 

 

          นายนิฐิพงศ์ ยิ้มศิริ เพื่อนสนิทของพ่อค้าลูกชิ้น เล่าว่า ตอนช่วงประมาณ 4.30 น. ได้มีเพื่อนโทรมาแจ้งว่า นายสหรัช โดนจับจึงติดต่อกับทางผู้กำกับ สภ.เมืองนนทบุรี ถามว่าลูกน้องท่านทำเกินกว่าเหตุรึเปล่า ท่านบอกจะไปสอบถามลูกน้องก่อน ตอนแรกตนก็สงสัยว่าเพื่อนขัดขืนตำรวจหรือเปล่า จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดที่ปั๊มดู เห็นว่าเพื่อนไม่ได้ขัดขืนต่อสู้เจ้าพนักงานเลย กลับกันเขาโดนกระทำฝ่ายเดียว จากนั้นจึงติดต่อไปยังผู้กำกับอีกครั้ง เอากล้องวงจรปิดไปให้ดู เขาก็ยังยืนยันว่าลูกน้องทำถูกแล้ว  เขาถามประโยคแรกเลยว่าจ่ายค่าปรับหรือยัง พอตนบอกจ่ายแล้ว เขาบอกว่าคุณจ่ายค่าปรับแล้วแสดงว่าคุณผิด คุณยอมรับผิดแล้วว่าคุณขัดขืนเจ้าหน้าที่ 

 

 

           ด้าน พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เผยถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ถ้าพูดตามรูปการณ์ ตำรวจทำหน้าที่ปกติ ไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ ตำรวจเรียกตรวจค้น กำลังบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาว่าไม่มีป้ายทะเบียน ซึ่งในข้อเท็จจริง จากการสอบถามตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เขาได้ยินผู้ต้องหาบอกน้องชายว่า เดี๋ยวกลับเองนะ แล้วก็ได้ยินคุยโทรศัพท์ว่า ไม่ให้ยึดรถหรอก รถไม่ใช่ของเขา เขายืมเพื่อนมา แล้วปรากฏว่าน้องเขาเสียบกุญแจแล้วจะบิดหนี เลยต้องกระชากน้องลงมา มีการล็อคแขนซ้าย ตำรวจจับได้ข้างเดียว การใส่กุญแจมือต้องใส่ทั้งสองข้าง แขนขวาจึงมีการยึดกันไปมา จึงมีการฉุดกระชากกันจนทำให้แขนหัก ที่แพทย์ระบุว่าน้องแขนหักจากอุบัติเหตุเพราะ ไม่จำเป็นต้องเป็นรถชน ถึงจะเป็นอุบัติเหตุ ลักษณะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ เพราะตอนจับกุมก็ไม่ได้หวังให้ใครเป็นอะไรอยู่แล้ว แต่ตอนผู้ต้องหาดิ้นอาจเกิดการผิดพลาด นำไปสู่เรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งคดีนี้สิ้นสุดไปแล้ว โดยศาลได้มีการพิพากษาจำคุก 1 เดือน รอลงอาญา 1 ปี เปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท ส่วนผู้ต้องหามีความไม่พอใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ก็สามารถไปร้องทุกข์กล่าวโทษได้ ส่วนเรื่องที่ทางตำรวจช่วยออกค่ารักษาพยาบาลให้นั้น เนื่องจากตำรวจมีความเมตตา มีความรับผิดชอบ ก็ช่วยจ่ายค่ารักษาให้ 

 

 

          ฟากนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา ระบุว่า สิ่งที่เห็นวันแรก เขาเอาคลิปมาให้ดู เอาเอกสารมาให้ดู ผมติดใจอย่างแรกคือใบรับรองแพทย์ ระบุว่า เกิดจากอุบัติเหตุ แต่ถ้าดูคลิปประกอบด้วย มันอุบัติเหตุตรงไหน ภาพมันชัดอยู่แล้ว คน 6 คน รุมทำร้ายคนคนเดียว แบบนี้เรียกว่าอุบัติเหตุเหรอ ถ้าเคสนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด น้องจะต้องแขนหักเพราะอุบัติเหตุแน่นอน สิ่งแรกที่พนักงานสอบสวนต้องทำ คือต้องส่งให้แพทย์นิติเวชตรวจพิสูจน์ เพื่อวิเคราะห์ว่าแขนหักเพราะอะไร ไม่มีรอยช้ำแต่มันก็หักเพราะสาเหตุอะไร แล้วมาดูคลิปถามว่าเกินกว่าเหตุไหม ยืนยันว่าเกินกว่าเหตุ เพราะ 1 เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่มันเยอะเกินกว่าเหตุ 2 พฤติการณ์ที่ทำมันรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอกับแค่คนธรรมดามีถุงลูกชิ้นอยู่ตะกร้า จำนวนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการ สมควรแก่พฤติการณ์ไหม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ใช้จนท.ตั้ง 6-8 คนรุมจับเลยเหรอ ข้อหาไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเขาถึงขั้นต้องแขนหักเลยเหรอ ส่วนเรื่องที่บอกว่าน้องจะขี่จยย.หนีนั้น รถไม่ได้สตาร์ทมันจะทำอะไรได้ มันจะหนีไปไหนได้ แล้วความรุนแรงที่เกิดกับเขา มันเกินกว่าข้อหาด้วยซ้ำ แค่รถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ต้องถึงกับแขนหักเลยเหรอ สำหรับคดีที่ศาลพิพากษาตัดสินไปแล้ว ตอนนี้เรามีหลักฐานเพื่อจะนำไปยื่นในชั้นอุทธรณ์ เพราะตอนแรกเขายังไม่มีคลิปหลักฐาน มัันมืดมนไปหมด แต่ตอนนี้มีหลักฐานแล้ว ก็ได้มอบหมายให้ทนายที่มีประสบการณ์ดูแลคดีในชั้นอุทธรณ์ดูแลต่อ พฤติการณ์พฤติกรรมที่เจ้าหน้าที่ทำกับเขามันเกินกว่าเหตุ แต่อันดับแรก ใบรับรองแพทย์ต้องเคลียร์ก่อน วันนี้ได้เข้าพบเจ้าพนักงานเพื่อส่งตัวเขาไปตรวจกับแพทย์นิติเวชอีกครั้ง หากบาดเจ็บเกิน 20 วัน จะเข้าข่ายอันตรายสาหัส โทษจะหนักขึ้นไปอีก ส่วนตัวมองว่า คนเมืองนนท์ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ไหว้สวยรวยกระเช้า ก็แล้วแต่น้องว่าจะเอายังไง

 

            ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่  https://youtu.be/_NO97Nz5_DY