วันที่ 29 ม.ค.65 ที่ สน.บางซื่อ นายชนกันต์ พูนศิริวงศ์ หรือ "บอส" ดาราหนุ่มช่อง 7 พร้อมผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเอาผิดนางสาว วรารัตน์ ทับพวง หรือ "แพร" จากกรณีที่ก่อนหน้านี้บอส ได้มีการเปิดแบรนด์ขายเสื้อผ้ายี่ห้อหนึ่ง และได้เตรียมจัดทำกางเกงคอลเล็กชันเดือนกุมภาพันธ์ จึงได้พยายามหาโรงงานและช่างตัดเย็บที่มีคุณภาพ และราคาที่เหมาะสม จึงเข้าไปโพสต์หาในกลุ่มเฟซบุ๊กแห่งหนึ่ง จนกระทั่งมีนางสาว แพร เจ้าของร้านตัดเสื้อแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้ามาเสนอตัวรับผลิตกางเกงจำนวนดังกล่าวให้ โดยมีการส่งโปรไฟล์หน้าร้านผลงานและการตัดเย็บต่างๆมาให้ตนเองดู เพื่อสร้างความมั่นใจ เมื่อตรวจสอบดูก็เห็นว่าน่าเชื่อถือจึงตัดสินใจสั่งตัดเย็บกับร้านดังกล่าว โดยมีการว่าจ้างตัดเย็บเป็นกางเกงทั้งหมด 700 ตัว รวมมูลค่าการว่าจ้างและลงทุนทั้งหมดประมาณ 51,000 บาท
โดยในระหว่างขั้นตอนการดีไซน์และตัดเย็บเจ้าของร้านตัดเสื้อดังกล่าวได้ส่งตัวอย่างผ้า แบบกางเกง และความคืบหน้ามาให้ดูอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งยังส่งตัวอย่างกางเกงที่ตัดเสร็จเรียบร้อยแล้วมาให้ดู และยังมีการถ่ายทอดขั้นตอนการตัดเย็บแบบเรียลไทม์ให้ดูด้วย จึงยิ่งมั่นใจว่าน่าจะได้ของตามที่ตกลงกันไว้จึงตัดสินใจโอนเงินทั้งหมดไปให้เป็นก้อนใหญ่ แต่เมื่อถึงวันนัดหมายรับของเจ้าของร้านดังกล่าวกับปิดการติดต่อไม่สามารถติดต่อผ่านไลน์ได้ เมื่อโทรศัพท์ไปก็ไม่รับสาย และเมื่อนำเรื่องไปโพสในกลุ่มที่เข้าไปตอนแรก ปรากฏว่ามีผู้เสียหายรายอื่นๆที่เคยถูกร้านตัดเสื้อดังกล่าวก่อเหตุในพฤติการณ์แบบเดียวกัน ส่งข้อมูลเข้ามาพูดคุยอีกจำนวนหนึ่ง จึงเกรงว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นการฉ้อโกงกันจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่สน. บางซื่อ เพื่อให้เจ้าตัวมาเจรจานำเงินลงทุนมาคืน หรือนำเสื้อผ้าที่ตัดสำเร็จแล้วมามอบให้
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวทำให้ตนเองได้รับความเสียหายเนื่องจาก collection ที่สั่งกับห้องเสื้อดังกล่าวไปเป็น collection ที่ต้องวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์แต่เมื่อของออกไม่ทันก็ทำให้ธุรกิจมีปัญหาจึงอยากให้เจ้าของร้านห้องเสื้อดังกล่าวเข้ามาพูดคุยเจรจาหรือหากไม่ยอมมาเจรจาจริงก็จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ขณะที่นางสาว อติภา เทวบัญชาประเสริฐ หรือเฟิร์น หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า เธอเคยติดต่อให้นางสาวแพรช่วยผลิตเสื้อผ้าคอลเลคชันหนึ่งให้เนื่องจากต้องใช้บริษัทซัพพลายช่วยผลิต แต่เมื่อโอนเงินปล่อยให้เรียบร้อยแล้วเจ้าตัดการติดต่อหลบหนีไป จึงได้พยายามติดตามตัวจนพบและเกลี้ยกล่อมเจรจาให้นำเงินมาคืนจนสำเร็จทั้งหมด แต่กลับกลายเป็นว่านางสาวแพรยิ่งไปหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นเพิ่มขึ้นรวมถึงกรณีของบอสด้วย นอกจากนี้ยังถูกนางสาวแพรนำรูปภาพของที่ร้านตนเองไปแอบอ้างหลอกผู้เสียหายรายอื่นๆเรื่อยมา แต่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความเอาผิด จนกระทั่งล่าสุดพบว่ามีผู้เสียหายอีกจำนวนมากรวมถึงกรณีของบอสด้วย จึงตัดสินใจเข้ามาแจ้งความเอาผิดด้วยในครั้งนี้
ร้อยตำรวจโท อณัฐพล เหื้อสุข รองสารวัตรสอบสวน สน.บางซื่อ ได้สอบปากคำและตรวจสอบพยานหลักฐานของผู้เสียหายทั้งสองคนก่อนที่จะดำเนินการออกหมายเรียกตัวนางสาวแพรเข้ามาพบเพื่อเจรจาหรือแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
+ อ่านเพิ่มเติม